สถานการณ์ไฟใต้ช่วงนี้ต้องบอกว่าเข้าขั้น “ลุกโชน” เกิดเหตุที่เรียกว่า “โชเล่ย์บอมบ์” หรือระเบิดที่ติดตั้งในรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ถึง 2 วันซ้อน ความรุนแรงถือว่า “น้องๆ คาร์บอมบ์” กันเลยทีเดียว
การก่อเหตุด้วยการลอบวางระเบิดเกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยสัปดาห์แรกของเดือน ก.พ.68 หรือราวๆ 10 วันก่อน ก็มีระเบิดแขวนใต้ท้องรถ 2 เหตุการณ์ซ้อน ระเบิดตูมตามกลางสถานที่ราชการ 2 แห่งใน จ.นราธิวาส ทั้งโรงพักและที่ว่าการอำเภอ
ส่วนล่าสุดคือ รถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ซึ่งใช้ขนของ ขนคน นิยมกันมากในพื้นที่ชายแดนใต้ ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า “รถโชเล่ย์”
รถแบบนี้ไม่วายถูกคนร้ายนำมาดัดแปลงเป็นพาหนะบรรทุกระเบิดเพื่อนำไปอำพรางก่อวินาศกรรม
โดย “โชเล่ย์บอมบ์” ลูกล่าสุด เกิดขึ้นบริเวณข้างกำแพงรั้ว ฐานปฏิบัติการหมวดเฉพาะกิจหน่วยปฏิบัติการพิเศษจังหวัดนราธิวาสที่ 41 ในพื้นที่ ต.ดุซงญอ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส
ที่น่าตกใจก็คือ ฐานปฏิบัติการแห่งนี้ตั้งอยู่ตรงกันข้ามกับ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านดุซงญอ มีเพียงถนนลูกรังกว้าง 4 เมตรคั่นเท่านั้น แรงระเบิดทำให้กำแพงปูนของฐานปฏิบัติการพังเสียหาย เช่นเดียวกับอาคารของ “ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก” ที่กระเบื้องหลังคาแตก และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลดุซงญอ (รพ.สต.) ที่อยู่ใกล้ๆ กันก็ได้รับผลกระทบไปด้วย
สรุปก็คือ คนร้ายจุดระเบิด “โชเล่ย์บอมบ์” หวังโจมตีฐานปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ โดยไม่สนใจเลยว่ามีศูนย์เด็กเล็กอยู่ตรงกันข้าม และยังอยู่ใกล้ๆ โรงพยาบาลซึ่งมีผู้ป่วย หมอ พยาบาล อยู่เต็มโรงพยาบาลอีกต่างหาก
เหตุระเบิดครั้งนี้ทำให้ตำรวจที่ปฏิบัติงานอยู่ในฐานปฏิบัติการ ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย คือ ส.ต.ท.เกียรติศักดิ์ สนธิ์ขาว ผู้บังคับหมู่ หน่วยปฏิบัติการพิเศษจังหวัดนราธิวาที่ 41 (ผบ.หมู่ นปพ.นธ. 41) โดยวิธีการของคนร้าย ฉวยโอกาสในช่วงวันหยุดราชการ ซึ่งมีกำลังพลประจำฐานบางตา ขี่รถโชเล่ย์บรรทุกระเบิดมาจอดไว้ แล้วเดินหลบหนีไป ถัดจากนั้น 5 นาทีก็เกิดระเบิดขึ้น
โดยคนร้ายประกอบระเบิดไว้ในถังแก๊สหุงต้ม ขนาดบรรจุ 15 กิโลกรัม น้ำหนักดินระเบิดถึง 50 กิโลกรัม จุดระเบิดด้วยรีโมทคอนโทรล
สำหรับรถโชเล่ย์ที่คนร้ายนำมาใช้บรรทุกระเบิดคันนี้ คนร้ายโจรกรรมมาจากชาวบ้านใน อ.จะแนะ เมื่อวันที่ 29 ต.ค.ปีที่แล้ว อำเภอเดียวกันกับที่ก่อเหตุระเบิด โดยคนร้ายนำรถไปเก็บไว้ถึง 3 เดือนครึ่ง จึงนำออกมาก่อเหตุ
@@ “โชเล่ย์บอมบ์” ซ้ำรอย กองร้อย อส.แว้ง เจ็บ 25
การก่อเหตุโจมตีด้วย “โชเล่ย์บอมบ์” เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อ 1 วันก่อนหน้า (14 ก.พ.) อีก 1 จุด คือ ที่กองร้อยอาสารักษาดินแดน หรือ กองร้อย อส. อำเภอแว้ง จ.นราธิวาส แรงระเบิดทำให้โรงนอนของกองร้อยพังยับเยิน โดยระเบิดที่คนร้ายใช้ ประกอบใส่ในถังแก๊สเหมือนที่ดุซงญอ น้ำหนักดินระเบิดก็ 50 กิโลกรัมเหมือนกัน
“โชเล่ย์บอมบ์” ที่ อ.แว้ง มีผู้ได้รับบาดเจ็บมากถึง 25 คน ทั้งสมาชิก อส. และชาวบ้าน รวมทั้งเด็กอายุ 8 ขวบด้วย