ท่ามกลางข่าวลือต่างๆ ของการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่ถูกพันธนาการด้วยวลี “จริยธรรม” นั้น ปัญหาความมั่นคงไทย โดยเฉพาะในส่วนที่เป็นปัญหาเฉพาะหน้า (immediate problem) ได้ส่งสัญญาณถึง “การไม่รอรัฐบาลใหม่” อย่างเห็นได้ชัด
ศ.ดร.สุรชาติ บำรุงสุข นักวิชาการด้านความมั่นคงชื่อดัง ประเมินว่า ในเงื่อนไขของโลกอนุรักษ์นิยมไทยที่ถูกตีกรอบด้วย “ความมีจริยธรรม” ของนักการเมืองที่จะเข้าร่วมรัฐบาลนั้น ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า การมาของรัฐบาลใหม่อาจจะไม่รวดเร็วอย่างที่คาดหวัง แต่ปัญหาความมั่นคงที่เกิดนั้น กลับเดินหน้าไปไม่หยุดยั้ง
ฉะนั้น อาจารย์สุรชาติ จึงชวนทุกคนสำรวจประเด็นความมั่นคงที่มีลักษณะเป็นปัญหาเฉพาะหน้า โดยจะเห็นถึงความท้าทายที่สำคัญต่อรัฐบาลใหม่ 10 ประการ ได้แก่
1. วิกฤติการเปลี่ยนแปลงของอากาศ (climate change) ที่ปัญหารูปธรรมในด้านหนึ่งอาจจะไม่ใช่เพียงในเรื่องของโลกร้อนเท่านั้น แต่ปรากฏในรูปของความผันผวนของอากาศ เช่น การเกิดอุทกภัยในภาคเหนือของประเทศในปัจจุบัน จนทำให้เกิดความกังวลว่าจะเกิด “ปัญหาน้ำท่วมใหญ่” เช่นมหาอุทกภัย 2554 หรือไม่ หรือจะเกิดปัญหา “มหามวลน้ำ” ซ้ำรอยระหว่างปี 2554 กับ 2567 เมื่อนายกรัฐมนตรีมาจากตระกูลชินวัตร
2. วิกฤติโรคระบาด ซึ่งสังคมไทยได้ก้าวสู่ “ยุคหลังโควิด” แล้วนั้น แต่การระบาดของฝีดาษวานร (Clade 1) ซึ่งกำลังเกิดขึ้นในภูมิภาคอื่น วันนี้ได้เริ่มมีผู้ป่วยในไทย แม้จะเริ่มมีการระบาดในไทย และอาจไม่เป็นการระบาดใหญ่เช่นในกรณีของโควิด-19 แต่ก็ก่อให้เกิดความกังวลอย่างมากในสังคม และในอีกด้านปัญหานี้คือคำเตือนรัฐบาลไม่ให้ละเลยกับปัญหาความมั่นคงด้านสาธารณสุขที่คาดเดาไม่ได้
3. วิกฤติเศรษฐกิจ คงต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจไทยมีอาการ “ซึมยาว” และไม่มีสัญญาณบวกในทางเศรษฐกิจมากนัก จนอาจต้องยอมรับว่า การเคลื่อนตัวทางเศรษฐกิจของประเทศไม่สามารถขยับตัวได้มาก จนก่อให้เกิดการเติบโตได้อย่างที่หวัง การสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจจึงเป็นโจทย์สำคัญของรัฐบาลเสมอ และความสำเร็จคือ โอกาสของชัยชนะทางการเมืองในอนาคต
4. วิกฤติหนี้ครัวเรือน เป็นปัญหาสำคัญในสังคมไทยมาตลอด และมีสัญญาณของความเป็นวิกฤติมากขึ้นเรื่อยๆ จึงทำให้เกิดคำถามอย่างมากถึงทิศทางการแก้ปัญหาของรัฐบาลทั้งในระยะสั้น และระยะยาว รวมถึงความสามารถของรัฐบาลที่จะแก้ปัญหาความมั่นคงในชีวิตผู้คนในสังคมผ่าน “เงินดิจิทัลวอลเล็ต” ได้เพียงใด
5. วิกฤติใต้ มีสภาพเป็น “ปัญหาเรื้อรัง” ที่เข้าสู่ปีที่ 21 พร้อมกับกลุ่มผู้ก่อการร้าย BRN ก่อเหตุเพื่อกดดันรัฐมากขึ้น และยังขยายฐานแนวร่วมกับองค์กรในโครงสร้างการเมืองไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังจะเห็นถึงการเคลื่อนไหวด้วยการรุกทางการเมืองในรูปแบบต่างๆ จนรัฐไทยมีสภาวะของการ “ถอยทางการเมือง” หรือถูกกดดันให้ตกอยู่ในสภาพที่เป็น “เบี้ยล่าง” ซึ่งรัฐบาลใหม่ควรต้องคิดถึงปัญหาความมั่นคงภาคใต้มากขึ้น
6. วิกฤติสังคม ผ่านประเด็นสำคัญในเรื่องของยาเสพติด การพนันออนไลน์ และหลอกลวงออนไลน์ ซึ่งทำให้คนในสังคมประสบปัญหาอย่างมาก การออกมาตรการในการจัดการปัญหาความมั่นคงทางสังคมเช่นนี้ มีความจำเป็นอย่างมากในปัจจุบัน เพราะเกิดผลกับประชาชนในวงกว้าง
7. วิกฤติเมียนมา อันเป็นผลจากสงครามกลางเมืองที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น และมีผลกระทบกับความมั่นคงไทยอย่างมาก การกำหนดนโยบายต่อปัญหาความมั่นคงชุดนี้ เป็นประเด็นที่รัฐบาลใหม่ต้องนำมาพิจารณา
8. วิกฤติสินค้าไทย ประเด็นนี้เป็นโจทย์สำคัญ อันเป็นผลโดยตรงจาก “การทุ่มตลาด” ของสินค้าจีน ที่มีต้นทุนต่ำ และมีจำนวนการผลิดสูง จนทำให้ระบบการผลิตในไทยถูกทำลาย แต่ตลาดถูกครอบงำโดยสินค้าจีน จนเป็นการทำลายความมั่นคงทางเศรษฐกิจไทยอย่างหนัก ซึ่งรัฐบาลใหม่จะต้องใส่ใจในเรื่องนี้ให้มาก เพื่อไม่ให้เกิด “การเสียเอกราช” ของตลาดสินค้าไทย
9. วิกฤติความเชื่อมั่น การสร้างให้เกิดความเชื่อมั่นเป็นประเด็นสำคัญต่อสถานะทางการเมืองของรัฐบาล ผลจากปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองในสังคมไทย และความไม่มั่นใจในสถานะของรัฐบาล มีส่วนอย่างมากต่อการลดทอนความเชื่อมั่นของรัฐบาลในเวทีสาธารณะ ซึ่งรัฐบาลใหม่จะต้องเร่งฟื้นฟูความมั่นคงทางการเมืองเช่นนี้ให้ได้ และความเชื่อถือทางการเมืองจะมีผลอย่างมากต่อการลงทุนทางเศรษฐกิจในอนาคตด้วย
10. วิกฤติภูมิรัฐศาสตร์ การแข่งขันของรัฐมหาอำนาจใหญ่ในเวทีสากลเป็นประเด็นความมั่นคงระหว่างประเทศที่สำคัญสำหรับทุกรัฐบาลในปัจจุบัน ดังนั้น รัฐบาลจะต้องกำหนดท่าทีและบทบาทของรัฐไทยในเวทีสากลให้มีความ “เหมาะสม-ลงตัว” กับปัญหาการแข่งขันในเวทีโลกและเวทีภูมิภาคให้ได้
ความท้าทายจากวิกฤติ 10 ประการเช่นนี้ รอการพิสูจน์ฝีมือของรัฐบาลใหม่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และน่าสนใจอย่างมากว่า รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร จะกำหนดทิศทางการแก้ปัญหา “ความมั่นคงเฉพาะหน้า” เช่นนี้อย่างไรในอนาคต!
-------------------------
ขอบคุณภาพกราฟฟิกรายการข่าวข้นคนข่าว เนชั่นทีวี