เหตุรุนแรงซึ่งเกิดขึ้นถี่ยิบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ช่วงนี้ ยังมองไม่เห็นว่ารัฐบาลและฝ่ายความมั่นคง โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ในพื้นที่จะแก้ไขกันอย่างไร นอกจากสั่งยกระดับมาตรการ รปภ.เหมือนที่เคยๆ ทำ แล้วอีกสักพักก็ลืมๆ กันไป
แต่ปรากฏว่า ได้เกิดปัญหาใหม่แทรกขึ้นมา คือ การอัดคลิปเปิดใจแบบ “ดับเครื่องชน” ของอดีตผู้กำกับการ (อดีต ผกก.) สภ.โคกเคียน จังหวัดนราธิวาส หลังถูกสั่งย้ายไปช่วยราชการ โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม
เป็นการสั่งย้ายหลังเกิดเหตุระเบิด “โชเล่ย์บอมบ์” ที่ริมกำแพงแฟลตตำรวจ และแรงระเบิดทำให้มีเด็กนักเรียนท่องจำอัลกุรอาน หรือ “นักเรียนฮาฟิซ” ได้รับบาดเจ็บเกือบ 10 ราย
สาเหตุที่บอกว่าเป็น “ปัญหาใหม่” ก็เพราะข้อมูลที่อดีตผู้กำกับโคกเคียนแฉออกมานั้น คือความไม่โปร่งใสในแวดวงตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงความขัดแย้งระหว่างเจ้านายกับลูกน้อง ซึ่งแทนที่จะทำงานร่วมกันเพื่อความอุ่นใจของประชาชน แต่กลับมีการเล่นพรรคเล่นพวก ตัดแข้งตัดขากันเอง
อดีตผู้กำกับคนนี้ คือ พ.ต.อ.วีรยุทธ ตาสีพันธุ์ หรือ “ผกก.โต้ง” ซึ่งวันนี้ต้องเรียกได้ว่าถูกย้ายขาดจากตำแหน่งเดิมแล้ว ต้องรอลุ้นว่าจะได้กลับมาอีกหรือไม่ หรือหลุดวงโคจรไปเลย
วันที่ถูกสั่งย้าย มีประชาชนเดินทางไปให้กำลังใจ พ.ต.อ.วีรยุทธ พร้อมทั้งแสดงเจตนารมณ์คัดค้านคำสั่งย้าย ซึ่งเหตุการณ์ลักษณะนี้มีไม่บ่อยครั้งนักในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
ล่าสุดวันพุธที่ 23 เม.ย.68 พ.ต.อ.วีรยุทธ ได้อัดคลิปคำพูดของตัวเอง ความยาวกว่า 10 นาที ส่งมายังสื่อมวลชนบางแขนง และ “ทีมข่าวอิศรา” โดยเจ้าตัวบอกว่า หลังจากถูกย้ายก็ได้ลาพัก เพราะที่ผ่านมาไม่เคยลามานานกว่า 7 เดือน และไม่เคยทิ้งพื้นที่เลย ช่วงนี้จึงถือว่าได้พักเหนื่อย
แต่คลิปของ พ.ต.อ.วีรยุทธ ไม่ได้จบแค่เรื่องลาพัก หรือปลงตกจากเหตุการณ์ถูกย้าย เพราะยังมีประเด็นสำคัญ 3 ประเด็นที่เจ้าตัวออกมา “ดับเครื่องชนนาย” ซึ่งก็ถือผู้บังคับบัญชาโดยตรงของ พ.ต.อ.วีรยุทธ นั่นเอง
@@ ไม่เคยละเลยหน้าที่ พร้อมรับทุกนาทีที่เกิดเหตุรุนแรง
ประเด็นแรก - เรื่องที่ผู้การนราธิวาส อ้างว่าคำสั่งย้าย ไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้ง แต่เป็นเพราะละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ปล่อยให้มีระเบิดเกิดขึ้นในพื้นที่หลายครั้ง
เรื่่องนี้ พ.ต.อ.วีรยุทธ อธิบายว่า ข้ออ้างของผู้การนราธิวาส เกี่ยวกับเหตุระเบิด 3 เหตุการณ์ คือ เหตุระเบิด 4 จุดในอำเภอเมืองนราธิวาส พื้นที่รับผิดชอบของ สภ.โคกเคียน, เหตุระเบิดในสนามบินนราธิวาส เมื่อวันที่ 23 ก.พ.68 ซึ่งเป็นวันที่อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ลงพื้้นที่ พร้อมกับรองนายกฯภูมิธรรม เวชยชัยและ เหตุระเบิด “โชเล่ย์บอมบ์” ล่าสุดนั้น จริงๆ แล้วตนไม่ได้ปล่อยปละละะเลยแต่อย่างใด
“แผนป้องกันที่ตั้ง มีการแบ่งออกเป็น 3 วงรอบ สภ.โคกเคียนเป็นพื้นที่ไข่แดง วงรอบชั้นนอกจะมี 3 จุดตรวจ แล้วก็มีฐาน นปพ., ฐาน ตชด., ฐานทหารพราน นย. (นาวิกโยธิน) และฐาน นย.ในพื้นที่เขตรอยต่ออำเภอ ส่วนวงรอบชั้นกลาง ก็จะมี 3 จุดตรวจ วงรอบชั้นในจะมีอีก 3 จุดตรวจ
สำหรับเขตเซฟตี้โซนที่ดูแลไข่แดงของ สภ.โคกเคียน มีการวางกำลัง ผมได้สั่งให้ทุกชุดมารวมตัวกันทำเป็นเซฟตี้โซน เพื่อรักษาความปลอดภัยที่ตั้ง ซึ่งได้ทำมาเกือบ 3 เดือนแล้ว และก็ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวก่อนว่า จะมีการก่อเหตุในพื้นที่ สภ.โคกเคียน จึงได้มีการออกแผน เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนเพื่อจะบูรณาการในการวางแผนในการป้องกันที่ตั้ง
ทุกวัน 1 ทุ่มจะเรียกกำลังพลมาร่วมแถวกันเพื่อจะให้ออกไปตั้งด่าน มีกำลังตำรวจจราจรให้ไปตั้งด่านหน้า สภ.โคกเคียน ตั้งแต่เวลา 19.00-22.00 น. ป๊อปอัพไปเรื่อย จากหน้า สภ.โคกเคียนไปถึงชายทะเลบ้านทอน (ด่านป๊อปอัพ หมายถึงด่านเคลื่อนที่ ไม่ตั้งจุดใดจุดหนึ่งประจำเพียงจุดเดียว)
อีกชุดเป็นร้อยเวร 20 พร้อมกำลังอีก 4 นาย ให้ไปป๊อปอัพด้านหลังถนนที่เกิดเหตุระเบิดในเวลาเดียวกัน ส่วนฝ่ายอำนวยการ รวมถึงชุดสืบก็ให้ไปดูกล้อง cctv ที่ห้องงานสืบสวน ส่วนฝ่ายประจำวัน สิบเวรและปราการหน้า ปราการหลังต้องอยู่ที่โรงพัก
วันเกิดเหตุ (โชเล่ยบอมบ์ล่าสุด) เวลา 18.45 น. เรามี จ.ส.ต.อุสมาน สะแมแล เข้าเวรปราการหลัง สามารถมองเห็นคนร้าย แต่ไม่สามารถยิงตอบโต้ได้ เนื่องจากมีประชาชน ชาวบ้าน และเด็กผ่านไปมา คนร้ายเอารถมาจอดแค่ 30 วินาทีแล้วก็เกิดเหตุระเบิดขื้น ทำให้ตำรวจที่อยู่ปราการหลังก็ได้รับบาดเจ็บด้วย
ขณะตำรวจเรากำลังรวมแถวปล่อยแถวช่วง 1 ทุ่มเพื่อจะออกไปปฏิบัติหน้าที่ คิดว่าคนร้ายมาดูการทำงานของเรา เขารู้ว่าเราออกปฏิบัติหน้าที่ 19.00 -22.00 น. เขาก็เลยก่อเหตุก่อน อันนี้คิดว่ามันก็เป็นช่องว่าง และเราก็มีปราการหลังอยู่ แต่จังหวะนั้น ตำรวจก็ไม่สามารถที่จะยิงได้ เพราะมีเด็กและชาวบ้านผ่านไปมา
ส่วนเหตุระเบิด 4 จุด เกิดขึ้นหน้าโรงเรียนฮูแตทูวอ บริเวณเกาะกลางถนนสาย 4136 นั้น (วันที่ 20 พ.ย.67) มีทั้งหมด 4 ลูก เก็บกู้ได้ 1 ลูก มีการปิดกั้นที่เกิดเหตุทั้งคืน และมีการระเบิดขึ้น 3 ลูก แต่ก็ไม่มีใครสูญเสีย ซึ่งผมก็อยู่ปฏิบัติหน้าที่เป็น ผบ.เหตุการณ์ สั่งการตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ ทุกอย่างมีการรายงานผู้บังคับบัญชาตลอด
เหตุปาระเบิดไปป์บอมบ์ที่จุดตรวจบือราแปะของ ตชด. ก็มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย อันนี้ไม่ได้เกี่ยวกับ สภ.โคกเคียน เพราะเขาขึ้นตรงกับ ฉก.นธ.93 (หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 93) และเป็นพื้นที่รับผิดชอบของเขา แต่ผมก็ไปร่วมปฏิบัติหน้า เป็น ผบ.เหตุการณ์ เพื่อทำพื้นที่ให้ปลอดภัย ตั้งแต่ 1 ทุ่มจนถึงตอนเช้า นัดเจ้าหน้าที่อีโอดี ชุดพิสูจน์หลักฐานมาและประชุมร่วมกัน
อีกเหตุการณ์หนึ่ง เป็นเหตุคนร้ายซุกระเบิดไว้ใต้รถของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงในสนามบิน (วันที่ 23 ก.พ.68) ตรงนี้มันก็ไม่ใช่ความรับผิดชอบของผม เพราะในสนามบินเขามี ผบ.ร้อย ศูนย์รักษาความความปลอดภัยนาวิกโยธินรับผิดชอบอยู่ รวมถึงเจ้าหน้าที่ท่าอากาศยาน ทุกอย่างต้องทำตามขั้นตอนการรักษาความปลอดภัยของท่าอากาศยาน ผมไม่มีอภิสิทธิ์ที่จะไปสั่งการอะไรเขาได้เลย จะเข้าไปยังต้องแลกบัตร แล้วมากล่าวหาผมว่าปล่อยให้เกิดเหตุในสนามบิน
ในวันที่เกิดเหตุมีอดีตนนายกฯทักษิณ ชินวัตร ท่านภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ รมว.กลาโหม และท่านทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เดินทางมา ผมก็เป็น ผบ.เหตุการณ์รักษาความปลอดภัย หลังจากปล่อยแถวในการรักษาความปลอดภัยไม่ถึง 10 นาที ก็เกิดระเบิดขึ้น จากนั้นมีการตั้งกองอำนวยการร่วมในการรักษาความปลอดภัยในท่าอากาศยาน แล้วมากล่าวหาว่าเป็นความรับผิดชอบของผมอีก”
@@ ย้อนถาม “ผู้การทำอะไร?” นอกจากรอรับ VIP
ประเด็นที่ 2 - การทำงานของผู้การนราธิวาส พล.ต.ต.ไมตรี สันตยากุล
พ.ต.อ.วีรยุทธ บอกว่า ในขณะที่ตนลงพื้นที่ตลอด และทำงานต่อเนื่องไม่เคยหยุดเลย แต่ผู้การนราธิวาสที่สั่งย้ายตน ขอถามว่าเคยลงพื้นที่บ้างหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยลงเลย ไม่เคยไปเยี่ยมลูกน้อง ไม่เคยมาตรวจโรงพักโคกเคียน เท่าที่ตนเห็น มีแต่ไปวิ่งไปรับ VIP แม้แต่ขาเจ็บ เดินกะเผลก ใช้ไม้เท้า ก็ยังอุตส่าห์ไปต้อนรับนักการเมือง
“ท่านผู้บังคับการ รองผู้บังคับการ ไม่เคยมาดูแลสั่งการ แต่ผมเห็นไปรับ VIP ทั้งๆ ที่ท่านผู้การเจ็บเข่า เพิ่งผ่าตัดหัวเข่า ถือไม้เท้าอยู่ ยังไปรับ VIP ได้ถึงที่บูเก๊ะตา ที่สุไหงปาดี แต่ไม่เคยมาดูแลควบคุมเหตุการณ์สักครั้ง มีแต่ผมกับ ตชด. ผู้กำกับ นปพ.ที่ประชุมกันเพื่อวางแผนจะเข้าที่เกิดเหตุ กลัวมีระเบิดลูกที่ 2-3
ทุกคนที่ปฏิบัติหน้าที่ก็เสี่ยง ผมในฐาน ผบ.เหตุการณ์ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นก็ต้องรับผิดชอบ ผู้การมากล่าวหาแบบนี้ ผมมองว่าไม่เป็นธรรม
ผู้การนราธิวาสไม่ทำงานทำการอะไรเลยครับ วันๆ เอาแต่ติดตามนักการเมือง อย่างท่านรัฐมนตรี ผมไม่ขอเอ่ยชื่อ เวลารัฐมนตรีมา จะไปรับทุกที ถ้ามีเหตุการณ์ก็ไม่สน ขอไปรับรัฐมนตรีก่อน ไม่เคยทำงาน ไม่สนว่าลูกน้องจะเป็นยังไง ต้องไปรับนายก่อน และไม่เคยมาตรวจเยี่ยม สภ.โคกเคียนเลย
มาก็ปีหนึ่ง 2 ครั้ง มาก็จะด่าๆ แล้วก็ไป ไม่เคยสนลูกน้อง ลองไปถามประชาชนชาวจังหวัดนราธิวาสดูว่า รู้จักหน้าตาผู้การตำรวจนราธิวาสบ้างไหม”
@@ จี้รัฐบาลสอบ ทำไมยุค ผบช.ภาค 9 คนนี้เกิดเหตุถี่?
ประเด็นที่ 3 - การทำงานของ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 พล.ต.ท.ปิยวัฒน์ เฉลิมศรี
โดย พ.ต.อ.วีรยุทธ ตั้งคำถามว่า ทำไมช่วงนี้สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ถึงรุนแรงขึ้น ทำให้ชาวบ้านไม่มีขวัญกำลังใจ จึงอยากให้ผู้ใหญ่ในรัฐบาลลงมาดูที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 และกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ทั้ง 3 จังหวัด คือ นราธิวาส ยะลา และปัตตานี ว่าทำงานกันอย่างไร มีความโปร่งใสหรือไม่ ทั้งเรื่องงบประมาณ น้ำมันเชื้อเพลิง สวัสดิการต่างๆ
รวมถึงพฤติกรรมของผู้บังคับบัญชาระดับสูง ที่ใช้อารมณ์ในการทำงาน ทุกอย่างมีบันทึกไว้หมด เนื่องจากเป็นการประชุมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งยังมีประเด็นเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายที่ข้ามหัวตำรวจในพื้นที่ด้วย
“ผมเองอยู่ที่นี่มา 20 ปี ทำไมช่วงนี้สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ถึงรุนแรงขึ้น อยากให้ผู้ใหญ่ในรัฐบาลลงมาดูที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 กองบังคับการตำรวจภูธรทั้ง 3 จังหวัดชายแดนใต้ (นราธิวาส ปัตตานี ยะลา) อยากให้ลงมาดูว่ามันมีอะไรเกิดขึ้น ทั้งความโปร่งใส่ ไม่โปร่งใสต่างๆ ขอให้ท่านมาตรวจสอบดูว่าเป็นยังไง เพราะเหตุเกิดเยอะมาก ขวัญและกำลังใจชาวบ้านเริ่มจะไม่มีแล้ว
ขอฝากผู้หลักผู้ใหญ่ให้ลงมาตรวจสอบ ลองสอบถามคนในพื้นที่ดูว่ามันเป็นอย่างไร ไม่ว่าจะเรื่องงบประมาณ น้ำมันเชื้อเพลิง สวัสดิการลูกน้อง
ฝากไปยังท่านผู้บัญชาการภาค 9 เวลาประชุมวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ ท่านใช้อารมณ์ในการสั่งการ กับผมก็พูดอาฆาตมาดร้าย ทั้งพูดเรื่องการแต่งตั้งซ้ำๆ ว่า ตั้วเองเป็นคนแต่งตั้งเอง เอาคนนั้นคนนี้ขึ้นมา ซึ่งการแต่งตั้งมันไม่สมควรพูด แล้วพูดว่าเอาคนหนุ่มๆ จากข้างบนมาขึ้นในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เอารุ่น 59 รุ่น 60 รุ่น 61 สามารถโตไปเป็นผู้ช่วย ไปเป็น ผบ.ตร.ได้
ขอถามว่า ตำรวจสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ระดับรองสารวัตร บางคนทำงาน 13-14 ปี ไม่ได้ขึ้นสารวัตร บางคนทำงาน 10 กว่าปีไม่ได้ขึ้น แต่คนที่ได้ขึ้นก็คือพวกที่อาวุโสอันดับท้ายๆ มาขึ้นตำแหน่งสามจังหวัด แล้วไม่เคยทำงานในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทุกอย่างที่พูดมีหลักฐานหมดในวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ สามารถตรวจสอบได้”
@@ เปิดประวัติ “ผกก.โต้ง” พ.ต.อ.วีรยุทธ ตาสีพันธุ์
เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น 50
มีอายุราชการถึงปี 2575
ปฏิบัติหน้าที่ชายแดนใต้มาเกือบตลอดอายุราชการ
ปี 2546 เป็นรองสารวัตรจราจร สภ.เมืองนราธิวาส
ปี 2550 เป็นสารวัตร สภ.โคกเคียน
ปี 2555 เป็นรองผู้กำกับการ สภ.ตากใบ จ.นราธิวาส
ปี 2564 เป็นผู้กำกับการ สภ. โคกเคียน
// รางวัลผลงานดีเด่น //
- ประกาศเกียรติคุณ เนื่องจากติดตาม สืบสวน และจับกุมคดีสำคัญในพื้นที่ได้อย่างรวดเร็ว
วันรับประกาศ : 30 ก.ย.67
ผู้มอบรางวัล : พล.ต.ท.ปิยวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9
- ประกาศเกียรติคุณ เนื่องจากติดตาม สืบสวน และจับกุมคดีสำคัญในพื้นที่ได้อย่างรวดเร็ว
วันที่รับประกาศ : 8 พ.ย.67
ผู้มอบรางวัล : พล.ต.ต.ไมตรี สันตยากุล ผู้การนราธิวาส
// ข้อสังเกต //
เพิ่งได้รับรางวัลเมื่อปลายปีที่แล้ว แต่ผ่านมาแค่ 5-6 เดือน กลับโดนสั่งย้ายจากผู้บังคับบัญชาชุดเดียวกัน