“โรม-ไอติม” ลุยชายแดนใต้ช่วยลูกพรรคก้าวไกลหาเสียงโค้งสุดท้าย ตั้งใจปักธงปลดล็อกกฎหมายพิเศษที่อุปสรรคต่อการพัฒนา ด้าน “นัจมุดดีน ภูมิใจไทย” เผยกระแสตอบรับดี มั่นใจล้มช้างเขต 1 นราธิวาส ส่วนพรรคเป็นธรรมโผล่ชูป้ายนโยบาย “พาทหารกลับบ้าน” หน้าค่ายอิงคยุทธฯ ปัตตานี “ทวี-วันนอร์” ปราศรัยมาราธอนขอแลนด์สไลด์
วันเสาร์ที่ 6 พ.ค.66 นายรังสิมันต์ โรม อดีต ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พร้อมด้วยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของพรรค ลงพื้นที่ อ.เมือง จ.นราธิวาส เพื่อช่วยหาเสียงให้กับ น.ส.อามีเน๊าะ อารง ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 นราธิวาส เบอร์ 5 โดยได้ขึ้นรถหาเสียงประชาสัมพันธ์เพื่อขอคะแนนกับพี่น้องประชาชน ตลอดจนนักศึกษา และเยาวชนคนรุ่นใหม่
ขบวนรถแห่เริ่มต้นจากบริเวณเขื่อนท่าพระยาไปตามถนนสายต่างๆ ภายในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส หลังจากนั้นได้เคลื่อนรถปราศรัยไปยังหาดนราทัศน์ พร้อมปราศรัยและแนะนำตัวผู้สมัคร โดยมีประชาชนให้ความสนใจจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นเยาวชน
การปราศรัยได้พยายามชูนโยบายหลักของพรรค คือการปฏิรูปกองทัพและยกเลิกการบังคับเกณฑ์ทหาร โดยเปลี่ยนมาเป็นระบบสมัครใจ ซึ่งวิธีนี้จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของทหารชั้นผู้น้อย และสามารถทำให้การสมัครเป็นทหารเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่น่าสนใจ
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า โค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง เราจะโหนกระแสเพื่อให้พรรคก้าวไกลบรรลุเป้าหมาย ส่งให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อเปลี่ยนแปลงไม่ใช่แค่รัฐบาล เราจะเปลี่ยนประเทศไทย เราจะให้สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่เหมือนเดิม
“ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เราทราบดีว่าไม่ใช่การต่อสู้ที่ง่าย เพื่อนของเราที่ร่วมเป็นฝ่ายค้านกันมาอย่างพรรคประชาชาติก็มีพลังพอสมควร แต่เราจะสู้เต็มที่ในโค้งสุดท้าย เราตั้งใจจะปักธงให้ใด้ เพื่อที่จะสร้างฐานที่สำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงสามจังหวัดชายแดนภาคใต้”
“เราอยากเห็นสามจังหวัดชายแดนภาคใต้กลับมามีสันติภาพ ซึ่งต้องปลดล็อกกฎหมายที่เป็นเงี่อนไข เช่น กฎอัยการศึก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ร.บ.ความมั่นคง รวมไปถึงด่านต่างๆ ที่มีอยู่เยอะไปหมด มันเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาและการท่องเที่ยวของเมืองชายแดนที่ติดกับประเทศมาเลเซียซึ่งมีกำลังซื้อสูง มันเป็นโอกาสที่เราสามารถทำให้นราธิวาสเปลี่ยนแปลง” นายรังสิมันต์ กล่าว
@@ ภูมิใจไทยสุดมั่น ล้มช้างเขต 1 นราฯ
วันเดียวกัน นายนัจมุดดีน อูมา ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย เบอร์ 7 ได้นำ นายลุตฟี หะยีอีแต ผู้สมัคร ส.ส.เบอร์ 7 เขต 1 นราธิวาส (อ.เมือง และ อ.ยี่งอ) ซึ้งเป็นอดีตนายกเทศมนตรีตำบลบาเจาะ อ.บาเจาะ ลงพื้นที่พร้อมลูกทีม เปิดปราศรัยย่อยภายในห้องประชุมด้านหลังของมัสยิดกลางประจำจังหวัดนราธิวาส
พรรคภูมิใจไทยปราศรัยย่อยตรงจุดนี้ต่อเนื่อง 4 วัน โดยวันที่ 6 พ.ค.เป็นวันสุดท้าย เป้าหมายคือชาวบ้านที่อาศัยในชุมชนโต๊ะกอดอและชุมชนกำปงบารู วันละ 700 คน โดยมีชาวบ้านที่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าวเข้าร่วมรับฟังด้วยความสนใจ โดยนายลุตฟี ได้ขอโอกาสเป็นตัวแทนของประชาชนชาวนราธิวาส เขต 1 เพื่อจะได้เป็นกระบอกเสียงในการนำปัญหาในพื้นที่เข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร โดยย้ำว่าขอเป็นมิติใหม่ของการเปลี่ยนแปลงนราธิวาสบ้านเรา
“ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ อ.เมือง หรือ อ.ยี่งอ พี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ทำอาชีพเกษตรกรรม เขาอยากให้เราแก้ปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตร ซึ่งนโยบายของพรรคภูมิใจไทยก็มีการประกันราคาในส่วนนี้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นมันสำปะหลัง ยางพารา และพืชเศรษฐกิจอีกหลายๆ ตัว โดยพรรคภูมิใจไทยพูดแล้วทำจริงๆ มั่นใจว่าจะได้รับความไว้วางใจจากประชาชน และเชื่อว่าชาวนราธิวาสทุกคนอยากเห็นการเปลี่ยนแปลง เพื่อการพัฒนาจังหวัดนราธิวาสให้ดีขึ้น" นายลุตฟี กล่าว
ด้าน นายนัจมุดดีน กล่าวว่า เสียงตอบรับจากประชาชนต่อภูมิใจไทยดีทุกเขต แต่เป็นไปไม่ได้ที่เราจะชนะทุกเขตใน จ.นราธิวาส เราขอให้ได้ 2 ที่นั่งก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว โดยเฉพาะในเขตที่ 1 ที่เป็นเขตของผู้สมัครบ้านใหญ่ เราหวังที่จะล้มช้างเพื่อปักธงในเขตนี้ให้ได้
@@ “พรรคเป็นธรรม” โผล่ชูป้ายพาทหารกลับบ้าน
ช่วงเย็นวันเดียวกัน พรรคเป็นธรรม นำโดย นายกัณวีร์ สืบแสง เลขาธิการพรรค พร้อมด้วย ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และผู้สนับสนุน เดินทางโดยรถกระบะติดเครื่องขยายเสียงไปยังบริเวณหน้าค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เพื่อทำกิจกรรมพิเศษเกี่ยวกับนโยบาย “พาทหารกลับบ้าน” ของพรรคเป็นธรรม โดยมีการนำผู้ร่วมกิจกรรมถือป้ายที่มีข้อความว่า พาทหารกลับบ้าน, ยุบ กอ.รมน., ยกเลิกกฎหมายพิเศษ บริเวณหน้าป้ายค่ายอิงคยุทธบริหาร
นายกัณวีร์ กล่าวว่า วันนี้เป็นภารกิจพิเศษในการที่จะมาชูนโยบายของเราในเรื่องเกี่ยวกับกระบวนการสันติภาพ ตัวนโยบายของการสร้างสันติภาพของพรรคเป็นธรรม จะมีตัวชี้วัดตัวหนึ่ง คือ นโยบายพาทหารกลับบ้าน การพาทหารกลับบ้านได้เป็นตัวชี้วัดความสำเร็จของการสร้างสันติภาพที่เกิดขึ้นในปาตานีของเรา เมื่อใดก็ตามพี่น้องทหารได้กลับไปอยู่ในกรมกอง อยู่ในพื้นที่ที่จะต้องปฏิบัติหน้าที่จริงๆ ในการรักษาอธิปไตยของประเทศไทย วันนั้นพี่น้องทหารจะได้กลับบ้าน
กระบวนการไม่ใช่อยู่ดีๆ เราจะยกเลิกกฎหมายพิเศษ ไม่ใช่อยู่ดีๆ เราจะพาพี่น้องทหารกลับบ้าน มันจะเป็นกระบวนการที่เราจะต้องสร้างไปพร้อมๆ กัน คือ 1.ต้องเป็นวาระแห่งชาติ ต้องเข้าไปสู่กรอบรัฐสภาให้ได้ แล้วก็ต้องมี พ.ร.บ.ต่างๆ มารองรับกระบวนการสร้างสันติภาพนี้ 2.ต้องมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกอย่างชัดเจน 3.ต้องมีการปฏิรูประบบราชการ ไม่ว่าจะเรื่องการ ยุบ กอ.รมน. ยุบ ศอ.บต. เพราะว่าโครงสร้างที่ซับซ้อนของทางราชการมันทำให้การบริหารจัดการในการสร้างสันติภาพมันไม่เกิดขึ้น
เพราะฉะนั้น ถ้าพี่น้องทหารกลับบ้านเมื่อไหร่ ถนนนี้ปราศจากด่านตรวจเมื่อไหร่ อันนั้นจะเป็นการที่เราบอกว่าสันติภาพได้เกิดขึ้นจริงๆ แล้ว
@@ ประชาชาติปราศรัยมาราธอน ขอแลนด์สไลด์
การหาเสียงแบบมาราธอนของพรรคประชาชาติ เปิดเวทีทุกวันช่วง 10 วันสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง วันละ 1-2 เวทีทั่วทุกเขตของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยนัดปราศรัยตั้งแต่ 2 ทุ่มถึงเที่ยงคืนทุกวันนั้น ดำเนินไปอย่างคึกคักอย่างยิ่ง
วันเสาร์ที่ 6 พ.ค.66 ซึ่งนับเป็นวันที่ 3 ของการหาเสียงแบบมาราธอน ปรากฏว่าพรรคประชาชาติโดยขุนพลชุดเดิม นำโดย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรค และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรค เปิดเวทีใหญ่ 2 จุด บริเวณ อาเซียนมอลล์ ปัตตานี ติดกับศูนย์อำนวยการเลือกตั้งเขต 1 ของประชาธิปัตย์ เพื่อช่วยหาเสียงให้กับ ผศ.ดร.วรวิทย์ บารู ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 ปัตตานี และจุดที่ 2 บริเวณสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี เพื่อหาเสียงให้กับ นายมูฮำมัดอารีฟีน จะปะกิยา ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 อ.โคกโพธิ์ หนองจิก โดยมีประชาชนมาร่วมรับฟังทั้ง 2 เวทีกว่า 1 หมื่นคน
การปราศรัยในวันที่ 3 พรรคประชาชาติได้นำ “โพลเนชั่น” มาประกาศบนเวที โดยบอกว่า “เนชั่นโพล” สำรวจมาแล้ว พรรคประชาชาติคะแนนนำ 12 เขต จาก 13 เขตของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ มั่นใจว่าเวลาที่เหลือจะสามารถทำให้ ประชาชนเลือก ส.ส.ของพรรคครบทั้ง 13 เขตแบบแลนด์สไลด์
พ.ต.อ.ทวี ปราศรัยตอนหนึ่งว่า ปี 66 ปัตตานีเป็นจังหวัดที่ยากจนที่สุด หลังจากวันที่ 14 พ.ค.นี้ พรรคประชาชาติจะทำให้ปัตตานีร่ำรวยที่สุด
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันศุกร์ที่ 5 พ.ค. พรรคประชาชาติเปิดเวทีที่สนามหน้าที่ว่าการอำเภอสายบุรี จ.ปัตตานี เพื่อหาเสียงช่วย ว่าที่ ร้อยตรี โมฮามัดยาสรี ยูซง ผู้สมัครเขต 4 เบอร์ 7 ของพรรค โดยเขต 4 ประกอบด้วย อ.สายบุรี ไม้แก่น กะพ้อ และ อ.ปะนาเระ ท่ามกลางประชาชนมารอฟังรอเชียร์กว่าครึ่งหมื่น
นายวันมูหะมัดนอร์ และ พ.ต.อ.ทวี ได้ขึ้นปราศรัยตอกย้ำนโยบายสวัสดิการถ้วนหน้า ตั้งแต่ครรภ์มารดา ถึงกุโบร์ หรือสุสาน พร้อมยืนยันต่อหน้าประชาชนว่าหลังเลือกตั้ง ร่วมรัฐบาลแน่ 100 เปอร์เซ็นต์ เพื่อประชาชนชาวมลายูปาตานี