ศาลนราธิวาสสั่งจำคุกภรรยากับแม่ “ยาห์รี ดือเลาะ” คนละ 1 เดือน ปรับอีกคนละ 5,000 บาท ฐานขัดขวางขุดศพตรวจพิสูจน์ใหม่ หลังทางการพบหลักฐาน ศพปริศนาในแม่น้ำโก-ลกไม่ใช่ “ยาห์รี” แต่ศาลยังปราณี โทษจำคุกให้รอลงอาญา ด้าน จนท.เตรียมดำเนินการขุดศพพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล
ศาลจังหวัดนราธิวาสมีคำพิพากษาคดีอาญาที่ 28/2566 จากกรณีเมื่อวันที่ 10 ธ.ค.65 เจ้าหน้าที่ ตำรวจ สภ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส และหน่วยที่ที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการขุดศพชายนิรนาม เพื่อตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคล หรือ DNA ว่าใช่ศพของ นายยาห์รี ดือเลาะ อายุ 42 ปี ภูมิลำเนาหมู่ 5 ต.ริโก๋ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรง มีหมายจับในคดีความมั่นคง
สาเหตุของการต้องขุดศพขึ้นมาตรวจสอบใหม่ เพราะก่อนหน้านั้น น.ส.นูรไฮนิง ดือรอแม ภรรยาของนายยาห์รี ได้อ้างกรรมสิทธิ์ศพชายนิรนามที่ลอยอยู่ในแม่น้ำสุไหงโก-ลก เมื่อวันที่ 29 ก.ย.65 โดยอ้างว่าเป็นนายยาห์รี และรับศพไปประกอบพิธีฝังตามหลักอิสลาม
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่พบว่า ผลการตรวจลายนิ้วมือของศพดังกล่าวไม่ตรงกับลายนิ้วมือของนายยาห์รี ดือเลาะ ที่มีข้อมูลอยู่ในกองทะเบียนประวัติอาชญากร และศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 ทำให้ในวันที่ 10 ธ.ค.65 เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตามกฎหมาย นำกำลังพร้อมแพทย์นิติเวชเข้าไปทำการขุดศพชายปริศนาขึ้นมาพิสูจน์ ที่กุโบร์ปาฮงกือปัส อ.สุไหงปาดี แต่ถูกภรรยาและญาติของนายยาห์รีคัดค้าน ขัดขวาง ไม่ยินยอมให้ขุดศพ ทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้น จนเจ้าหน้าที่ต้องถอนกำลัง
วันที่ 16 มี.ค.66 พนักงานสอบสวน ภ.สุไหงปาดี จึงออกหมายเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้อง 6 คน ในเหตุการณ์ขัดขวางการขุดศพมาสอบสวน และวันที่ 1 มิ.ย.66 จึงมีการฟ้องศาลดำเนินคดี จำนวน 2 คน คือ น.ส.นูรไฮนิง ดือรอแม อายุ 42 ปี ภรรยาของนายยาห์รี และ นางต่วนเมาะ ต่วนดือเซ็ะ อายุ 67 ปี มารดาของนายยาห์รี
ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 ก.ค.66 ศาลจังหวัดนราธิวาสได้อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขแดง 897/2566 คดีหมายเลขดำ อ.753/2566 กรณีขัดขวางการขุดศพชายนิรนาม โดยผลของคดี จำเลยทั้ง 2 คือ น.ส.นูรไฮนิง ดือรอแม และ นางต่วนเมาะ ต่วนดือเซ็ะ รับสารภาพ ลงโทษจำคุกคนละ 1 เดือน ปรับคนละ 5,000 บาท โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญาเป็นเวลา 1 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ภายหลังศาลได้ตัดสินคดีการขัดขวางการขุดศพชายนิรนาม คาดว่าในห้วงต่อไปเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะขุดศพชายปริศนาขึ้นมาพิสูจน์ทราบอัตลักษณ์บุคคลว่าเป็นใครกันแน่ เพื่อแจ้งให้ครอบครัวของศพปริศนามารับไปดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป โดยที่ผ่านมามีครอบครัวคนสูญหาย มาแจ้งความเอาไว้จำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ก็จะนำหลักฐานจากศพมาตรวจเทียบ หากตรงกันก็จะส่งศพให้ญาติต่อไป
สำหรับประวัติของ นายยาห์รี ดือเลาะ เป็นบุคคลตามหมายจับในคดีความมั่นคง 3 หมาย คือ คดีวางเพลิงและปล้นรถยนต์แล้วหลบหนี เมื่อวันที่ 25 ก.พ.60 เหตุเกิดที่ อบต.โฆษิต อ.ตากใบ จ.นราธิวาส, คดียิงคนหาของป่าได้รับบาดเจ็บ 2 ราย เมื่อวันที่ 3 ส.ค.60 ที่ ต.ริโก๋ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส และคดียิงตำรวจเสียชีวิต เมื่อวันที่ 4 เม.ย.61 ที่ ต.สากอ อ.สุไหงปาดี แต่ในคดีสุดท้ายมีการถอนหมายจับ
หลังจากตกเป็นผู้ต้องหาในคดีความมั่นคงหลายคดี ปรากฏว่า นายยาห์รี ได้หลบหนีเข้าไปพำนักในประเทศมาเลเซีย จนมีการพบศพชายนิรนามที่ญาติอ้างว่าเป็นศพนายยาห์รี ซึ่งก่อนหน้าที่จะมีการพบศพดังกล่าว มีรายงานว่า นายยาห์รี ที่ทำงานอยู่ฝั่งมาเลเซียได้หายตัวไป ไม่มีใครติดต่อได้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่มีการพบศพนิรนาม จึงมีการสร้างข่าวปลุกระดมว่าเจ้าหน้าที่รัฐไทยข้ามไปอุ้มผู้ต้องสงสัยคดีความมั่นคงถึงในฝั่งมาเลเซีย
โดยอ้างว่า นายยาห์รี ถูกชายฉกรรจ์ที่สงสัยเป็นเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบของไทยดักอุ้มตัวหายไป ก่อนพบเป็นศพในแม่น้ำสุไหงโก-ลก ทั้งๆ ที่ข้อเท็จจริงคลาดเคลื่อนจากข่าวที่ออกมาอย่างสิ้นเชิง
อนึ่ง กลุ่มบุคคลที่สร้างข่าวนี้ ส่วนหนึ่งเป็นกลุ่มคนที่ทำงานให้พรรคการเมืองพรรคหนึ่งในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีการพยายามส่งต่อข้อมูลในแอปพลิเคชั่นไลน์ของคนในพื้นที่ และส่งข่าวให้สื่อกระแสหลักนำไปเสนอต่อ เพื่อโจมตีดิสเครดิตเจ้าหน้าที่ไทย
ทั้งๆ ที่กองทัพภาคที่ 4 หน่วยข่าวและฝ่ายความมั่นคงต่างออกมาประสานเสียงว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่เป็นความจริง และเป็นไปไม่ได้ที่กองกำลังฝ่ายไทยจะเข้าไปปฏิบัติการใดๆ ในประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะปฏิบัติการที่มิชอบด้วยกฎหมาย
แต่ขบวนการสร้างข่าวก็ยังไม่หยุด และสร้างข่าวต่อเนื่องในช่วงที่เจ้าหน้าที่ไปขอขุดศพชายปริศนาที่อ้างว่าเป็นนายยาห์รี จนมีการขัดขวาง และเป็นข่าวเกรียวกราวในพื้นที่