ตำรวจนำตัวผู้ต้องหา 2 คนแรกที่ถูกจับกุมในคดีลอบวางระเบิดหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ บินจากนราธิวาสเข้ากรุงเทพฯ เพื่อส่งเข้ากระบวนการฝากขังต่อศาล ท่ามกลางการคุ้มกันอย่างแน่นหนา
เหตุลอบวางระเบิดหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ย่านปทุมวัน เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 ส.ค.62 แต่เจ้าหน้าที่ยิงทำลายและเก็บกู้เอาไว้ได้อย่างปลอดภัย ต่อมาในคืนเดียวกันก็สามารถจับกุมผู้ต้องหา 2 คนนี้ได้บริเวณแยกปฐมพร อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร ขณะโดยสารรถบัส บขส.มุ่งหน้าลงใต้ ปลายทางจังหวัดสงขลา
ผู้ต้องหา 2 คนนี้คือ นายลูไอ แซแง อายุ 22 ปี กับ นายวิลดัน มาหะ อายุ 29 ปี ทั้งคู่มีภูมิลำเนาอยู่ในอำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส
เดิมทีทั้งนายลูไอ และนายวิลดัน ตกเป็นผู้ต้องสงสัยเท่านั้น แต่ตำรวจกลับนำตัวลงไปควบคุมไว้ที่ "ศูนย์พิทักษ์สันติ" ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า ภายในโรงเรียนตำรวจภูธร 9 อำเภอเมือง จังหวัดยะลา โดยอ้างอำนาจตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 หรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จนถูกนักสิทธิมนุษยชนตั้งคำถาม เพราะเหตุลอบวางระเบิดเกิดขึ้นที่กรุงเทพฯ และการจับกุมก็จับที่จังหวัดชุมพร อยู่นอกพื้นที่ประกาศบังคับใช้กฎหมายพิเศษ จึงไม่น่าใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯได้
แต่ต่อมาตำรวจอ้างว่าทั้ง 2 คนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดในพื้นที่เมื่อปี 60 จึงขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดนราธิวาส เพื่อคุมตัวทั้งสองไว้ จากนั้นในวันที่ 8 ส.ค.จึงขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญาที่กรุงเทพฯ ในคดีลอบวางระเบิดหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ท่ามกลางกระแสวิจารณ์ในหมู่นักสิทธิฯ
ล่าสุดหลังคุมตัวที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ราวๆ 12 วัน ตำรวจก็นำตัวทั้งนายลูไอ และนายวิลดัน ขึ้นเครื่องบินคาซ่าจากจังหวัดนราธิวาส มาลงที่กองบินตำรวจ ดอนเมือง เพื่อส่งตัวให้ สน.ปทุมวัน ท้องที่เกิดเหตุ เพื่อเข้าสู่กระบวนการสอบสวนและฝากขังต่อศาล โดยเมื่อช่วงบ่ายของวันอังคารที่ 13 ส.ค. ตำรวจหน่วยอรินทราช 26 ได้ไปรับตัว นายลูไอ และนายวิลดัน ที่กองบินตำรวจ และส่งขึ้นรถตู้เพื่อเดินทางไปยัง สน.ปทุมวัน ผู้ต้องหาทั้งสองอยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาว นุ่งโสร่ง ตัดผมสั้นเกรียน
เมื่อไปถึง สน.ปทุมวัน เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวทั้งสองเข้าห้องประชุมบนโรงพักทันที จากนั้นมีแพทย์จากโรงพยาบาลตำรวจ กับเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เข้าไปตรวจร่างกาย เก็บลายนิ้วมือ และดีเอ็นเอของผู้ต้องหา จากนั้นจะแยกขังและแยกสอบ โดยส่งนายวิลดันไปที่ สน.บางรัก ขณะที่นายลูไอ อยู่ที่ สน.ปทุมวัน ซึ่งฝ่ายตำรวจอ้างว่ามีเวลาคุมตัวในขั้นตอนนี้ 48 วัน จากนั้นจะส่งไปยื่นคำร้องขอฝากขังต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ในวันที่ 15 สิงหาคม
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 8 ส.ค. ศาลได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน โดยตำรวจตั้ง 4 ข้อหาฉกรรจ์ คือ อั้งยี่ซ่องโจร, ร่วมกันทำ ใช้ มีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้, พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และพกพาอาวุธ (ระเบิด) ไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร ส่วนข้อหาก่อการร้ายยังไม่ได้แจ้ง
ขณะที่ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปฏิเสธข่าวที่ว่าจะมีการโอนคดีระเบิดในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลเมื่อวันที่ 1-2 ส.ค. ให้กองบังคับการปราบปรามรับผิดชอบ โดยยืนยันว่าคดีอยู่ในความดูแลของคระกรรมการสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีชุดพิเศษที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแหงชาติ ตั้งขึ้น ส่วนการเข้าเยี่่ยมของญาติ สามารถทำได้ตลอดเวลา
-----------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณ : ทีมข่าวอาชญากรรม เนชั่นทีวี เอื้อเฟื้อภาพตำรวจส่งรถตู้รอรับ 2 ผู้ต้องหาคดีระเบิด ที่กองบินตำรวจ ดอนเมือง