พ่อสงสารลูกสาววัย 12 ปี เหยื่อโกดังพลุระเบิด ต้องสูญเสียดวงตา 1 ข้าง ด้านคดีข้าราชการเอี่ยว “ส่วยมูโนะ” ต้องสืบสวนทางลับ หลังบางหน่วยไม่ยอมให้ความร่วมมือ ขณะที่ศาลให้ประกันผู้รับเหมาต่อเติมโกดัง เหตุให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ไม่มีที่ท่าจะหลบหนี
ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับเหตุระเบิดโกดังเก็บพุลและดอกไม้ไฟ ชุมชนตลาดมูโนะ หมู่ 1 ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 29 ก.ค.66 ที่ผ่านมา จนทำให้มีมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ทรัพย์สินเสียหาย โดยเฉพาะบ้านเรือนและร้านรวงของประชาชน มูลค่ากว่าร้อยล้านบาทนั้น
ล่าสุดวันจันทร์ที่ 14 ส.ค.66 จากการตรวจสอบยังโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส พบว่า ผู้ป่วยจำนวน 10 ราย ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับไว้เป็นผู้ป่วยในพระบรมราชานุเคราะห์ ซึ่งแพทย์ได้ทำการรักษาหายเป็นปกติ ได้รับอนุญาตให้กลับไปรักษาตัวที่บ้านเกือบทั้งหมดแล้ว คงเหลือเพียง 1 ราย คือ ด.ญ.นูรูลกัสมี เจ๊ะอารง อายุ 12 ปี ซึ่งเป็นนักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนบ้านมูโนะ ได้รับบาดเจ็บจากเศษกระจกหน้าต่างกระเด็นใส่ดวงตาข้างซ้าย
แพทย์ได้แจ้งกับ นายแวอูเซ็ง เจ๊ะอารง บิดาที่เฝ้าดูแลอาการลูกสาวอย่างใกล้ชิดว่า ตามองไม่เห็น และเริ่มบอดแล้ว ต้องทำใจ โดยแพทย์ได้ให้ความช่วยเหลือเยียวยาอย่างสุดความสามารถ
นายแวอูเซ็ง บอกว่า ได้ปลอบใจลูกสาว แต่ในใจตนเองเจ็บปวดสุดแสนจะทน แต่ก็พูดอะไรไม่ได้
“ในวันเกิดเหตุ ผมกับลูกๆ และแฟนอยู่ในบ้านพร้อมกัน กำลังพักผ่อนอยู่ จนเวลาประมาณ 3 โมงกว่าๆ เกิดเหตุโกดังระเบิด ซึ่งอยู่ใกล้บ้าน ทำให้ฝาผนังถล่มลงมาทับผมกับลูก ผมได้ช่วยเหลือลูกออกมาได้ จากนั้นก็นำตัวส่งที่โรงพยาบาล หมอทำแผลแล้ว นำไปเอกซเรย์พบว่ามีอาการหนัก ทำให้ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลต่อ”
“ตอนนี้เหลือลูกสาวผมคนเดียวที่นอนรักษาที่โรงพยาบาล ส่วนผู้ป่วยคนอื่นออกจากโรงพยาบาลหมดแล้ว หมอวินิจฉัยว่าลูกของผมนั้นตาข้างหนึ่งบอด มองไม่เห็นแล้ว ผมไม่รู้จะทำอย่างไร ได้แต่ปลอบใจลูกว่า ไม่เป็นไร หมอจะรักษาให้ถึงที่สุด” แวอูเซ็ง กล่าวด้วยความสงสารลูกสาว
@@ แฉบางหน่วยไม่ร่วมมือทลาย “ส่วยดอกไม้ไฟ”
วันเดียวกัน พ.ต.อ.สุธน สุขวิเศษ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส (รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส) ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีโกดังพลุระเบิด เปิดเผยความคืบหน้าทางคดีว่า ล่าสุดผู้ได้รับความเสียหายได้ทยอยเดินทางเข้าให้ปากคำแล้ว เบื้องต้นมีจำนวนกว่า 600 ราย จากยอดผู้เสียหายเกือบ 2,000 คน แต่ให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเพียงประมาณ 30 คน ซึ่งส่วนใหญ่อาศัยอยู่ละแวกจุดที่ตั้งของโกดังเก็บดอกไม้ไฟระเบิด
ขณะที่แหล่งข่าวจากชุดสืบสวนให้ข้อมูลว่า ในส่วนของเจ้าหน้าที่ที่พัวพันกับการเรียกเก็บสินบนหรือ “ส่วยดอกไม้ไฟ” นั้น ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ขณะนี้มีการสอบสวนในทางลับเกี่ยวกับการเก็บผลประโยชน์ ซึ่งบางหน่วยงานไม่ให้ความร่วมมือ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องมีการทำหนังสือถึงต้นสังกัด เพื่อแจ้งให้รับทราบ และบุคคลที่ถูกพาดพิงอาจจะต้องมีการเดินทางเข้าให้ปากคำที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แทนการให้ปากคำในพื้นที่เกิดเหตุ
@@ ศาลให้ประกันตัวผู้รับเหมาต่อเติมโกดังพลุ
ขณะเดียวกันมีรายงานข่าวระบุว่า นายปฐมพร พรหมสกุล หรือ “ธรรม” ผู้รับเหมาที่นำช่างเข้าไปต่อเติมภายในโกดังเก็บดอกไม้ไฟ ก่อนเกิดระเบิด ซึ่งเป็นผู้ต้องหา 1 ใน 3 คนของคดีนี้ และทางพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัวในชั้นสอบสวน แต่นายปฐมพรได้ใช้หลักทรัพย์มูลค่า 500,000 บาท ขอประกันตัว โดยศาลจังหวัดนราธิวาสได้พิจารณาให้ประกันตัวออกมาเมื่อวันที่ 10 ส.ค. เนื่องจากหลังเกิดเหตุ นายปฐมพร ไม่ได้นิ่งเฉย มีการนำเงินไปมอบให้ครอบครัวผู้เสียชีวิต และให้ความร่วมมือกับพนักงานสอบสวนทุกครั้งในการเข้าให้ปากคำ และไม่มีท่าที่ว่าจะหลบหนี
ในเรื่องนี้ทางผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถามข้อเจ็จริงกับนายปฐมพร ปรากฏว่ายังติดต่อได้ แสดงว่าไม่ได้ถูกคุมตัวในเรือนจำ เมื่อทีมข่าวขอสัมภาษณ์ เจ้าตัวแจ้งว่า ช่วงนี้ยังไม่สะดวกจะเปิดเผยข้อเท็จจริงทั้งหมด
@@ สส.ภูมิใจไทยระดมบริจาคช่วยชาวมูโนะ
ด้านธารน้ำใจจากคนไทยทุกภาคส่วนที่หลั่งไหลถึงชาวมูโนะ ยังคงมีอย่างต่อเนื่องไม่สิ้นสุด
วันจันทร์ที่ 14 ส.ค. นายนัจมุดดีน อูมา อดีต สส.นราธิวาส 4 สมัย แม่ทัพหาเสียงของภูมิใจไทยในพื้นที่นราธิวาส พร้อมด้วย ดร.ซาการียา สะอิ สส.เขต 4 นราธิวาส พรรคภูมิใจไทย และ นายลุตฟี หะยีอีแต นำเงินบริจาคจาก สส.พรรคภูมิใจไทยภาคใต้ มอบผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยโกดังพลุระเบิดที่ตลาดมูโน๊ะ