ในขณะที่ประชาชนในภูมิภาคต่างๆ ของประเทศไทยเล่นสาดน้ำสงกรานต์อย่างสนุกสนาน
พี่น้องมลายูในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้กลุ่มหนึ่ง ก็ได้จัดกิจกรรมแต่งชุดมลายู ซึ่งเป็นอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมของพวกตน และไปรวมตัวกันที่หาดวาสุกรี ต.ตะลุบัน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ซึ่งปีนี้จัดเป็นปีที่ 3 ต่อเนื่องกันแล้ว
กิจกรรมเริ่มขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 13 เม.ย.67 ตรงกับวันสงกรานต์พอดี ซึ่งจริงๆ แล้วกิจกรรมนี้จัดขึ้นช่วงต่อเนื่องจากเทศกาลฮารีรายอ หลังสิ้นสุดเดือนรอมฎอนของพี่น้องมุสลิม
องค์กรที่จัดยังเป็นองค์กรเดิม คือ สมัชชาประชาสังคมเพื่อสันติภาพ (CAP) มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและอนุรักษ์ฟื้นฟูการแต่งกายตามวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ท้องถิ่น เป็นกิจกรรม Melayu Raya 2024 รวมตัวเยาวชน คนรุ่นใหม่ในพื้นที่ชายแดนใต้ หลังสิ้นสุดช่วงเดือนรอมฎอน หรือหลังการเฉลิมฉลองฮารีรายอ
ภายในงานมีเยาวชน นักกิจกรรม ตลอดจนนักการเมืองทั้งท้องถิ่น และระดับชาติไปร่วมอย่างคับคั่ง โดยเฉพาะ สส.พรรคประชาชาติ เช่น ผศ.วรวิทย์ บารู สส.ปัตตานี นายซูการ์โน มะทา สส.ยะลา เป็นต้น
ไฮไลต์ของกิจกรรมคือ ร่วมกันขอดุอาให้กับชาวปาเลสไตน์ที่สูญเสีย และได้รับผลกระทบจากสงคราม ภายใต้หัวข้อ “BUKA PATANI DOA PALESTINE” (เปิดบ้านปาตานีดูอาสู่ปาเลสไตน์)
สำหรับการจัดกิจกรรมรวมตัวกันแต่งกายด้วยชุดมลายูครั้งนี้ จัดขึ้นเป็นปีที่ 3 เเม้กิจกรรมในปีก่อนหน้า คือปี 65 จะมีการดำเนินคดีกับแกนนำเยาวชน 9 คน โดยกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ก็ตาม แต่มีการทำความเข้าใจตรงกันแล้วว่า ฝ่ายความมั่นคงไม่ได้ห้ามจัดกิจกรรม ส่วนการดำเนินคดีเป็นเพราะในปีนั้นมีการโบกธงบีอาร์เอ็น และปราศรัยในลักษณะยุยงปลุกปั่น
การจัดกิจกรรมในปีนี้ ผู้จัดงานจึงประสานกับฝ่ายความมั่นคงล่วงหน้า และมีการจัดสมาชิกคอยสังเกตการณ์หน้างาน เพื่อกลั่นกรอง เเจ้งกฎข้อห้าม เเละขอความร่วมมือผู้ร่วมงานระมัดระวังในเรื่องที่อาจสุ่มเสี่ยงกระทำผิดกฎหมายอย่างเข้มงวด รวมถึงห้ามนำอาวุธเข้าไปในบริเวณที่จัดกิจกรรมด้วย
นายมูฮำหมัดอาลาดี เด็งนิ หนึ่งในผู้ที่ถูกดำเนินคดี กล่าวว่า กิจกรรมนี้ถือเป็นเทศกาลประจำปีของผู้คนในพื้นที่ชายแดนใต้ไปแล้ว โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่นัดมารวมตัวกันสะท้อนอัตลักษณ์ท้องถิ่น ส่วนเรื่องคดี ทราบว่าตำรวจกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเตรียมส่งฟ้อง แต่ก็ไม่รู้กังวลใจอะไร เพราะได้ชี้แจงข้อกล่าวหาไปหมดแล้ว ยืนยันว่างานที่จัดขึ้นไม่ได้มีเจตนากระทำการนอกเหนือกฎหมาย
วันเดียวกัน กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้ออกแถลงการณ์ขอบคุณทีมงานผู้จัด และกลุ่มเยาวชนที่ไปร่วมกิจกรรม ที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ละเมิดกติกา กิจกรรมจึงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ราบรื่น พร้อมย้ำว่า กอ.รมน.สนับสนุนเรื่องการอำนวยความสะดวก ทั้งการจราจร การบริการทางการแพทย์ อาหารและเครื่องดื่ม ตลอดจนตรวจตราสถานที่เพื่อความปลอดภัย
