นายกฯเศรษฐา นำทีมลงพื้นที่ชายแดนใต้ ร่วมกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว "เที่ยวใต้ สุดใจ" วันแรก เยี่ยมชมวิถีชีวิต ศิลปวัฒนธรรม และแหล่งท่องเที่ยวเมืองปัตตานี ชมขนมท้องถิ่นอร่อยทุกเมนู สั่ง ททท.โปรโมตด่วน เสนอนำ “เมี่ยงคำสมุนไพร” เป็นเมนูออเดิร์ฟบนเครื่องการบินไทย
เมื่อเวลา 14.30 น.วันอังคารที่ 27 ก.พ.67 ที่ศาลหลักเมืองปัตตานี นางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี พร้อมด้วยรองผู้ว่าฯ หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนในพื้นที่ ร่วมกันให้การต้อนรับ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระหว่างข้าสักการะศาลหลักเมือง
สำหรับคณะที่ลงพื้นที่พร้อมนายกฯเศรษฐา ประกอบด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม, นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา, พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม, นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.วัฒนธรรม, นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย
วัตถุประสงค์ของการลงพื้นที่ เพื่อร่วมกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายใต้แคมเปญ "เที่ยวใต้ สุดใจ" ระหว่างวันที่ 27-29 ก.พ.
@@ เยือนมัสยิดกรือเซะ ชื่นชมของดี-งานศิลป์-งานคราฟต์
ภายหลังสักการะศาลหลักเมืองปัตตานีแล้ว นายกฯเศรษฐา และคณะได้เดินทางไปเยี่ยมชมมัสยิดกรือเซะ ตลาดวิถีชุมชนพื้นบ้าน จ.ปัตตานี พบปะผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น และประชาชนรอบๆ มัสยิดกรือเซะ ต.ตันหยงลุโละ อ.เมืองปัตตานี โดยมีกลุ่มสตรี และนักเรียนจากโรงเรียนใน ต.ตันหยงลุโละ, กลุ่มบาราโหมบาซาร์, กลุ่มเกลือหวานปัตตานี, บ้านเดินดิน เบญจเมธา (ผลิตงานคราฟต์จากดิน) ร่วมต้อนรับ
โดยนายกรัฐมนตรีได้ชิมขนมหวานมะพร้าวอ่อน, ขนมลาดู, ขนมเวาะฮูลูบือระห์ (ขนมไข่โบราณ) และขนมท้องถิ่นอีกมากมาย พร้อมทั้งเอ่ยชมว่า “อร่อยทุกเมนู” และฝากให้ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา รวมถึงผู้ว่า ททท. โปรโมตขนมท้องถิ่นให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศได้รู้จัก
“ดีใจที่ได้เห็นรอยยิ้ม คำพูดของพี่น้องในพื้นที่ จะรับไปพิจารณาในเรื่องการบูรณะพิพิธภัณฑ์และเครื่องทองเหลืองให้เร็วที่สุด การนำเอาเมี่ยงคำสมุนไพรขึ้นเป็นอาหารบนการบินไทย ให้ความหวังเรื่องสะพานตะลุโบะของชาวปัตตานีเป็นจริง มีหลายอย่างที่สามารถทำได้ที่นี่ ปีหน้ามาใหม่ ถ้าไม่มีความคืบหน้า…บอกผม” นายกฯ เศรษฐา กล่าวกับพี่น้องชาวปัตตานีที่มัสยิดกรือเซะ
ฟังเสียงพี่น้องประชาชนในพื้นที่ รู้สึกดีใจและปลื้มใจที่นายกฯเศรษฐา ไปเยือนมัสยิดกรือเซะ เพราะน่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกหลังเหตุการณ์ไฟใต้เมื่อปี 2547 ที่ไปยังมัสยิดเก่าแก่แห่งนี้ และถ่ายภาพร่วมกันด้านหน้ามัสยิดด้วย
@@ ควักกระเป๋า 3 หมื่นซื้อภาพเด็กมุสลิมกับเณร
ด้าน สุไลมาน ยาโม ศิลปินดับไฟใต้ด้วยปลายพู่กัน กล่าวว่า ดีใจมากที่นายกฯชื่นชอบ และซื้อภาพวาดเด็กชายมุสลิมกับเณร ราคา 30,000 บาท
“วันนี้ตรงกับลูกสาวคนเล็กคลอดพอดี ริสกีมินัลลอฮ” สุไลมาน กล่าว ภายหลังนายกฯเศรษฐา ได้ชมภาพจากปลายพู่กัน และควักกระเป๋าซื้อภาพจากศิลปินชายแดนใต้ เพราะประทับใจกับสารที่ศิลปินต้องการสื่อผ่านปลายพู่กัน นั่นก็คือการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขของคนต่างศาสนา สะท้อนสังคมพหุวัฒนธรรมของดินแดนแห่งนี้
@@ เดินตลาดวัฒนธรรม แวะทำขนมเบื้องญวณ
จากนั้น นายกฯ และคณะได้เดินเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวเมืองปัตตานี ได้แก่ บ้านขุนพิทักษ์รายา, บ้านเลขที่ 5 กือดาจีนอ, ตลาดวัฒนธรรมกือดาจีนอ, ศาลเจ้าเล่งจูเกียง (เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว) พร้อมเยี่ยมชมมหกรรมท่องเที่ยวปัตตานีอาเซียน “กตัญญูคู่ฟ้ามหาสมโภชเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวปัตตานี” ประจำปี 2567 บริเวณถนนอาเนาะรู
ที่ตลาดวัฒนธรรมกือดาจีนอ นายกฯ เศรษฐา ได้ลองแวะทำขนมเบื้องญวน และชวนคณะร่วมรับประทานขนมเบื้องญวนด้วยกัน
ส่วนในช่วงค่ำ นายกฯ พร้อมคณะฯ เดินทางไปยังมัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี พบปะคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด และคณะกรรมการมัสยิด เยี่ยมชมความงดงามของมัสยิดกลางในยามค่ำคืน และบันทึกภาพไว้เป็นที่ระลึก ถือว่าสิ้นสุดภารกิจที่ชายแดนใต้วันแรก
สำหรับกำหนดการในวันรุ่งขึ้น (28 ก.พ.) นายกรัฐมนตรีและคณะจะเดินทางไปสักการะหลวงปู่ทวด ที่วัดช้างให้ ต.ควนโนรี อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี พร้อมนมัสการเจ้าอาวาสวัดช้างให้ และจะเดินทางไปปฏิบัติภารกิจต่อยัง จ.ยะลา และ จ.นราธิวาส ต่อไป