บึ้มรั้วแฟลตตำรวจ สภ.โคกเคียน พบเป็น “โชเล่ย์บอมบ์” คนร้ายขี่ไปจอดข้างกำแพงก่อนกดระเบิด เศร้า...ตูมสนั่นขณะกลุ่มเด็กมุสลิมไปเรียนอัลกุรอานเดินผ่านพอดี ทำให้บาดเจ็บหลายราย แฉคนร้ายเห็นก่อน พยายามไล่แต่ไม่สำเร็จ สุดท้ายหนีเอาตัวรอด ส่วนเหตุกราดยิงที่แว้ง อุกอาจกลางวงข้าว ยอดผู้บาดเจ็บพุ่ง
ความคืบหน้าเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดบริเวณรั้วกำแพงด้านหลังแฟลตตำรวจ สภ.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส เมื่อช่วงเย็นของวันอาทิตย์ที่ 20 เม.ย.68
หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.วีระยุทธ ตาสีพันธ์ ผู้กำกับการ สภ.โคกเคียน ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่า แรงระเบิดทำให้กำแพงรั้วได้รับความเสียหาย และมีรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ที่จอดอยู่ใต้แฟลตโดนสะเก็ดระเบิดหลายคัน
ในส่วนของผู้ได้รับบาดเจ็บ มีทั้งหมดประมาณ 10 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 นาย คือ ส.ต.อ.อุสมาน แมกมาเล ส่วนที่เหลือเป็นเด็กเรียนฮาฟิซ (เรียนอัลกุรอาน) ซึ่งกำลังเดินผ่านไปเรียนเป็นกิจวัตร
ผู้บาดเจ็บทั้งหมดถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมืองนราธิวาส
จากการสอบถามพยานบุคคลในที่เกิดเหตุ ทราบว่า ก่อนเสียงระเบิดดังไม่นานนัก มีคนร้าย จำนวน 1 คน ขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้าง (รถโชเล่ย์) ซึ่งคาดว่าซุกซ่อนระเบิดแสวงเครื่องมาด้วย แล้วนำไปจอดข้างกำแพงรั้วด้านหลังแฟลตตำรวจ สภ.โคกเคียน จากนั้นเจ้าตัวก็รอซุ่มอยู่บริเวณนั้น เพื่อเตรียมกดจุดระเบิด หรือรอดูผลงาน (กรณีเป็นระเบิดตั้งเวลา ซึ่งยังไม่ชัดเจน)
จังหวะนั้นมีเด็กชายมุสลิมจำนวนหลายคน เดินกันเป็นกลุ่มเพื่อไปเรียนอัลกุรอาน คนร้ายเห็นเข้า จึงพยายามไล่เด็กให้ออกห่าง แต่กลุ่มเด็กๆ ไม่สนใจ และมีเสียงระเบิดดัง คนร้ายจึงอาศัยความชุลมุนวิ่งหลบหนีไป เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
@@ ”โชเล่ย์บอมบ์“ ลูกที่ 4 ของปี 68
สำหรับเหตุลอบวางระเบิดแบบ “โชเล่ย์บอมบ์” โดยนำระเบิดแสวงเครื่องซุกซ้อนมากับรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง เกิดขึ้นถี่มากตั้งแต่ต้นปี 68 เป็นต้นมา นับถึงขณะนี้รวมแล้วถึง 4 เหตุการณ์
“ทีมข่าวอิศรา” เคยรายงานข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญด้านระเบิดว่า เหตุโจมตีโดยใช้ “โชเล่ย์บอมบ์” มีความรุนแรงและอันตรายใกล้เคียงกับ “คาร์บอมบ์” เนื่องจากสามารถบรรทุกระเบิดได้มากกว่า “มอเตอร์ไซค์บอมบ์”
และสาเหตุที่ระยะหลังเกิดบ่อย อาจเป็นเพราะการใช้รถโชเล่ย์บรรทุกระเบิด หรือลำเลียงระเบิด สามารถพรางตาเจ้าหน้าที่ได้ดี และตรวจสอบยาก เนื่องจากประชาชนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ใช้รถโชเล่ย์อย่างแพร่หลายมาก
@@ กราดยิงที่แว้ง เหยื่อชาวบ้านไทยพุทธ เจ็บระนาว
ส่วนความคืบหน้าเหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงชาวบ้านไทยพุทธใน อ.แว้ง จ.นราธิวาส ช่วงค่ำวันเดียวกัน มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บเบื้องต้น 5 รายนั้น
หลังเกิดเหตุ ตำรวจ สภ.แว้ง และเจ้าหน้าที่ทหาร ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบ และพบว่า คนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงใส่กลุ่มประชาชนขณะกำลังนั่งรับประทานอาหารอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านฆอเลาะทูวอ หมู่ 7 ต.แว้ง
ยอดผู้ได้รับบาดเจ็บเพิ่มเป็น 6 ราย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแว้งจำนวน 4 ราย คือ
1. นายวินัย โฉมอำไพ อายุ 44 ปี
2. นายธวัชชัย ทิพรัตน์ อายุ 43 ปี
3. นายประดิษฐ์ โพธิ์สุทธิ์ อายุ 56 ปี
4. นายวิรัช จันทรทอง อายุ 40 ปี
ส่วนอีก 2 รายถูกนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ทราบชื่อคือ
1. ด.ต.อนุชา ศรีสุวรรณ
2. นายประกิต คงประเสริฐ อายุ 39 ปี