เทศกาลตรุษจีนปีนี้ บรรยากาศที่บ้านป่ารอยต่อฯ มูลนิธิป่ารอยต่อห้าจังหวัด ค่อนข้างเงียบเหงา แตกต่างจากยุครัฐบาล 3ป.
แต่กระนั้นก็ยังมีนักการเมืองและคนใกล้ชิดเข้าอวยพรและขอพรปีใหม่จีนจาก “ลุงป้อม” พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เหมือนเช่นเคย แม้จะไม่มากเท่ายุคที่ยังเรืองอำนาจอยู่ก็ตาม
ปัจจุบัน พลเอกประวิตร ไม่มีตำแหน่งทางการเมืองในรัฐบาล เป็น สส.แบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเท่านั้น
แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าเจ้าตัวยังเป็นแคนดิเดตนายกฯหนึ่งเดียวของพรรคอยู่ด้วย และมีโอกาสได้รับการเสนอชื่อแข่งกับแคนดิเดตรายอื่นทันที หากมีอุบัติเหตุทางการเมืองใดๆ เกิดขึ้น
@@ หลังตรุษจีนมีลุ้นปรับ ครม.
บรรยากาศการอวยพรปีใหม่เป็นไปอย่างชื่นมื่น จากนั้นมีการตั้งวงพูดคุยประเด็นการเมืองกันเล็กๆ น้อยๆ โดย “ลุงป้อม" ยอมรับว่า หลังตรุษจีนจะมีความชัดเจนเรื่องปรับ ครม.ครั้งแรกของรัฐบาลนายกฯเศรษฐา ทวีสิน ส่วนจะเป็นปรับใหญ่หรือปรับเล็ก เจ้าตัวไม่ได้บอก
แต่การปรับ ครม.ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ “บิ๊กป้อม” ยืนยันว่า ไม่มีการปรับ โดยโควต้า 4 คน 5 เก้าอี้ยังเท่าเดิม คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า) รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สันติ พร้อมพัฒน์) และอีก 1 รัฐมนตรีช่วย ซึ่งยังว่างอยู่ ยังคงเป็นของ ไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร คนสนิท ร้อยเอกธรรมนัส เลขาธิการพรรค
พลเอกประวิตร ย้ำว่า ไผ่ไม่มีปัญหาเรื่องคุณสมบัติการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีแล้ว เพราะคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความออกมาชัดเจนแล้วว่าไม่มีปัญหาใดๆ
ส่วนรัฐมนตรีคนอื่นๆ ในโควต้าของพรรค จะไม่มีการเปลี่ยนตัว พร้อมปฏิเสธข่าวที่ว่า ตนเองจะสลับกับน้องชาย คือ “บิ๊กป๊อด” พลตำรวจเอก พัชรวาท เข้าไปดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี โดย “บิ๊กป้อม” ย้ำเสียงดังกลางวงสนทนาว่า “ผมไม่เป็น!” และยังบอกว่าจะไม่เปลี่ยนตัวรัฐมนตรีคนอื่นๆ ด้วย ให้คนเดิมทำงานต่อไป แม้จะมีบุคลากรคุณภาพอีกมากในพรรคก็ตาม
@@ ทำพรรคต่อ ไม่ท้อ-ไม่เลิก ไม่หวั่นก้าวไกล
พูดถึงบุคลากรที่ช่วยงานพรรค ปัจจุบันมีเบอร์ใหญ่อยู่อีกหลายคน ไม่ว่าจะเป็น อุตตม สาวนายน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ซึ่งเคยเป็นหัวหน้าและเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ รวมไปถึง มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในรัฐบาล สมัคร สุนทรเวช และอดีตหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ด้วย ยังไม่นับคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาร่วมงานกับพรรคหลายคน
พลเอกประวิตร บอกอีกว่า จะสร้างพรรคพลังประชารัฐต่อไป ตามยุทธศาสตร์ใหม่ “อนุรักษ์นิยมทันสมัย” เพราะพรรคมีจุดยืนอนุรักษ์นิยมอยู่แล้ว แต่ต้องปรับเปลี่ยนให้ทันยุคทันสมัย และไม่ยุบพรรคหรือเลิกพรรคตามที่มีข่าวลือ
“ทุกคนยังทำงานให้พรรคอย่างเข้มแข็ง ประชุมพรรคสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เป็นการประชุมคณะยุทธศาสตร์ 1 ครั้งต่อสัปดาห์ และประชุมร่วมกันระหว่างรัฐมนตรีกับ สส.อีก 1 ครั้งต่อสัปดาห์” พลเอกประวิตร กล่าว
สำหรับเรื่องคนรุ่นใหม่ที่มาช่วยงานพรรค “ลุงป้อม” บอกว่า เป็นเรื่องปกติ และไม่ได้มีอะไรพิเศษ เพราะจริงๆ แล้วคนรุ่นเก่า หรือคนที่มีวัยวุฒิสูงว่า จะมีประสบการณ์มากกว่า และมีทั้งบุ๋นทั้งบู๊ ฉะนั้นแนวทางของพรรคคือผสมผสาน ทั้งคนรุ่นเก่ามากประสบการณ์ และคนรุ่นใหม่ไฟแรง ไม่ใช่เน้นแต่กระแสในโซเชียลมีเดียเหมือนบางพรรค
พร้อมทั้งบอกว่าไม่เคยกลัวพรรคก้าวไกล แม้จะต้องแข่งขันกันอีกครั้งในสนามเลือกตั้งก็ตาม เนื่องจากประชาชนเป็นคนตัดสิน หากพรรคทำงานดี ประชาชนจะเห็นเอง
@@ ประกาศจุดยืนไม่แก้ รธน. - ไม่แตะ 112
ส่วนแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งรัฐบาลตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษาแนวทางการจัดทำประชามตินั้น พลเอกประวิตร ย้อนถามว่า “จะไปแก้ทำไม”
และย้ำหนักแน่นว่า พรรคพลังประชารัฐยืนยันไม่แก้รัฐธรรมนูญอย่างเด็ดขาด เพราะรัฐธรรมนูญไม่ได้มีปัญหาอะไร ทุกอย่างยังเดินต่อได้ หากในอนาคตมีปัญหาค่อยคิดแก้ไข
“40 เสียงของพรรคจะไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างแน่นอน” พลเอกประวิตร บอก และว่าพรรคจะไม่ทำอะไรที่กระทบถึงสถาบันเบื้องสูงด้วย เพราะประเทศนี้กำเนิดและอยู่มาได้เพราะพระมหากษัตริย์
@@ คืนดี “บิ๊กตู่” สวนผู้ชายด้วยกันไม่มีงอน
เมื่อถามถึงความสัมพันธ์กับ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี และอดีตนายกรัฐมนตรี เพราะระยะหลังมีข่าวงอนกัน ขัดแย้งกัน ไม่ลงรอยกัน ประเด็นนี้ “บิ๊กป้อม” บอกเสียงเข้มว่า ไม่เป็นความจริง
“ผู้ชายด้วยกันจะมางอนกันได้ยังไง...ไม่มี” และยังบอกว่า “น้องตู่” แวะมาเยี่ยมตนตลอด สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง บางทีก็โทรมา ยืนยันไม่เคยงอนกันตามที่เป็นข่าว
มีรายงานด้วยว่า ช่วงต้นสัปดาห์ ซึ่งยังเป็นห้วงเวลาของ “วันเที่ยว” ในเทศกาลตรุษจีน พลเอกประวิตร จะไปไหว้เจ้าแม่กวนอิม และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนที่ย่านเยาวราช และน่าจะมีกิจกรรมเดินพบปะประชาชนด้วย
จากนั้นมีแผนเดินทางไปทำบุญที่ฮ่องกง ท่ามกลางกระแสการเมืองร้อน ใกล้วันที่ 18 กุมภาพันธ์ ซึ่งมีข่าว “ชายชั้น 14” อาจได้รับการพักโทษ ออกจากโรงพยาบาลตำรวจ และกลับบ้านจันทร์ส่องหล้า
-------------------------
หมายเหตุ : ขอบคุณเนื้อหาข่าว และภาพจากเนชั่นทีวี