ไทยลงนามเอ็มโอยูกับซาอุฯ จัดระเบียบช่วงพิธีฮัจญ์และอุมเราะห์ ฮ.ศ. 1444 (พ.ศ.2566) เพื่อความสะดวกสบายและปลอดภัยให้แก่ผู้แสวงบุญ
เมื่อเร็วๆ นี้ ที่งานฮัจญ์ เอ็กซ์โป 2023 เมืองเจดดาห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย นายอับดุลฟัตตาห์ มาชาด รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกิจการฮัจญ์และอุมเราะฮ์ ได้ให้การต้อนรับ พล.ต.ท.ณัฐพิชย์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงมหาดไทย และคณะผู้แทนจากประเทศไทยที่เดินทางไปเพื่อเซ็นสัญญาข้อตกลงเกี่ยวกับการจัดระเบียบในช่วงพิธีฮัจญ์ประจำปีฮิจเราะห์ศักราชที่ 1444 (ฮ.ศ.1444 ตรงกับปี พ.ศ.2566)
โอกาสนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกิจการฮัจญ์และอุมเราะฮ์ ยังได้ลงนามข้อตกลงเกี่ยวกับการจัดระเบียบในช่วงพิธีฮัจญ์กับคณะผู้แทนจากประเทศต่างๆ ที่เดินทางมาในคราวเดียวกัน โดยข้อตกลงเหล่านี้อยู่ในมาตรการพัฒนาที่เสนอโดยราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย เพื่อแก้ไขปรับปรุงในด้านต่างๆ ให้แก่ผู้ที่มาแสวงบุญระหว่างพิธีฮัจญ์และอุมเราะห์ รวมไปถึงการจัดสรรโควต้าผู้ที่จะเดินทางมาร่วมแสวงบุญ การเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ และท่าเรือต่างๆ และรวมถึงวิธีการมาถึงและออกเดินทาง ตลอดจนคำแนะนำขององค์กรเพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบายของผู้แสวงบุญ ตั้งแต่ช่วงเวลาของการเตรียมตัวสำหรับการเดินทาง จนกระทั่งออกจากราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย
นายอับดุลฟัตตาห์ มาชาด กล่าวว่า สำหรับงานเอ็กซ์โป 2023 เป็นงานที่พบปะกันที่ใหญ่ที่สุด และเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับฮัจญ์และอุมเราะห์ เนื่องจากเป็นการรวมตัวกันมากกว่า 57 ประเทศ มีวิทยากรและผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 70 คน โดยมีบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านฮัจญ์และอุมเราะห์ เข้าร่วมงานกว่า 200 บริษัท และมีผู้เข้าร่วมงานนิทรรศการครั้งนี้มากกว่า 60,000 คน
สำหรับงานครั้งนี้ถือว่าเป็นประชุมครั้งใหญ่ เพื่อเป็นพื้นที่สำหรับแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ ความคิด นวัตกรรมและประสบการณ์ เพื่อเป็นการเปิดโอกาสสำหรับประเทศต่างๆ ที่จะเข้าร่วมลงนามในข้อตกลงและจัดการเรื่องต่างๆ ของผู้แสวงบุญของแต่ละประเทศ ก่อนฤดูกาลฮัจญ์และอุมเราะห์ เพื่อความสะดวกสบายและปลอดภัยให้แก่ผู้แสวงบุญ
ในการประชุมตลอดทั้ง 4 วันเป็นการประชุมเชิงปฏิบัติการ จำนวน 40 ครั้ง และยังมีการสัมมนาหลักอีก 9 กลุ่มหลัก ได้มีการอภิปรายหัวข้อต่างๆ ที่มีส่วนช่วยในการพัฒนาประสบการณ์ของผู้แสวงบุญ และการใช้โซลูชั่นดิจิทัล การทำงานเพื่อสร้างระบบที่บูรณาการและยั่งยืนเพื่อพัฒนาและปรับปรุงการบริการให้บรรลุวัตถุประสงค์ของวิสัยทัศน์แห่งราชอาณาจักรปี 2030
โดยความพยายามทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้กรอบของความพยายามของราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียในการให้บริการที่โดดเด่นแก่ผู้แสวงบุญ และการทำงานเพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์ในทุกระดับด้านลอจิสติกส์ เทคโนโลยี และความปลอดภัย ตลอดจนวัฒนธรรมและความรู้ผ่านโครงการผู้แสวงบุญ โดยความพยายามร่วมกันของภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการ และพันธมิตรจากทั่วโลก