ผุดไอเดียทำไอศกรีมทุเรียนมูซังคิง เอาใจ "ทุเรียนเลิฟเวอร์" เยือนเมืองเบตง ท้าให้ลิ้มลองสักครั้งจะติดใจ ชูรสชาติและกลิ่นเป็นเอกลักษณ์ แถมราคามิตรภาพ
“ทุเรียนมูซังคิง” เป็นทุเรียนสายพันธุ์พื้นเมืองของประเทศมาเลเซียที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นราชาแห่งทุเรียนมาเลเซีย มีรสชาติหวานหอมอร่อย ถ้าเป็นผลสุกคาต้นจะมีรสชาติอร่อยมากยิ่งขึ้น สำหรับในประเทศไทยปลูกกันมากในพื้นที่เนินเขาของ อ.เบตง จ.ยะลา ซึ่งช่วงนี้ถือว่าเป็นฤดูทุเรียน
เมื่อผลผลิตทุเรียนออกสู่ท้องตลาดเยอะในช่วงนี้ ทำให้พ่อค้าทุเรียนออนไลน์ในพื้นที่ อ.เบตง อย่าง เอกสิทธิ์ ธารีลาภรักษา หรือ “โกเอ็กซ์” ได้ผุดไอเดียเพิ่มช่องทางการตลาด นำทุเรียนสายพันธุ์มูซังคิง มารังสรรค์เป็น "ไอศกรีม โฮมเมด" ทุเรียนมูซังคิง เพื่อเสิร์ฟเป็นเมนูของหวานต้อนรับนักท่องเที่ยวและคนที่ชื่นชอบทุเรียน
โดยเหล่าบรรดาทุเรียนเลิฟเวอร์ สามารถเดินทางไปลิ้มลองความอร่อยของไอศกรีม โฮมเมด ทุเรียนมูซังคิง ที่ร้าน The Red House Betong
นายเอกสิทธิ์ เล่าว่า ช่วงฤดูผลไม้ ถือว่าเป็นช่วงไฮซีซั่นของ อ.เบตง ก็ว่าได้ เพราะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย สิงคโปร์ เดินทางมาทานผลไม้ในพื้นที่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะทุเรียนพื้นบ้าน อย่างทุเรียนมูซังคิง หรือ “เหมาซานหว่อง” แปลเป็นภาษาไทยก็คือ "ราชาแมวป่า" และทุเรียนโอวฉี่ ที่แปลเป็นภาษาไทยได้ว่า “ทุเรียนหนามดำ” ซึ่งเป็นทุเรียนสายพันธุ์ดั้งเดิมจากประเทศมาเลเซีย แต่ก็จะมีการปลูกอย่างแพร่หลายมากที่เบตงด้วย
แต่ด้วยสภาพดิน น้ำ และอากาศในพื้นที่ อ.เบตง ที่แตกต่างจากฝั่งมาเลย์ ทำให้ทุเรียนทั้งสองสายพันธุ์มีรสชาติที่อร่อยต่างออกไปจากต้นตำรับมาเลเซีย ซึ่งทุเรียนที่ปลูกในเบตงจะให้รสชาติหวานมัน และมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เนื้อเยอะเป็นที่โปรดปรานสำหรับนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเป็นอย่างมาก
นอกจากรสชาติความอร่อยแล้ว ราคาทุเรียนยังถูกกว่าประเทศบ้านเกิดเป็นเท่าตัว โดยปีนี้ราคาทุเรียนมูซังคิง เกรด A ทางร้านขายกิโลกรัมละ 550 บาท ส่วนทุเรียนโอวฉี่ เกรด A ขายกิโลกรัมละ 650 บาท นอกจากขายหน้าร้านแล้วยังส่งขายออนไลน์ทั่วประเทศด้วย
พ่อค้าทุเรียนรายเดิม บอกอีกว่า แนวคิดในการทำ "ไอศกรีม โฮมเมด ทุเรียนมูซังคิง" เริ่มจาก อ.เบตง ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวของ จ.ยะลา ในฐานะที่ตนคลุกคลีในวงการท่องเที่ยวเมืองเบตง หลังจากนักท่องเที่ยวกลับมาจากเที่ยวชมแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของเบตง ไม่ว่าจะเป็นบ่อน้ำร้อน อุโมงค์ปิยะมิตร สกายวอล์กทะเลหมอกอัยเยอร์เวง และทานอาหารขึ้นชื่อของเบตงอย่างเมนู ไก่สับเบตง เมนูปลานิลสายน้ำไหลแล้ว กิจกรรมในช่วงบ่ายจะขาดตอน จึงอยากจะเติมเต็มให้นักท่องเที่ยวมีความสุขในการเดินทางมาท่องเที่ยว ก็เลยคิดเมนูไอศกรีมทุเรียนมูซังคิงขึ้นมา เพราะสามารถเล่าเรื่องเมืองเบตงได้ถึงความอุดมสมบูรณ์ของเบตง ทั้งทุเรียนมูซังคิงเองก็เป็นทุเรียนสายพันธุ์ที่ชาวมาเลเซียชอบและรู้จักกันดีอยู่แล้ว
เมนูไอศกรีมทุเรียนมูซังคิง กรรมวิธีการทำก็จะใช้เนื้อทุเรียนมูซังคิงล้วนๆ 100 % ผสมกับน้ำและเนื้อมะพร้าวน้ำหอม เมื่อ 2 อย่างมาผสมกันก็จะได้ "ไอศกรีมโฮมเมด ทุเรียนมูซังคิง" ที่ไม่มีการแต่งรส แต่งกลิ่น ซึ่งตนเองพยายามนำเสนอของกินที่อร่อย มีคุณภาพเพื่อให้นักท่องเที่ยวประทับใจและกลับมาเที่ยวเมืองเบตงอีกครั้ง
ส่วนราคาของไอศกรีม แบบกระปุก ขนาด 100 กรัม กระปุกละ 50 บาท หากจะทานที่ร้านก็จะตักเสิร์ฟเป็นถ้วย ราคา 59 บาท หากทานคู่กับข้าวเหนียวมูล ถ้วยละ 79 บาท ถ้าเป็นไอศกรีมพร้อมข้าวเหนียวมูลและเพิ่มเค้กทุเรียนด้วยก็จะอยู่ที่ถ้วยละ 129 บาท ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่บอกว่าอร่อยมาก เหมือนได้กินทุเรียนแช่เย็น
สำหรับผู้ที่อยากมาลิ้มลอง "ไอศครีม โฮมเมด ทุเรียนมูซังคิง" ไปหาทดลองลิ้มชิมรสได้ที่ร้าน The Red House Betong ซึ่งร้านก็หาไม่ยากเลย อยู่ใจกลางเมือง ใกล้หอนาฬิกาเมืองเบตง ทางไปศาลจังหวัดเบตง อาคารสีแดง มองเห็นได้อย่างชัดเจน
นอกจากจะมีไอศกรีมทุเรียนมูซังคิงแล้ว The Red House Betong ยังเป็นศูนย์รวมของอาหารรสชาติเบตง จากร้านอาหารต่างๆ ที่ขึ้นชื่อในเมืองเบตง ที่นำมาต้อนรับลูกค้าโดยไม่ต้องไปตระเวนตามร้านต่างๆให้เมื่อย ทางร้านพร้อมจัดเสิร์ฟความอร่อยให้รวมอยู่ในโต๊ะเดียวตามความต้องการของลูกค้า
ทั้งยังเปิดเป็นจุดประสานรถรับจ้างให้นักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในเบตง รวมไปถึงยังมีบริการห้องพักไว้รับรองนักท่องเที่ยวในรูปแบบครอบครัวและกลุ่มเพื่อนอีกด้วย