ตำรวจยะลายันคลิปสาวใหญ่บุกโรงพักโวยถูกล็อกล้อ แถมต่อว่าจราจรแบบสาดเสียเทเสียเป็นเรื่องจริง แถมตรวจสอบในระบบ พบรถป้ายทะเบียนนี้ค้างชำระค่าปรับตามใบสั่ง 101 ใบ ที่แท้เป็นเจ้าหน้าที่หญิง ศอ.บต. สังกัดสถาบันพัฒนาเจ้าหน้าที่ของรัฐฝ่ายพลเรือน ผู้บังคับบัญชาทราบเรื่องแล้ว ชาวบ้านวอนตั้งกรรมการตรวจสอบพฤติกรรม
จากกรณีมีการแชร์คลิปภาพสาวใหญ่ สวมเสื้อสีน้ำเงิน คล้ายชุดออกกำลังกาย มีปากเสียงกับตำรวจจราจรในห้องทำงาน ต้นเหตุเกิดจากตนเองจอดรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร ป้ายทะเบียนกรุงเทพฯ ใกล้ทางเลี้ยวเข้าซอย ถนนนวลสกุล 1 ในเขตอำเภอเมืองยะลา จนถูกล็อกล้อ เพื่อชำระค่าปรับ
แต่สาวใหญ่รายนี้แสดงอาการไม่พอใจ ทั้งยังต่อว่าและตำหนิการทำงานของตำรวจว่าทำไมถึงต้องล็อกล้อ แค่เขียนใบสั่งแปะไว้หน้ารถก็พอแล้ว ซ้ำยังยกตัวอย่างรถที่จอดใกล้ๆ กันว่าทำไมไม่ถูกล็อกล้อบ้าง แถมยังอ้างว่าตนทำงานอยู่ในหน่วยราชการแห่งหนึ่งใกล้เคียงกับจุดที่นำรถไปจอดนั้น
เมื่อคลิปนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ปรากฏว่ามีกระแสวิจารณ์อย่างกว้างขวาง และมีการปล่อยคลิปเพิ่มออกมา เป็นคำชี้แจงของฝ่ายตำรวจจราจรที่บอกว่า เหตุที่ต้องล็อกล้อ เพราะมีประชาชนร้องเรียนผ่านสายด่วน 191 แต่สาวใหญ่กลับโต้ทันควันว่า “พี่ไม่สนว่าจอดแบบไหน พี่ก็จบกฎหมายมา ยังติดใจว่าทำไมมีคันอื่นที่จอดใกล้กันแต่ไม่จับ” และยังพูดต่อว่า “ไม่เป็นไร ใบสั่งแค่นี้ฉันไปจ่ายเงินได้ กระจอก เป็นตำรวจทำงานภาษาบ้าอะไร” จากนั้นก็ตำหนิการทำงานของตำรวจอีกยืดยาว
“ทีมข่าวอิศรา” เดินทางไปตรวจสอบเรื่องนี้ที่ สภ.เมืองยะลา และได้พบกับตำรวจจราจรที่ปรากฏภาพอยู่ในคลิป ได้รับการยืนยันว่า เหตุการณ์ในคลิปเกิดขึ้นจริง ต้นสายปลายเหตุเกิดจากเมื่อวันที่ 22 พ.ค.66 เวลาประมาณ 11.25 น. ได้รับแจ้งจากวิทยุ สภ.เมืองยะลา ว่า ประชาชนชนร้องเรียนมีรถจอดกีดขวางทางเข้าออก ถนนนวลสกุล 1 ผู้รับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ พบรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร สีเทา ติดแผ่นป้ายทะเบียนกรุงเทพมหานคร จอดกีดขวางทางเข้าออกอยู่จริง ไม่สามารถหาผู้ครอบครองรถได้ จึงได้ดำเนินการบังคับใช้กฎหมาย และเขียนใบสั่ง พร้อมล็อกล้อ
ต่อมาเวลาประมาณ 16.30 น. มีผู้หญิงวัยกลางคนเดินทางมาที่ห้องงานจราจร สภ.เมืองยะลา และแสดงตัวว่าเป็นผู้ครอบครองรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร สีเทา ที่ถูกล็อกล้อ จากนั้นก็โวยวายว่า "ฉันจะมาดูว่าอีตัวไหนมันล็อกล้อฉัน” พร้อมพูดจากในลักษณะข่มเหงดูหมิ่นตนต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจนายอื่น เหตุการณ์เป็นไปตามที่ปรากฏในคลิปวีดีโอ ทำให้ตนได้รับความเสียหาย หลังเกิดเหตุจึงได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับหญิงวัยกลางคนรายนี้
ต่อมาวันที่ 23 พ.ค. ผู้บังคับบัญชาของตนทราบเรื่อง และแนะนำให้แจ้งความเอาผิดกับหญิงวัยกลางคนในข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงาน เมื่อตรวจสอบเพิ่มเติมในระบบใบสั่งจราจร พบว่า รถยนต์ป้ายทะเบียนนี้ ค้างจ่ายใบสั่งจราจรถึง 101 ใบ แต่กรณีถูกล็อกล้อล่าสุด จ่ายค่าปรับเรียบร้อยแล้ว
ตำรวจจราจร สภ.เมืองยะลา บอกต่อว่า เมื่อหญิงวัยกลางคนทราบเรื่อง จึงเดินทางมาแจ้งความตนในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมอ้างหลักฐานว่ามีรถยนต์อีกคันจอดใกล้ๆ กัน แต่ตำรวจกลับไม่ล็อกล้อ จึงถือว่าละเลย แต่ตนก็ยืนยันว่ามีภาพถ่ายขณะเข้าติดตั้งเครื่องบังคับล้อว่า ในช่วงที่ตนเข้าไปบังคับใช้กฎหมายนั้น ไม่มีรถคันอื่นจอดอยู่ใกล้ๆ กันเลย และตนก็ไม่ได้เฝ้าจุดนั้นตลอด 24 ชั่วโมง เพราะมีงานอื่นต้องทำ จึงไม่ทราบว่าภาพที่หญิงวัยกลางคนนำมาแสดง เป็นภาพวันไหน เมื่อใดกันแน่
ตำรวจจราจรซึ่งจู่ๆ ก็งานเข้า บอกด้วยว่า หลังจากนี้คงปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย เพราะตนก็แจ้งความหญิงวัยกลางคนไป ส่วนอีกฝ่ายก็แจ้งความกลับตนเช่นกัน
ทีมข่าวได้ตรวจสอบไปยังผู้บริหารในศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. ซึ่งเป็นหน่วยราชการที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ ได้รับข้อมูลว่า หญิงวัยกลางคนในคลิป เป็นเจ้าหน้าที่ ศอ.บต. ปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่สถาบันพัฒนาเจ้าหน้าที่ของรัฐฝ่ายพลเรือน
เบื้องต้นผู้บริหาร ศอ.บต.ทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว และได้ติดต่อประสานงานกับผู้กำกับการ สภ.เมืองยะลา เพื่อตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริง เพื่อประกอบการพิจารณาต่อไป
จากการสอบถามชาวบ้านในละแวกจุดเกิดเหตุ ได้ความว่า ปกติถ้าตำรวจล็อกล้อประชาชนทั่วไปก็จะไม่มีปัญหาอะไร แต่กรณีนี้เป็นข้าราชการ เป็นเจ้าหน้าที่ ศอ.บต. จึงแสดงท่าทีแบบนี้ได้ ทราบว่าหญิงคนนี้มีสามีเป็นทหาร ทำงานใน กอ.รมน.ภาค 4 ด้วย ขอเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งกรรมการสอบพฤติกรรมโดยด่วน