เจ้าหน้าที่นำหมายศาลค้นบ้านทีมงาน “ชมรมพ่อบ้านใจกล้า” พร้อมยึดคอมพิวเตอร์ 2 เครื่องไปตรวจสอบ เจ้าตัวเชื่อสาเหตุจากเปิดบริจาคเงินช่วยครอบครัวเหยื่อที่ถูกวิสามัญฯ ด้านสำนักสื่อวาร์ตานี โดนออกหมายเรียก บก.-นักข่าว ข้อหาขัดขวางเจ้าพนักงาน
เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 13 มี.ค.66 มีรายงานว่า นายซาฮารี เจ๊ะหลง คนทำงานในภาคประชาสังคมในนาม “ชมรมพ่อบ้านใจกล้า Butler's Club” และเป็นบรรณาธิการด้านเนื้อหาของสื่อ The Motive ได้ไลฟ์สดภาพการเดินทางกลับบ้านของตนเองพร้อมเล่าว่า เขาต้องรีบกลับบ้านเนื่องจากภรรยาโทรไปบอกว่า มีเจ้าหน้าที่จำนวนมากเข้าไปเพื่อขอค้นบ้าน
นายซาฮารี เปิดเผยภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่เสร็จสิ้นภารกิจแล้วว่า ได้มีเจ้าหน้าที่ไปปรากฎตัวที่บ้านจำนวนมาก มีรถไม่ต่ำกว่าสิบคันและเชื่อว่า มีเจ้าหน้าที่หลายสิบคน โดยพวกเขาถือหมายศาลที่ออกโดยศาลจังหวัดปัตตานีให้เข้าตรวจค้นตามหมายศาลระบุว่า เป็นการอนุญาตให้เข้าค้นเพื่อหาหลักฐานประกอบการสืบสวนสอบสวนในคดีที่เกี่ยวข้อง เวลาในการตรวจค้นคือตั้งแต่ 14.00 - 18.00 น. และทางเจ้าหน้าที่ได้นำคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะและแบบพกพาที่เป็นของส่วนตัวไปทั้งสองเครื่อง แล้วให้ตนได้เซ็นรับทราบและวันพรุ่งนี้จะเดินทางไปที่สำนักงานของดีเอสไอ เพื่อให้เจ้าหน้าที่เปิดดูอุปกรณ์ดังกล่าว
“ผมก็ถามเขาว่า ทำไมมากันเยอะขนาดนี้ พ่อแม่คนที่บ้านตกใจหมด พวกเขาไม่เคยเจออะไรแบบนี้ เขาบอกว่า เขามาจากกรุงเทพฯ เขาก็กลัวเหมือนกันเลยขอกำลังในพื้นที่คุ้มครอง”
นายซาฮารี บอกอีกว่า เชื่อว่าในการเข้าตรวจค้นครั้งนี้ จะเกี่ยวโยงไปถึงคดีที่ดีเอสไอสอบสวนผมและเพื่อนๆ ที่ร่วมตั้งกลุ่มชื่อ “ชมรมพ่อบ้านใจกล้า” ที่ได้ทำกิจกรรมช่วยกันระดมเงินบริจาคช่วยเหลือครอบครัวของผู้ที่ถูกวิสามัญฆาตกรรมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีจำนวนไม่น้อยโดยเฉพาะในระยะหลัง
“ผมไม่เชื่อว่าเขามาเพื่อข่มขู่ ผมเชื่อว่าเขามารวบรวมข้อมูลและคงโดนฟ้องแน่” นายซาฮารี กล่าว
สำหรับ “ชมรมพ่อบ้านใจกล้า” นายซาฮารี เคยกล่าวถึงวัตถุประสงค์ที่มารวมตัวกันตั้งชมรมนี้ ในเวทีเสวนาก่อนหน้านี้หลายหนว่า คนกลุ่มนี้ไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆ ทำให้ครอบครัวลำบาก เขาและเพื่อนๆ เพียงแค่มาช่วยระดมทุนด้วยการทำเองไม่ได้จดทะเบียนตั้งกลุ่ม แต่อาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจจากผู้บริจาคเพื่อส่งผ่านเงินบริจาคทั้งหมดไปยังครอบครัวผู้เสียชีวิตทุกครั้งสามารถตรวจสอบได้จากบัญชี และพวกเขาก็ถูกจับตาจากเจ้าหน้าที่มาและในระยะหนึ่ง ทั้งยังทราบว่า มีผู้บริจาคหลายรายได้ถูกเจ้าหน้าที่เรียกไปสอบปากคำด้วย
@@ หมายเรียก "บก.-นักข่าววาร์ตานี" ปมแย่งศพวิสามัญฯ
นอกจากการเข้าตรวจค้นบ้านของคนทำงานภาคประชาสัมคมอย่างนายซาฮารี เจ๊ะหลง แล้ว ทางเพจเฟซบุ๊คของทางสำนักสื่อวาร์ตานี “ Wartani” มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 11 มี.ค.66 ได้มีหมายเรียกจาก สภ.ธารโต มายังกองบรรณาธิการของสำนักสื่อวาร์ตานี เพื่อเรียกตัวนายมะนาวารี นะโกะ บรรณาธิการกองข่าวภาคสนามสำนักสื่อวาร์ตานี และนายมูฮัมหมัดฮาฟีซี สาและ ผู้สื่อข่าวภาคสนามสำนักสื่อวาร์ตานี
ในหมายเรียกระบุว่า “ร่วมกันข่มขืนใจเจ้าพนักงานให้ปฏิบัติอันไม่ชอบด้วยหน้าที่หรือให้ละเว้นการปฏิบัติการตามหน้าที่และขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่” พร้อมระบุให้เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 15 มี.ค.66 เวลา 8.30 น. ที่ สภ.ธารโต อ.ธารโต จ.ยะลา
สำหรับหมายเรียกดังกล่าว เกิดจากกรณีที่ทางกองบรรณาธิการสำนักสื่อวาร์ตานี ได้ไปรายงานข่าวเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ปิดล้อมยิงปะทะวิสามัญนายอิบรอเฮม สาและ ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีความมั่นคง ในพื้นที่ ม.6 บ้านมายอ ต.ธารโต อ.ธารโต จ.ยะลา เมื่อวันที่ 21 ก.พ.66 ซึ่งหลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้กั้นจุดเกิดเหตุ แต่ทางญาติและประชาชนในพื้นที่ได้ฝ่าแนวกั้นของเจ้าหน้าที่เข้าไปขอศพ เพื่อจะรีบนำไปประกอบพิธีกรรมตามหลักศาสนา
แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้ขอเวลา 15 นาที เพื่อเก็บพยานหลักฐานและให้รถกู้ชีพกู้ภัย ของ อบต.บ้านแหร มารับร่างผู้เสียชีวิต ซึ่งทางญาติขออนุญาตเจ้าหน้าที่ขึ้นรถไปพร้อมกับศพผู้เสียชีวิตด้วย แต่เมื่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำศพขึ้นรถแล้วจึงได้ขับออกไป ในขณะที่ญาติกำลังจะขึ้นรถ จนทำให้ญาติของผู้เสียชีวิตรายหนึ่งเกาะประตูหลังรถกู้ภัยไป โดยมีญาติและประชาชนพยายามช่วยเหลือไล่ตามรถเพื่อเรียกให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยจอดรถ เมื่อรถกู้ภัยได้จอด ทางกลุ่มญาติและประชาชนจึงนำศพผู้เสียชีวิตลงจากรถกู้ภัยย้ายไปขึ้นรถกระบะ แล้วนำกลับบ้านเพื่อไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เกิดเป็นเหตุการณ์ชุลมุน ตามที่ปรากฎเป็นภาพข่าว
จากเหตุการณ์เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นบ้านพักทีมงาน “ชมรมพ่อบ้านใจกล้า” และทางตำรวจมีการออกหมายเรียก บก. - นักข่าว สำนักสื่อวาร์ตานีที่เกิดขึ้นนั้น ทางทีมข่าวอิศรา ได้พยายามติดต่อทางโทรศัพท์เพื่อขอสัมภาษณ์โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง แต่ไม่สามารถติดต่อได้