พูดถึงปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ภาพที่สังคมไทยมองกลับเข้าไปยังรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ก็คือ
1.ไม่มียุทธศาสตร์ใหม่ดับไฟใต้
2.รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง นายภูมิธรรม เวชยชัย สั่งทบทวนยุทธศาสตร์ ตั้งแต่เมื่อต้นเดือน ม.ค.68 ที่ผ่านมา แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ตกผลึก
3.มีการพูดถึงการปัดฝุ่นนโยบาย 66/23 ที่เคยใช้ต่อสู้เพื่อเอาชนะคอมมิวนิสต์เมื่อ 40 กว่าปีที่แล้วมาปรับใช้ แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าเชิงรูปธรรม
4.มีการลงพื้นที่ของอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเคยเป็นผู้นำประเทศช่วงเหตุการณ์ปล้นปืน เหตุการณ์กรือเซะ และเหตุการณ์ตากใบ เมื่อปี 2547 โดยมีการกล่าว “ขออภัย” จากความผิดพลาดในอดีต แต่ก็ไม่ได้ทำให้เกิดกระแสตอบรับ หรือสร้างความมั่นใจว่าภาพรวมของสถานการณ์จะดีขึ้น
5.ยังไม่มีการแต่งตั้งหัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้คนใหม่
แต่ล่าสุด “ทีมข่าวอิศรา” ได้รับข้อมูลวงในจากรัฐบาลว่า มีการวางตัว “บิ๊กแป๊ะ” พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และอดีตปลัดกระทรวงกลาโหม นักเรียนเตรียมทหารรุ่น 14 เป็นหัวหน้าคณะพูดคุยดับไฟใต้คนใหม่
สัญญาณความชัดเจนในเรื่องนี้มาจากปรากฏการณ์หลายเรื่องประกอบกัน ได้แก่
- พล.อ.นิพัทธ์ ได้รับมอบหมายจาก รองนายกฯภูมิธรรม ให้เป็นประธานการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับภารกิจดับไฟใต้ เพื่อรับฟังปัญหา และเตรียมจัดทำยุทธศาสตร์ใหม่
- พล.อ.นิพัทธ์ ลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้พร้อมกับอดีตนายกฯทักษิณ เมื่อวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งมี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ลงพื้นที่พร้อมกันด้วย
โดย พ.ต.อ.ทวี เคยดำรงตำแหน่งเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. และเคยเป็นคณะพูดคุยเพื่อสันติภาพคณะแรก ที่ตั้งขึ้นอย่างเปิดเผย เป็นทางการ ร่วมกับ พล.อ.นิพัทธ์ เมื่อปี 2556 ในรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยขณะนั้นพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็น มี พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการ สมช. เป็นหัวหน้าคณะพูดคุย และมีรัฐบาลมาเลเซีย เป็นผู้อำนวยความสะดวก
- ช่วงลงพื้นที่ชายแดนใต้ อดีตนายกฯทักษิณ พูดถึงกระบวนการพูดคุยสันติสุขซึ่งจะริเริ่มขึ้นใหม่ โดยอ้างว่าจะมีการดึงอินโดนีเซียมาร่วมในกระบวนการด้วย ซึ่งแนวคิดนี้เป็นแนวคิดที่ พล.อ.นิพัทธ์ เคยเสนอมาก่อนตลอดหลายปีที่ผ่านมา เพราะมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับอินโดนีเซีย
โดยตัวแทนรัฐบาลอินโดนีเซียอย่าง นายยูซุฟ คัลลา อดีตรองประธานาธิบดีแดนอิเหนา ก็เคยให้สัมภาษณ์แสดงความพร้อมที่จะช่วยไทยในเรื่องนี้
@@ “บิ๊กแป๊ะ” ไม่ปฏิเสธ - ลั่นบททดสอบ “รอมฎอนสันติ”
“ทีมข่าวอิศรา” สอบถามไปยัง พล.อ.นิพัทธ์ เกี่ยวกับกระแสข่าวที่เกิดขึ้น ได้รับคำตอบว่า มีการพูดคุยกันจริงกับรองนายกฯภูมิธรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่กระบวนการตั้งคณะพูดคุยฯ จะเป็นแนวใหม่ คือไม่เร่งประกาศอย่างเป็นทางการ แต่จะใช้การ “ทดสอบและสร้างความเชื่อมั่นระหว่างกัน” ก่อน
วิธีการคือ ใช้ช่วงเดือนรอมฎอน หรือเดือนแห่งการถือศีลอด ทำโครงการ “รอมฎอนสู่สันติสุข” มีการส่งสัญญาณไปยังกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐ ตลอดจนรัฐบาลมาเลเซีย และรัฐบาลอินโดนีเซีย เพื่อร่วมกันสร้างบรรยากาศความสงบในห้วงเดือนรอมฎอน
หากทำสำเร็จ จะเป็นจุดเริ่มต้นในการตั้งคณะพูดคุยฯอย่างเป็นทางการต่อไป โดยห้วงเดือนรอมฎอน เป็นเวลา 30 วัน คือห้วงเวลาของการสร้างความมั่นใจระหว่างกัน
มีรายงานจากแหล่งข่าวระดับสูงในรัฐบาลว่า หากโครงการรอมฎอนสันติสุขผ่านไปด้วยดี จะมีการแต่งตั้งคณะพูดคุยฯคณะใหม่ โดยมี พล.อ.นิพัทธ์ เป็นหัวหน้า
@@ เดินสายพบผู้นำศาสนา - อุ่นเครื่องประชุมหน่วย
เป็นที่น่าสังเกตว่า ก่อนหน้านี้ พล.อ.นิพัทธ์ เดินสายพบผู้นำศาสนาอิสลามอย่างต่อเนื่อง เช่น เมื่อวันที่ 26 ก.พ. ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายอรุณ บุญชม จุฬาราชมนตรี ที่สำนักจุฬาราชมนตรี โดยมี นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี ร่วมหารือด้วย
วันที่ 3 มี.ค. ประชุมส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือและแลกเปลี่ยนข้อมูล รวมถึงแนวทางการปฏิบัติที่เป็นเลิศในการขับเคลื่อนกระบวนการพูดคุยสันติสุข ที่โรงแรม เดอะ ระวีกัลยา กรุงเทพฯ
สำหรับ พล.อ.นิพัทธ์ หรือ “บิ๊กแป๊ะ” นอกจากเคยร่วมคณะพูดคุยเพื่อสันติภาพฯ ทำกระบวนการสันติภาพกับกลุ่มบีอาร์เอ็น เมื่อปี 2556 แล้ว ยังเคยมีประสบการณ์จากอาเจะห์ เคยไปเป็นผู้สังเกตการณ์การวางอาวุธเพื่อยุติความขัดแย้งระหว่างอาเจะห์ กับอินโดนีเซีย กระทั่งได้เครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงจากประธานาธิบดีแดนอิเหนาด้วย
เส้นทางของ พล.อ.นิพัทธ์ ทั้งชีวิตราชการ ผลงานด้านการทหาร การเมือง และภารกิจที่เกี่ยวกับนโยบายดับไฟใต้ รวมถึงงานด้านการต่างประเทศ ถือว่าครบเครื่องมากที่สุดคนหนึ่ง ในฐานะศิษย์เก่ากองทัพ!
อ่านประกอบ : ถอดรหัส...ทำไมต้อง “พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก”