รัฐบาลชุดนี้มีหลายสิ่งที่ “ลักลั่น” อย่างไม่น่าเชื่อ
ตัวอย่างที่เคยรายงานข่าวไปแล้วก็คือ รัฐบาลชุดนี้ไม่มีรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง, งานความมั่นคงถูกแบ่งส่วนกันไป ไม่รู้ยึดหลักเกณฑ์อะไร
เช่น นายกฯเศรษฐา รับผิดชอบ กอ.รมน.ใหญ่ รองนายกฯภูมิธรรม เวชยชัย รับผิดชอบงานการเมือง (เป็นความมั่นคงของตัวรัฐบาล) ทั้งๆ ที่ตำแหน่งจริงๆ ควบ รมว.พาณิชย์, รองนายกฯปานปรีย์ พหิทธานุกร ก็รับผิดชอบงานด้านต่างประเทศ (ความมั่นคงอีกแนวหนึ่ง) แต่ก็ซ้อนทับกับนายกฯเศรษฐา แถมเดินทางน้อยกว่าอีกต่างหาก
ขณะที่รองนายกฯ สมศักดิ์ เทพสุทิน รับผิดชอบ ศอ.บต. และน่าจะกำกับดูแล กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า (ด้วยหรือเปล่า?)
ขึ้นปีงบประมาณใหม่มานานกว่าครึ่งเดือน แถมมีวิกฤตสงครามในตะวันออกกลาง แต่รัฐบาลยังไม่ตั้งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ฯลฯ
กล่าวสำหรับ ศอ.บต.ที่ รองนายกฯสมศักดิ์ กำกับดูแล ปรากฏว่าท่านก็ไม่ได้ตั้ง “คนของท่าน” เป็นเลขาธิการ ศอ.บต. เพราะ พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศอ.บต.คนใหม่ สนิทสนมใกล้ชิดกับ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แถมยังเป็นอดีตอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน หน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรมด้วย
ขณะที่ พ.ต.อ.ทวี ก็ให้สัมภาษณ์สนับสนุน แนะนำ พ.ต.ท.วรรณพงษ์ หรือ “เลขาฯบิลลี่” ออกสื่อหลายครั้ง
เรื่องนี้แม้จะไร้ปัญหาเรื่องตั้งคน เพราะตกลงกันได้ แต่รองนายกฯสมศักดิ์ คงไม่อยากขาลอย ล่าสุดจึงแต่งตั้ง พล.อ.ประชาพัฒน์ วัจนะรัตน์ เป็น “ที่ปรึกษาของรองนายกรัฐมนตรี” โดยลงนามในคำสั่งรองนายกรัฐมนตรีที่ 8/2566 ลงวันที่ 12 ต.ค.66 มีอำนาจหน้าที่ให้คำปรึกษาและเสนอแนะต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ในการบริหารราชการ และปฏิบัติหน้าที่ตามที่รองนายกรัฐมนตรีมอบหมาย
แม้คำสั่งจะไม่ได้ลงรายละเอียดว่า พล.อ.ประชาพัฒน์ จะรับผิดชอบงานด้านใด แต่ข่าววงในแย้มว่า รองนายกฯสมศักดิ์ ให้ช่วยดูแลงาน ศอ.บต. และ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ซึ่งถือว่าสำคัญไม่ใช่เล่น
งานนี้จึงน่าสนใจเป็นอย่างยิ่งว่า พล.อ.ประชาพัฒน์ เป็นใครมาจากไหนกันแน่
จากการตรวจสอบประวัติและเส้นทางชีวิตราชการของ พล.อ.ประชาพัฒน์ วัจนะรัตน์ หรือ “เจ้ากรมบอย” พบว่าปัจจุบันอายุ 61 ปี เป็นอดีตเจ้ากรมพระธรรมนูญ
ประวัติการศึกษา เป็นศิษย์เก่าสวนกุหลาบวิทยาลัย รุ่น 97 (OSK 97) ,จบปริญญาตรี นิติศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง รุ่นที่ 10 ปี 2527, ปริญญาโท นิติศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง รุ่นที่ 5 ปี 2548, ปริญญาโท ศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต (รัฐศาสตร์) สาขาบริหารงานยุติธรรม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และปริญญาเอก นิติศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (นิติศาสตร์) มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปี 2563
แม้จะไม่ได้จบนายร้อย จปร. แต่ก็ได้เข้ารับราชการทหาร เข้ามาทำงานสายงานกฎหมายในเหล่าทหารพระธรรมนูญ ตั้งแต่ระดับต้น กระทั่งเติบโตเรื่อยมา
1 ต.ค. 2561 - 30 ก.ย. 2562 ดำรงตำแหน่งหัวหน้าสำนักตุลาการทหารและตุลาการพระธรรมนูญ หัวหน้าศาลทหารสูงสุดสำนักตุลาการทหาร กรมพระธรรมนูญ มีตำแหน่งหน้าที่ดูแลศาลทหารทั่วราชอาณาจักร และกระบวนการยุติธรรมของทหารทั้งหมด
1 ต.ค. 2562 - 30 ก.ย. 2565 ดำรงตำแหน่งเจ้ากรมพระธรรมนูญ กรมพระธรรมนูญ
ส่วนประวัติการอบรมอื่นๆ เฉพาะที่สำคัญก็เช่น จบหลักสูตรชั้นต้น รุ่นที่ 15 โรงเรียนเหล่าทหารพระธรรมนูญ กรมพระธรรมนูญ, หลักสูตรเสนาธิการทหาร รุ่นที่ 48 วิทยาลัยเสนาธิการทหาร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ, หลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 59 วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ เป็นต้น
ต้องรอดูว่าเมื่อเริ่มทำงาน จะประสานงาน หรือประสานงา กับผู้รับผิดชอบในสายงานเดียวกัน?!?