รมว.ยุติธรรม นำกงสุลใหญ่มาเลย์ตรวจเยี่ยมเรือนจำนราธิวาส เคลียร์ข่าวแฟนเพลงนักร้องสาวชื่อดังแดนเสือเหลืองห่วงถูกคุมขังไม่ปฏิบัติตามหลักศาสนา หลังถูกรวบพร้อมเพื่อนในคดียาเสพติดคาโรงแรมสุไหงโก-ลก
เมื่อเวลา 15.00 น. วันอาทิตย์ที่ 17 พ.ย.67 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายอะฮ์มัด ฟะฮ์มี บิน อะห์มัดซาร์กาวี กงสุลใหญ่มาเลเซียประจำจังหวัดสงขลา และคณะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันเดินทางไปตรวจเยี่ยมเรือนจำจังหวัดนราธิวาส เพื่อเน้นย้ำเรื่องมาตรฐานการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังทุกศาสนาอย่างถูกต้อง เสมอภาค และเท่าเทียมกัน
กิจกรรมครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่มีสื่อโซเชียลฯในประเทศมาเลเซีย สร้างกระแสวิพากษณ์วิจารณ์กรณีการควบคุมตัว น.ส.วันโนรซาฮีดาอัชลิน บินตี วันอิสมาอีล นักร้องดังขวัญใจวัยรุ่นมาเลย์ เจ้าของผลงานเพลง “แบซอบาซอ” ซึ่งแปลเป็นไทยว่า “ใจเย็นๆ” ที่ถูกจับกุมพร้อมพวกรวม 5 คน และของกลางยาบ้า จำนวน 6,060 เม็ด ที่ห้องพักโรงแรมเก็นติ้ง อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 1 พ.ย.67 ที่ผ่านมา ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างพิจารณาคดี
การที่นักร้องสาวชื่อดังถูกจับกุม ได้รับความสนใจจากแฟนเพลง และสื่อมวลชนมาเลเซีย ช่วงที่ถูกควบคุมตัวใหม่ๆ มีแฟนเพลงแห่มาให้กำลังใจ จนเจ้าหน้าที่ไทยต้องเพิ่มมาตรการป้องกันและเฝ้าระวังเหตุจลาจล
ต่อมามีการพยายามสร้างข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ของมาเลเซีย อ้างว่าเรือนจำไทยไม่ปฏิบัติต่อผู้ต้องขังตามหลักศาสนาอิสลาม ซึ่งไม่เป็นความจริง แต่ข่าวดังกล่าวสร้างความเข้าใจผิดและสร้างความเสียหายให้กับเรือนจำไทย และกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรมอย่างมาก
พ.ต.อ.ทวี จึงตัดสินใจเชิญกงสุลมาเลเซียประจำประเทศไทยเข้าเยี่ยมเรือนจำจังหวัดนราธิวาส และได้พูดคุยกับนักร้องดังชาวมาเลย์ รวมถึงผู้ต้องขังหญิงชาวมาเลเซีย รวม 7 คนที่ถูกคุมขังด้วยคดียาเสพติด (แต่ถูกจับคนละคราวกัน)
พร้อมกันนี้ยังได้เปิดโอกาสให้ผู้ต้องขังชายชาวมาเลเซีย จำนวน 27 คน ที่ถูกคุมขังในคดียาเสพติด ได้พูดคุยกับกงสุลและเจ้าหน้าที่มาเลเซียด้วย ซึ่งผู้ต้องขังทั้งชายและหญิงต่างให้ข้อมูลตรงกันว่า เจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดนราธิวาสให้การดูแลผู้ต้องขังอย่างเสมอภาค มีการปฏิบัติถูกต้องตามหลักศาสนา ทั้งอาหารการกิน การประกอบพิธีละหมาด รวมทั้งเรือนนอนที่ถูกสุขอนามัย
@@ บุกแดน 8 ให้กำลังใจผู้ต้องขังหญิง-ดูแลการศึกษา
ต่อมา รมว.ยุติธรรม ได้ถือโอกาสเดินทางไปแดน 8 ผู้ต้องขังหญิง เพื่อกล่าวพบปะให้กำลังใจ สรุปความได้ว่า สิ่งที่คนก้าวพลาดต้องการ คืออยากให้ทุกคนมองเขาเป็นมนุษย์คนหนึ่ง และขอพื้นที่ในสังคม การให้โอกาสคือการให้ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เราจึงพยายามให้โอกาสด้านการศึกษาที่ถือว่าจะเปลี่ยนชีวิต
สิ่งสำคัญคือการศึกษา ถ้าคนเราขาดโอกาสทางการศึกษา ย่อมเสี่ยงต่อการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งที่ไม่ดี อย่างน้อยคนที่อยู่ในเรือนจำต้องได้รับการศึกษาตามอัตลักษณ์และวัฒนธรรมที่เหมาะสม เพราะทุกคนควรได้รับโอกาสที่เท่าเทียมในฐานะที่เป็นประชาชนของประเทศไทย ซึ่งเรื่องดังกล่าวนี้ตนจะผลักดันให้เกิดเป็นรูปธรรม อย่างน้อยผู้ต้องขังทุกคนต้องจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายให้ได้
@@ ยืนยันกงสุลมาเลย์พอใจ-เข้าใจเรือนจำไทย
ก่อนเดินทางกลับ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า จากที่มีผู้ต้องราชทัณฑ์ชาวมาเลเซียถูกจับกุม และเนื่องจากเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในประเทศมาเลเซีย ทำให้ประชาชนชาวมาเลเซียมีความห่วงใยและเป็นกังวล รวมทั้งเป็นห่วงในระบบความยุติธรรมในประเทศไทย จึงอยากจะนำเรียนว่า ได้พาทางกงสุลใหญ่มาเลเซียประจำจังหวัดสงขลาเข้ามาดูว่าในเรือนจำแห่งนี้มีการปฏิบัติอย่างเสมอภาค ถูกต้องตามหลักศาสนาทุกประการ
โดยเฉพาะเรือนจำจังหวัดนราธิวาส เป็นเขตที่ติดกับประเทศมาเลเซีย มีผู้ต้องราชทัณฑ์ที่เป็นชาวมาเลเซียประมาณ 31 คน เป็นผู้ชายจำนวน 27 คน และเป็นผู้หญิง 7 คน และใน 7 คนก็มีนักร้องนักดนตรีที่คนมาเลเซียติดตาม รวมอยู่ด้วย
“ผมได้ติดต่อกับเอกอัครราชทูต ให้ทางกงสุลใหญ่ประจำจังหวัดสงขลากับคณะได้เข้าไปดูยังสถานที่จริง และได้พบปะกับผู้ต้องขังชาวมาเลเซียทั้ง 31 คน ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย โดยได้เข้าไปดูที่นอน ซึ่งเป็นการเปิดให้เข้าไปดูโดยไม่มีการเตรียมกันมาก่อน”
“ทางท่านกงสุลได้ขอบคุณทางรัฐบาลไทยที่ให้เกียรติและดูแลผู้ต้องราชทัณฑ์อย่างมีสิทธิมนุษยชน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารการกิน ซึ่งเป็นอาหารฮาลาลที่มีผู้ปรุงอาหารเป็นมุสลิม รวมถึงความเป็นอยู่ และการประกอบศาสนกิจต่างๆ ซึ่งพอได้ดูแล้วมีความพึงพอใจมาก” พ.ต.อ.ทวี กล่าว
@@ ยอมรับได้สิทธิเท่าเทียมคนไทย - เตรียมร่วมละศีลอดรอมฎอน
ขณะที่ นายอะฮ์มัด ฟะฮ์มี บิน อะห์มัดซาร์กาวี กงสุลใหญ่มาเลเซียประจำจังหวัดสงขลา กล่าวว่า หลังจากที่ได้พูดคุยกับผู้ต้องขังชาวมาเลเซียทุกคน มีความพึงพอใจในเรื่องของการบริการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารการกิน ที่นอน และการบริการทางด้านสุขภาพ ทุกคนได้รับสิทธิเท่าเทียมกับผู้ต้องขังที่เป็นคนไทย โดยไม่มีการร้องเรียนปัญหาใดๆ
“ทางกงสุลมาเลเซียก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการที่จะมาดูแลผู้ต้องขังที่เป็นชาวมาเลเซีย และมีแผนที่จะเข้ามาร่วมกันละศีลอดพร้อมกันในเดือนรอมฎอนที่ใกล้จะถึงนี้ โดยจะนำหนังสือที่ชาวมาเลเซียเรียกร้องที่อยากจะได้หนังสือไว้อ่านในระหว่างถูกคุมขัง ณ ที่แห่งนี้ มามอบให้ด้วย ต้องขอขอบคุณทางรัฐบาลไทยที่ช่วยดูแลผู้ต้องขังชาวมาเลเซียทุกคนเป็นอย่างดี ทั้งที่อยู่ในเรือนจำแห่งนี้และเรือนจำอื่นๆด้วย” กงสุลใหญ่มาเลเซีย กล่าว
@@ ราชทัณฑ์แถลงย้ำปฏิบัติต่อผู้ต้องขังทุกศาสนาเสมอภาค
วันเดียวกัน กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ออกแถลงการณ์เป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ยืนยันมาตรฐานการดูแลผู้ต้องขังถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลามและทุกศาสนา กรณีมีข่าววิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการคุมขังศิลปินนักร้องชื่อดังชาวมาเลเซียที่ถูกจับในคดียาเสพติดที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อไม่นานมานี้
ในเอกสารชี้แจงระบุหัวข้อว่า "ราชทัณฑ์สร้างความเข้าใจ เรื่องการควบคุมดูแลผู้ต้องขังศาสนาอิสลาม" เนื้อหาระบุว่า ตามที่ได้มีการเข้าจับกุมตัว น.ส.วันโนรซาฮีดาอัชลิน บินตี วันอิสมาอีล นักร้องชาวมาเลเชีย ที่เดินทางข้ามแดนมายังจังหวัดนราธิวาส พร้อมยาบ้า 6,060 เม็ด และนำตัวเข้าคุมขังยังยัง เรือนจำจังหวัดนราธิวาส โดย น.ส.วันโนรชาฮีดาอัชลิน บินตี วันอิสมาอีล เป็นผู้ต้องขังต่างชาติ ซึ่งนับถือศาสนาอิสลามนั้น
กรมราชทัณฑ์ โดยเรือนจำจังหวัดนราธิวาสได้รับตัว น.ส.วันโนรชาฮีดาอัชลิน บินตี วันอิสมาอีล ไว้ในการควบคุมเรียบร้อยแล้ว ซึ่งกรมราชทัณฑ์ได้มีการวางกฎระเบียบทั้งทางด้านการบริหารจัดการและการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังต่างชาติ รวมถึงการนับถือศาสนาที่หลากหลายให้สอดคล้องกับมาตรฐานงานราชทัณฑ์ระดับสากล และข้อกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำสำหรับการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังขององค์การสหประชาชาติ เพื่อจะนำไปสู่การเป็นองค์กรชั้นนำแห่งอาเซียนในการควบคุมแก้ไขและพัฒนาพฤตินิสัยของผู้ต้องขัง
กรมราชทัณฑ์ ตระหนักว่า การดูแลผู้ต้องขังต่างชาติตามหลักศาสนาอิสถามนั้น ผู้ปฏิบัติจะปฏิบัติด้วยความศรัทธา การให้ผู้ต้องขังทุกคนได้มีโอกาสปฏิบัติศาสนากิจได้ตามศรัทธา โดยไม่ขัดต่อกฎระเบียบของเรือนจำ ทัณฑสถานตามสิทธิของผู้ต้องขัง จะช่วยลดปัญหาการขัดแย้งต่างๆ ในสังคมได้
กรมราชทัณฑ์ จึงได้วางแนวทางในการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังอิสลามที่อยู่ในเรือนจำ เช่น แดนสูทกรรม มีการจัดสถานที่และภาชนะที่ใช้ในการประกอบอาหารเป็นสัดส่วนสำหรับผู้ต้องขังมุสลิมโดยเฉพาะประกอบอาหารฮาลาลทั้ง 3 มื้อ สำหรับพิธีละหมาด ให้ผู้ต้องขังมุสลิมทั้งชายและหญิงสวมชุดที่สะอาด ถูกต้องตามศาสนา รวมถึงในช่วงถือศีลอดหรือเดือนรอมฏอน จัดหาน้ำสะอาดไว้ให้ผู้ต้องขังอย่างเพียงพอ และจัดอาหารให้ผู้ต้องขังมุสลิมนำขึ้นไปรับประทานบนเรือนนอน หากผู้ต้องขังต้องการศึกษาหลักศาสนาอิสลาม เรือนจำ/ทัณฑสถาน จะจัดหาอาสาสมัครมาสอน เพื่อให้ความรู้ในการศึกษาหลักศาสนาตามความเหมาะสม
ทั้งนี้สำหรับผู้ต้องขังต่างชาติ กรมราชทัณฑ์ได้อำนวยความสะดวกแก่การปฏิบัติหน้าที่ทางกงสุลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องขังชาวต่างประเทศ โดยผู้แทนทางการทูตและเจ้าพนักงานกงสุลสามารถเข้าเยี่ยมและให้ความช่วยเหลือผู้ต้องขังต่างชาติในเรือนจำและทัณฑสถาน ตามวันและเวลาราชการ รวมถึงยังได้รับการเยี่ยมจากบุคคลภายนอกผ่านระบบวิดีโอคอล หรือ LINE Application เพื่อให้ความสะดวกแก่ผู้ต้องขังและญาติผู้ต้องขังอีกด้วย โดยให้ถือปฏิบัติตามข้อบังคับและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องของกรมราชทัณฑ์”