ไปต่อไม่รอแล้วนะ! “ก้าวข้ามเงื่อนไขความไม่สงบ ปูทางพัฒนาเศรษฐกิจชายแดนใต้” ศอ.บต.ประสบความสำเร็จเชิญทูต 12 ชาติมุสลิมเยือนปลายด้ามขวาน เจาะตลาดฮาลาลยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน
ทูตกลุ่มประเทศมุสลิมที่ประจำการในไทย บินสู่ปลายด้ามขวานของไทย จากการเชื้อเชิญของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และ กระทรวงการต่างประเทศ
นับเป็นปีที่ 2 ของการจัดกิจกรรมลักษณะนี้ โดยตั้งเป้า “สื่อสารข้อเท็จจริง” เหตุการณ์ในพื้นที่ เพื่อสื่อสารให้ได้รับรู้ว่าชายแดนใต้ของไทย แม้จะมีความขัดแย้งบ้าง แต่ไม่ได้เป็นสงครามจนไม่สามารถลงทุนหรือท่องเที่ยวได้ อีกทั้งที่นี่ยังมีศักยภาพทั้งคนและทรัพยากร รัฐบาลไทยดูแลอย่างดี เท่าเทียม ให้อิสรภาพ
@@ ทำไมต้องให้ความสำคัญกับความเห็นของทูตโลกมุสลิม
“ไทย” มิได้เป็นสมาชิกของกลุ่ม OIC (The Organization of Islamic Cooperation) หรือ องค์การความร่วมมืออิสลาม แต่เป็น “ผู้สังเกตการณ์” และวางตัวเป็นพันธมิตรที่ดีต่อทุกๆ ประเทศในแถบตะวันออกกลางมาอย่างยาวนาน ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้งในโลกมุสลิม
แต่กระนั้นไทยก็เผชิญกับปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในชายแดนใต้ จนนำไปสู่การเจรจากระบวนการสันติสุข
เป้าหมายที่ต้องการสื่อให้กลุ่มประเทศโลกประเทศมุสลิมได้เห็นคือ เราดูแลคนของเรา ประเทศของเราอย่างเท่าเทียม และดีที่สุดภายใต้กฎหมาย และพร้อมน้อมรับความร่วมมือในการพัฒนาเศรษฐกิจ-การศึกษา-การลงทุน-การท่องเที่ยว เพื่อทำให้ประชาชนใน 3 จังหวัดที่มีชีวิตที่ดีอยู่แล้ว ดีขึ้นไปอีก
@@ ความเห็นทูตกลุ่มประเทศมุสลิมว่าอย่างไร
ทูตที่เดินทางลงชายแดนใต้ แบ่งเป็น ทูตต่างประเทศที่ประจำการในไทย 8 คน และทูตไทยที่ประจำการในต่างประเทศ แถบตะวันออกกลาง 4 คน เดินทางลง 3 จังหวัดเป็นครั้งแรกเกือบทั้งหมด โดยมี ศอ.บต. เป็นแม่งาน ร่วมกับแต่ละจังหวัด กำหนดจุดพรีเซ็นต์เพื่อให้เห็นถึงวีถีชีวิต อัตลักษณ์ และความเป็นพหุวัฒนธรรม “พุทธ-อิสลาม-จีน” ที่อยู่ร่วมกันได้ ไม่มีปัญหา เข้าใจ และเอื้ออาทรต่อกัน
ที่สำคัญ ทำให้เห็นถึงศักยภาพของคนและทรัพยากรที่มีคุณภาพ สามารถต่อยอดการค้าการลงทุน
ทั้งหมดนี้ใช้เวลา 3 วัน ตั้งแต่ 11-13 มิ.ย.2567
อุปทูตไนจีเรีย นายมุฮัมหมัด อิดริส ไฮดารา ให้ความเห็น ณ มัสยิดกลางประจำจังหวัดปัตตานี ว่า ครั้งแรกที่เยือนชายแดนใต้ไทย รู้สึกถึงบรรยากาศและความเป็นอยู่ของคนที่นี่ตรงกันข้ามกับที่สื่อเสนอข่าวสาร ไม่ได้น่ากลัว หดหู่ ประชาชนยังยิ้มแย้ม อบอุ่น
"สิ่งที่โลกควรรับรู้คือการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรมที่แสนสวยงามอย่างเข้าใจ เป็นสิ่งที่น่าทึ่งมาก"
@@ ต่อยอดการลงทุน จชต. ไทย และโลกมุสลิม
เลขาธิการ ศอ.บต. พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ ย้ำชัดว่า เป้าหมายสำคัญของการเชิญทูตประเทศโลกมุสลิมทั้งไทยและเทศ นอกจากจะสื่อสารให้สัมผัสข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์แล้ว เป้าหมายใหญ่คือการยกระดับความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ ขยายตลาดการค้าการลงทุน นำวัสดุและผลิตภัณฑ์ในพื้นที่สู่ประเทศโลกมุสลิมที่มีประชากรมุสลิมจำนวนมากและมีกำลังซื้อ
สร้างเแผ่นดินใต้ เป็น Hab Halal ส่งออกสินค้าฮาลาล เนื่องจากรสชาติอาหารไทยนั้น เป็นที่ยอมรับของคนทั่วโลก
นางฮาละห์ ยูซุฟ อะห์มัด เราะญับ เอกอัครราชทูตอียิปต์ กล่าวหลังพบนักธุรกิจและชมสินค้าท้องถิ่น-สินค้าส่งออกของชายแดนใต้ว่า แม้อียิปต์จะไม่ได้มีพรมแดนติดกับไทย แต่อียิปต์ก็พร้อมส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างอียิปต์-ไทย โดยเชิญนักลงทุนจากอียิปต์เข้ามาลงทุนในไทย โดยเฉพาะชายแดนใต้ และพร้อมต้อนรับนักลงทุนไทยไปลงทุนในประเทศอียิปต์ด้วย
“ขอชื่นชมรัฐบาลไทยที่ได้หนุนเรื่องเศรษฐกิจและการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างเท่าเทียมกับพื้นที่อื่น”
สำหรับประเทศอียิปต์ เป็นหนึ่งในประเทศที่มอบทุนการศึกษาแก่นักเรียนใน 3 จังหวัดต่อเนื่องยาวนาน ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากผู้นำศาสนาคนสำคัญในประเทศไทยส่วนมากจบการศึกษาจากมหาลัยดังในประเทศนี้
โดยทูตอียิปต์ได้กล่าวอีกว่า จะสนับสนุนการศึกษาของประเทศไทยต่อไป และชื่นชมนักเรียนไทยในอียิปต์ที่มีความตั้งใจ ขยันที่จะศึกษาเล่าเรียน
ด้าน อุปทูตมาเลเซีย นายบอง ยิก จุย กล่าวว่า มาเลเซีย-ไทย มีความสัมพันธ์ที่ดีมาอย่างยาวนาน เนื่องจากชายแดนติดกัน ส่งผลให้นักท่องเที่ยวของทั้ง 2 ประเทศเดินทางเข้าออกสะดวก จึงพร้อมให้ความร่วมมือทั้งเรื่องการศึกษา การพัฒนาเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว พร้อมเป็นภาคีร่วมกันต่อไป
ส่วนความมั่นคงนั้น ก็ให้ความร่วมมือเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
“เชื่อมั่นว่านักท่องเที่ยวมาเลเซียจะปลอดภัยเมื่อเข้ามาเที่ยว-จับจ่ายสินค้าในไทย เพราะเชื่อมั่นในการทำงานของฝ่ายความมั่นคง”
ด้านนักธุรกิจ ผู้ประกอบการข้าวเกรียบปลานัสริน จ.ปัตตานี นางอารียา หะยีมะเด็ง บอกว่า การเดินทางมาเยือนชายแดนใต้ของทูตประเทศมุสลิม นับเป็นมิติใหม่ที่จะต่อยอดการค้าร่วมกับประเทศแถบอาหรับ หรือประเทศกลุ่มมุสลิม เจาะตลาดการค้าไปยังประเทศต่างๆ เนื่องจากสินค้าฮาลาลในชายแดนใต้ได้รับความมั่นใจ ทั้งรสชาติ และเครื่องหมายฮาลาล
“ที่ผ่านมาเราไม่มีโอกาสพรีเซ็นต์สินค้าให้กลุ่มประเทศเหล่านี้ได้รู้จัก ครั้งนี้จึงเป็นก้าวแรก และหวังว่าจะสามารถเดินหน้าส่งออกสินค้าท้องถิ่นสู่ตลาดโลกมุสลิมได้ในอนาคต”
@@ ต่างชาติ มองความขัดแย้งใน จชต. อย่างไร
นายสรยุทธ ชาสมบัติ เอกอัครราชทูตไทยประจำการกรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) เผยถึงความเห็นต่างชาติ โดยเฉพาะคณะทูตต่างประเทศที่เดินทางมาด้วยกันว่า ต่างประเทศเข้าใจดีถึงความขัดแย้งในลักษณะนี้ ความขัดแย้งบางประการก็ต้องแก้ไขไปที่ละเปลาะ ทีละอย่าง
ตนอาศัยอยู่อาบูดาบีกว่า 1 ปีครึ่ง ความขัดแย้งในตะวันออกกลางนั้นรุนแรงกว่ามาก และคิดว่า ชายแดนภาคใต้เป็นดินแดนที่เรียบร้อย สวยงาม เหมาะแก่การตั้งรกราก ทั้งนี้พร้อมร่วมยกระดับคุณภาพชีวิต โดยหนุนการค้าขายและการลงทุนระหว่างประชาชนในพื้นที่กับยูเออีด้วย
สำหรับ ศอ.บต. โดยเฉพาะแนวคิดเลขาธิการคนปัจจุบัน พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ ก้าวข้ามปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่ไปแล้ว พร้อมนำพื้นที่แห่งนี้ไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจอย่างจริงจัง เนื่องจากมองว่า คนชายแดนใต้นั้น สุขกายใจ พื้นที่ดี สังคมดี เป้าหมายต่อไป คือการยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้มีอาชีพ รายได้ และความเป็นอยู่ที่ดีอยู่แล้ว...ให้ดีขึ้นไปอีก