ภริยานายกฯเศรษฐา พร้อมคณะคู่สมรสรัฐมนตรีรวม 23 คนลงพื้นที่ปัตตานี เยี่ยมชมสถานที่สำคัญตามรอยท่านผู้นำ หวังช่วยเพิ่มบรรยากาศการท่องเที่ยวชายแดนใต้ สร้างความมั่นใจในความปลอดภัย
ดูเหมือนรัฐบาลพรรคเพื่่อไทยจะเดินหน้าดับไฟใต้ด้วยการฟื้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวให้กลบเสียงปืนเสียงระเบิด ตามการแสดงจุดยืนของนายกฯเศรษฐา ทวีสิน และคำยืนยันจากโฆษกรัฐบาลชัย วัชรงค์ ในช่วงก่อนและหลังการลงพื้นที่ 3 วัน 2 คืน ระหว่างวันที่ 27-29 ก.พ.67 ที่ผ่านมา
เพราะล่าสุดคณะคู่สมรสรัฐมนตรีก็เดินทางตะลุยพื้นที่ชายแดนใต้ตามรอยนายกฯเศรษฐา เพื่อปลุกการท่องเที่ยวเช่นกัน แม้ช่วงนี้จะมีเหตุรุนแรงเกิดถี่ขึ้นในห้วงใกล้เดือนรอมฎอนก็ตาม
วันจันทร์ที่ 11 มี.ค.67 ก่อนเริ่มต้นเดือนรอมฎอนเพียง 1 วัน นางพักตร์พิไล ทวีสิน ภริยานายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และภริยารองนายกรัฐมนตรี ตลอดจนภริยารัฐมนตรีรวม 23 คน เดินทางไปเยี่ยมชมมัสยิดกลางประจำจังหวัดปัตตานี ตามรอยนายกรัฐมนตรี
โดยมี นางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นายไชยพร นิยมแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายรอย๊ะ หวันโซ๊ะ อิหม่ามประจำมัสยิดกลาง พร้อมด้วยนายกเทศมนตรีเมืองปัตตานี หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ และกลุ่มพลังมวลชนร่วมให้การต้อนรับ
เมื่อคณะภริยานายกฯเดินทางถึงมัสยิด นายรอย๊ะได้นำชมความสวยงาม พร้อมเล่าถึงประวัติความเป็นมาและความสำคัญของมัสยิดกลางประจำจังหวัดปัตตานีว่า สร้างเมื่อปี พ.ศ.2497 ใช้เวลาดำเนินการก่อสร้าง 9 ปี และทำพิธีเปิดโดย จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เมื่อวันที่ 25 พ.ค.2506 เพื่อให้เป็นศูนย์กลางในการประกอบศาสนกิจของชาวไทยมุสลิมในภาคใต้
รูปแบบการก่อสร้างเป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก มีรูปทรงคล้ายกับทัชมาฮาลของอินเดีย ตรงกลางอาคารมียอดโดมขนาดใหญ่ และมีโดมบริวาร 4 ทิศ มีหออะซาน 2 หอ บริเวณด้านหน้ามัสยิดมีสระน้ำสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ ภายในมัสยิดมีลักษณะเป็นห้องโถง มีระเบียงสองข้าง
จากนั้นได้ร่วมขอดุอาเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่คณะภริยานายกฯ ก่อนจะร่วมบันทึกภาพเป็นที่ระลึก ซึ่งในโอกาสนี้ นางพักตร์พิไล ยังได้ส่งมอบอินทผาลัมให้แก่มัสยิดกลางเพื่อใช้สำหรับละศีลอดในเดือนรอมฎอนด้วย
นางพักตร์พิไล กล่าวว่า ตั้งใจอยากจะมาเยือนปัตตานีหลายปีแล้ว แต่ว่าโอกาสไม่เอื้ออำนวย คราวนี้โชคดีเลยมีโอกาสมากับคณะ ได้มาชมสิ่งสวยๆ งามๆ ก็จะนำไปเผยแพร่ต่อ
“เป็นการมาเยือนปัตตานีครั้งแรกในชีวิต มาพร้อมกับคู่สมรสของรัฐมนตรีหลายๆ ท่าน แต่ไม่ครบทุกท่าน เพราะบางท่านอาจติดภารกิจ เท่าที่ได้ลงมาสัมผัสเห็นว่าคนภาคใต้ คนปัตตานีน่ารักมาก ไปที่ไหนก็ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น รู้สึกดีใจที่ได้มาเยือนปัตตานี และหากมีโอกาสก็จะมาเยือนอีกครั้งอย่างแน่นอน”
“จากที่ได้ทราบจากเจ้าอาวาสวัดช้างให้ ท่านได้เล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้มีนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติมาแก้บนจำนวนมาก และมาเที่ยวในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่เมื่อติดสถานการณ์โควิด จึงเงียบและซบเซาไปบ้าง เชื่อว่าหลังจากการลงพื้นที่ของท่านนายกฯ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ผ่านมา จะทำให้บรรยากาศในพื้นที่กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง” นางพักตร์พิไล ระบุ
ภริยานายกฯเศรษฐา บอกด้วยว่า การลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรีก่อนหน้านี้ รวมถึงการลงพื้นที่ของคู่สมรสคณะรัฐมนตรีในครั้งนี้ จะนำความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวไปเผยแพร่ต่อ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวในการมาเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ เพราะเมืองปัตตานีมีความสวยงาม และคนในพื้นที่มีความน่ารัก ไปที่ไหนได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น มีความปลอดภัย อาหารอร่อย สินค้าพื้นเมืองมีคุณภาพและสวยงาม ยืนยันว่าทุกอย่างมีความสงบพอสมควร และถือว่ามีความปลอดภัย และเป็นอีกจุดหนึ่งที่จะโปรโมตให้ชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวได้