“นายกฯประยุทธ์” เปิดปราศรัยกลางเมืองหาดใหญ่ อ้อนคนสงขลาเรียก "พี่ตู่” เหตุยังไม่แก่ ทำงานเพื่อคนไทยได้ต่อไป ส่วน “บิ๊กป้อม” นำลูกพรรคพลังประชารัฐปราศรัยใหญ่ก่อนหน้า 2 วัน ชูลดค่าไฟ แก๊ส น้ำมันทันทีที่เป็นรัฐบาล ขณะที่ประชาชาติหวัง ส.ส.เกิน 10 ที่นั่ง เพื่อร่วมรัฐบาลสมศักดิ์ศรี “ทวี” มั่นใจนโยบายพรรคดีที่สุด เอื้อประโยชน์ลูกหลาน ด้านผู้สมัคร ส.ส.รวมไทยสร้างชาติ เขต 3 ยะลา ล้มป่วย
หลายพรรคการเมืองจัดกิจกรรมในภาคใต้ตอนล่างช่วงหยุดยาว 3 วันปลายเดือน เม.ย.ต่อเนื่องวันแรงงานแห่งชาติ
โดยวันอาทิตย์ที่ 30 เม.ย.66 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค นายอนุชา บูรพชัยศรี รองหัวหน้าพรรค ดร.ธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรค นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร รองหัวหน้าพรรค รวมถึงผู้บริหารพรรคคณะใหญ่ ลงพื้นที่ จ.สงขลา เพื่อหาเสียงช่วยผู้สมัคร ส.ส.สงขลา ของพรรครวมไทยสร้างชาติ
ในช่วงเช้า พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมคณะขึ้นรถแห่หาเสียงจากตลาดทรัพย์สิน วิ่งไปรอบเทศบาลนครสงขลา ขอคะแนนเสียงจากประชาชนให้กับ นายเจือ ราชสีห์ ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา เขต 1 เบอร์ 1 และขอเสียงสนับสนุนเลือกเบอร์ 22 หมายเลขพรรค โดยมีชาวบ้านมายืนรอโบกไม้โบกมือมอบดอกไม้ต้อนรับจำนวนมาก
จากนั้นเดินทางไปยังโรงเรียนบ้านเขาพระ ต.เขาพระ อ.รัตภูมิ เพื่อหาเสียงให้กับ นายปรีชา สุขเกษม ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา เขต 5 เบอร์ 7 พรรครวมไทยสร้างชาติ และยังได้เดินทางไปยังวัดโคกเรียง อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา เพื่อหาเสียงให้กับ นายภูวดล วงษ์โสภณากุล ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา เขต 6 เบอร์ 6 แล้วจึงเดินทางต่อไปยังบริเวณแยกสะพานดำ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ของพรรครวมไทยสร้างชาติ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จังหวัดสงขลาจะต้องทำสิ่งที่เป็นการพัฒนาเพิ่มขึ้นอีกมาก ที่ผ่านมาการช่วยเหลือน้ำท่วม ก็เร่งดำเนินการให้ และยังมีอีกหลายเรื่องที่เป็นปัญหา ดังนั้นต้องเอาคนที่เคยทำมาแล้ว มาทำต่อ ถึงจะรู้เรื่อง ขอบคุณทุกคนที่มาให้กำลังใจ คนไทยหัวใจเดียวกัน ทำเพื่อประเทศชาติ นั่นคือเหตุผลที่ตนต้องอยู่ต่อ
"ถึงผมจะเป็นลุงตู่ แต่ใจยังเป็นพี่ตู่เสมอ เพราะยังไม่แก่ ยังทำงานให้กับทุกคนได้ ลุงตู่ถูกเรียกมาตั้งนานแล้ว แต่ความจริงเป็นพี่ตู่ เพราะยังมีจิตใจที่เข้มแข็ง พี่ตู่ยังแข็งแรงดีอยู่ทุกประการ จะแก่ได้อย่างไร ยังทำงานได้อยู่ ผมขอขอบคุณชาวสงขลาทุกคนทุกพื้นที่ที่ต้อนรับพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นอย่างดี การเลือกตั้งดูให้ดี ขอให้เลือกทั้ง 2 เบอร์ คือเบอร์ผู้สมัครและเบอร์ 22 เบอร์ของพรรค ช่วยเลือกพี่ตู่หน่อย ชักจะติดใจขอเรียกพี่ตลอดแล้ว" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว เรียกเสียงเฮให้บรรดาแฟนคลับที่ไปฟังการปราศรัย
@@ “ลุงป้อม” เปิดเวทีตัดหน้า ชูลดค่าไฟ ค่าแก๊ส น้ำมัน
ก่อนหน้านั้น 2 วัน คือเมื่อที่ 28 เม.ย.66 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมแกนนำพรรค ประกอบด้วย นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรค ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคเหนือ นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค ดร.คณิศ แสงสุพรรณ ทีมนโยบายพรรค นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และแกนนำภาคใต้ เดินทางไปที่ จ.สงขลา เพื่อเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติสงขลา
โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยประชาชนในจังหวัดและพื้นที่ข้างเคียงเข้าร่วมรับฟังนโยบายเต็มพื้นที่กว่า 8,000 คน เต็มความจุของศูนย์ประชุม เพราะถือเป็นการปราศรัยใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้ครั้งแรกของพลังประชารัฐ มีประชาชนโบกธงให้กำลังใจ พร้อมประสานเสียงโห่ร้องเชียร์เบอร์ 37 ซึ่งเป็นหมายเลขของพรคอย่างต่อเนื่อง
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ พลังประชารัฐได้นำเสนอนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากมาย ทั้งบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่เพิ่มเป็น 700 บาทต่อเดือน ลดราคาน้ำมัน ราคาแก๊ส และค่าไฟฟ้าลงในทันทีที่เข้ามาเป็นรัฐบาล โดยจะลดราคาน้ำมันเบนซินลง 18 บาทต่อลิตร น้ำมันดีเซลลด 6.30 บาทต่อลิตร รวมทั้งยังมีมาตรการลดราคาแก๊สให้เหลือ 250 บาทต่อถัง ที่สำคัญ คือ ลดค่าไฟฟ้าครัวเรือนให้เหลือ 2.50 บาทต่อหน่วย และลดค่าไฟฟ้าภาคอุตสาหกรรมเหลือ 2.70 บาทต่อหน่วย เพื่อมอบความสุขให้ประชาชนด้วยความจริงใจ พลังประชารัฐจะทำทุกอย่างเพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดีขึ้น
“ทั้งยังมีนโยบายดูแลทุกช่วงวัย 'แม่ บุตร ธิดา ประชารัฐ' แจกเงินคนท้องเดือนละ 10,000 บาท เป็นเวลา 5 เดือนจนกว่าจะคลอด และเงินช่วยดูแลลูกอีกเดือนละ 3,000 บาท จนถึง 6 ขวบ เพื่อให้สตรีมีขวัญกำลังใจในการช่วยกันเพิ่มประชากร และอีกหนึ่งนโยบายที่สำคัญก็คือ 'มีเราไม่มีแล้ง มีน้ำไม่มีจน' ที่เราได้บริหารจัดการมากว่า 3 ปี ได้ทำให้น้ำบนดิน น้ำใต้ดิน น้ำบ่อ น้ำตื้นต่างๆ มีใช้เพียงพอสำหรับพี่น้องเช่นเดียวกับที่ดินกิน ถ้ามีเราก็มีที่ดินทำกิน ไม่มีจน เราจะทำให้ประชาชนทั่วทั้งประเทศมีที่อยู่ที่อาศัย ที่ประกอบสัมมาวิชาชีพ ทั้งนี้เราจะสนับสนุนเงินให้เกษตรกรทั่วประเทศ จำนวน 30,000 บาท ทั้ง 8 ล้านครอบครัว เพื่อแก้ปัญหาความยากจน” พล.อ.ประวิตร กล่าว
@@ ประชาชาติขอ ส.ส.หลักสิบ ร่วมรัฐบาลสมศักดิ์ศรี
ด้านความเคลื่อนไหวของพรรคประชาชาติ วันอาทิตย์ที่ 30 เม.ย. นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรค พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรค นำคณะพรรคประชาชาติ เดินทางไปที่โรงแรมญันนัตีย์ หาดใหญ่ Yannaty Hotel สาย 3 ติดตลาดกิมหยง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อพบปะผู้นำศาสนาและมุสลิมะห์ จ.สงขลา กว่า 200 คน
โอกาสนี้ นายอับดุลเราะมัน มอลอ อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 7 และ นายมังโสด หมะเต๊ะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 8 จ.สงขลา รวมถึงอดีตผู้สมัคร ส.ส.สตูล 2 เขต เลือกตั้ง นายรมย์ศรี กะด๊ะ เขต 1 และนายไพศาล หลีเส็น เขต 2 ได้เข้าร่วมพบปะประชาชนด้วย
แกนนำพรรคประชาชาติ ได้ขอคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ให้พรรค เบอร์ 11 โดยตั้งเป้าจะขอคะแนน จ.สงขลา 1.5 แสนคะแนน จังหวัดฝั่งอันดามัน 2 แสนคะแนน และสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ขอคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ 8 แสนคะแนน เพื่อให้ได้ ส.ส.รวม 2 ระบบมากกว่า 10 คน เพื่อเข้าร่วมพรรครัฐบาลอย่างสมศักดิ์ศรี
นอกจากนี้ พ.ต.อ.ทวี ยังได้พบศิษย์เก่าโรงเรียนดีนูลอิสลาม ซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชนสอนศาสนา ตั้งอยู่ที่ ต.จะโหนง อ.จะนะ จ.สงขลา มีการรวมตัวของศิษย์เก่าโรงเรียนดีนูลอิสลามครบรอบ 53 ปี ในพื้นที่โรงแรมเดียวกัน
จากนั้น พ.ต.อ.ทวี ยังได้เดินทางต่อไปยังโรงแรมปาร์คอินทาวน์ อ.เมือง จ.ปัตตานี เพื่อร่วมให้กำลังใจลูกสาวคนเล็กของเจ้าของร้านครูเจน ที่เข้าพิธีวิวาห์ และยังเดินไปทางไปพบกับคณะอาจารย์และนักวิจัยที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อร่วมหาแนวทางการพัฒนาและแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เกิดความยั่งยืน
@@ “วันนอร์” ประกาศมีลุ้นได้ 2 เก้าอี้ รมต.
นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า วันที่ 14 พ.ค.นี้เป็นวันที่ทุกคนพร้อมใจกันจะเปลี่ยนประเทศ จากโพลที่เป็นกลางบอกว่า พวกเราจะมี ส.ส. มากกว่า 10 คน ไม่ว่าจะโพลของเนชั่นทีวี บอกว่าเราลุ้นมา 8-10 ที่นั่งอยู่แล้ว เรายังมีเวลา ที่ผ่านมาเลือกตั้งปี 2562 เราได้ ส.ส. 6 คน เราก็ได้สู้ในสภา ทั้งเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ และอีกหลายๆเรื่อง การเลือกตั้งครั้งนี้ บัตร 2 ใบ เลือกตั้งคราวนี้จึงเป็นการเลือกตั้งเพื่อจะทำให้เกมต่างๆ จบลง จะแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้เป็นประชาธิปไตยเต็มใบให้ประชาชนมีอำนาจอย่างแท้จริง
“ผมเชื่อมั่นว่าเราจะต้องไปถึงฝั่ง และเราจะขึ้นฝั่งซีกที่เป็นประชาธิปไตยอย่างสมศักดิ์ศรี ถ้าเราได้ ส.ส.มา 10 คน เลือกตั้งคราวนี้เราจะเปลี่ยนรัฐบาล คราวที่แล้วเปลี่ยนไม่ได้เพราะปืนมันจ่อหัว แต่คราวนี้ซีกที่เป็นประชาธิปไตยจะเป็นรัฐบาล ถ้าเราร่วมรัฐบาลแน่นอนเราจะมีรัฐมนตรีอย่างน้อย 1-2 คน และต้องเป็นคนที่มีศักยภาพ คนที่เข้าใจพวกเรา เข้าใจปัญหา เข้าใจพื้นที่” หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าว
@@ “ทวี” ลั่นนโยบายประชาชาติดีที่สุด เอื้อประโยชน์ลูกหลาน
ด้าน พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า นโยบายพรรคประชาชาติเกิดขึ้นเพื่อลูกหลานทุกคนและทุกคนทั้งประเทศ ถึงเวลาแล้วที่จะต้องเปลี่ยนประเทศไทย ผมเชื่อมั่นว่า นโยบายของพรรคเราจะไม่แพ้พรรคอื่น ศูนย์วิจัยและสวัสดิการเป็นหน่วยงานของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ บอกว่า นโยบายของพรรคประชาชาติดีที่สุด และอีกอย่างคนพูดกันว่า นโยบายที่เอื้อประโยชน์ต่อคนรุ่นใหม่มากที่สุด ดูแลคนรุ่นใหม่คือ นโยบายของพรรคประชาชาติ เพราะพรรคประชาชาติสร้างคน ประชาชนสร้างชาติ
“พรรคประชาชาติมีสวัสดิการถ้วนหน้า ดูแลเด็กเล็กตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดาถึง 7 ขวบ 4,500 บาทต่อเดือน ดูแลเด็กวัยเรียน 8 ปีถึง 15 ปี 3,000 บาทต่อเดือน ล้างหนี้ กยศ. กู้ กยศ.ปลอดดอกเบี้ย ไร้เบี้ยปรับ แก้กฎหมายเพิ่ม เรียนฟรีมีคุณภาพถึงปริญญาตรี ครอบครัวเกษตรกรต้องมีที่ดินทำกินอย่างน้อย 20 ไร่ ชาวสวนยางพารามีรายได้ 30,000 บาทต่อเดือน ราคายางพารามีเสถียรภาพ 80 บาทต่อกิโลกรัมขึ้นไป แก้กฎหมายประมง ตั้งกองทุนดูแลคนหาปลาหน้ามรสุม ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปรับ 3,000 บาทต่อเดือน ขยายเวลาเกษียณอายุข้าราชการเป็น 62 ปี ภาคเอกชนให้ทำถึงอายุ 67 ปี และเสียชีวิตญาติรับค่าทำศพ 7,000 บาท ทุกราย ทุกศาสนา ทั้งหมดนี้พร้อมทำทันทีที่ได้เป็นรัฐบาล” เลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าว
@@ ผู้สมัคร ส.ส.รวมไทยสร้างชาติ เขต 3 ยะลา ล้มป่วย
วันเดียวกัน พ.ต.อ.พิทักษ์ เอียดแก้ว ผู้สมัคร ส.ส. เขต 3 ยะลา พรรครวมไทยสร้างชาติ มีอาการป่วยจนบรรดาญาติต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลเบตง จ.ยะลา และส่งตัวไปรักษาต่อยังโรงพยาบาลศูนย์ยะลา ท่ามกลางครอบครัว ผู้ช่วยหาเสียง และชาวบ้านผู้สนับสนุนพรรครวมไทยสร้างชาติมาร่วมให้กำลังใจ
ผู้ช่วยหาเสียงของ พ.ต.อ.พิทักษ์ กล่าวว่า เพราะอากาศที่ร้อนอบอ้าวในช่วงนี้ ส่งผลต่อการหาเสียงของผู้สมัคร ส.ส.อย่างมาก หลายคนล้มป่วย ร่างกายอ่อนเพลีย เช่นเดียวกับ พ.ต.อ.พิทักษ์ หลังจากตรากตรำเดินสายหาเสียง ลงพื้นที่พบปะประชาชน ทำให้มีอาการป่วย
สำหรับ พ.ต.อ.พิทักษ์ เอียดแก้ว ผู้สมัคร ส.ส. หมายเลข 4 เขต 3 จ.ยะลา พรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นอดีตผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา (บก.ภ.จว.ยะลา) เคยเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมให้กับตำรวจสันติบาลที่ปฏิบัติหน้าที่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ปะทะกับผู้ก่อความไม่สงบจนได้รับบาดเจ็บ แต่ผู้บังคับบัญชาไม่ปูนบำเหน็จให้ตามระเบียบ