คนงานพร้อมรถแบ็คโฮขุดสระ “พรุชะเมา” หายเงียบ หลังชาวบ้านร้องสื่อ-พรรคการเมืองค้านโครงการ เหตุทับที่ สค.1 ด้าน ส.ส.ประชาชาติ ยืนยันตรวจสอบแล้วเป็นโครงการรัฐจริง คาดเป็นของกระทรวงทรัพย์ ไม่ผ่านองค์กรปกครองท้องถิ่น เล็งนำเรื่องเข้า กมธ.กระจายอำนาจฯ เรียกผู้เกี่ยวข้องชี้แจง
จากกรณีชาวบ้าน ต.น้ำดำ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี นำโดย นางมาเรียม บีรู ประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบลน้ำดำ (สภา อบต.น้ำดำ) ร้องทุกข์ผ่าน “ศูนย์ข่าวภาคใต้ สำนักข่าวอิศรา” คัดค้านโครงการรัฐขุดสระ 500 ไร่บนที่ดินชาวบ้านที่มีเอกสาร สค.1 เพราะทำให้ประชาชนได้รับควาเดือดร้อน กระทบที่ดินทำกิน และกระทบถึงวัวควายไม่มีที่จะอยู่ ที่ผ่านมาไปร้องเรียนกับกำนัน นายก อบต. และนายอำเภอ แต่ยังไม่มีใครยื่นมือเข้ามาช่วยหรือลงพื้นที่ตรวจสอบนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด นางมาเรียม เผยกับ “ทีมข่าวอิศรา” ว่า หลังจากมีการนำเสนอข่าว ทุกอย่างในพื้นที่เงียบสนิท ทั้งนายอำเภอ จังหวัด ก็ยังเงียบ ผู้ชายตัวดำๆ ที่เข้ามาคุมงานก็หายไปแล้ว รถแบ็คโฮ ก็ไม่มีแล้วตรงจุดที่เคยขุดสระ
“แต่ที่เงียบไปก็ไม่แน่ใจว่าเพราะฝนตกในพื้นที่ ทำให้พรุเต็มไปด้วยน้ำ หรือด้วยเหตุผลอื่น เพราะเขาอาจจะหยุดเพราะฝนก็ได้ ชาวบ้านก็ยังไม่วางใจ ขนาดพิพาทกันมานานกว่า 20 ปี วันนี้โครงการก็ยังเอาลงมาจนได้” ประธานสภา อบต.น้ำดำ ตั้งข้อสังเกต
นางมาเรียม กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาได้ไปร้องเรียนกับพรรคประชาชาติ และทางพรรคได้ส่ง นายสมมุติ เบ็ญจลักษณ์ ส.ส.ปัตตานี ลงมาเยี่ยมและให้กำลังใจชาวบ้าน พร้อมสอบถามข้อมูล ส่วนจะไปดำเนินการอย่างไรนั้นตนไม่แน่ใจ
“ส่วนท่านทวี ( พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ) ก็ได้โทรศัพท์มาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและให้กำลังใจทุกคนด้วย โดยได้แจ้งความคืบหน้าว่า ท่านทวีถามนายก อบต.ท่าธง อ.รามัน จ.ยะลา แล้ว นายก อบต.บอกว่า ไม่ใช่โครงการของ อบต.ท่าธง แต่เป็นโครงการของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ต้องขอบคุณท่านทวีมากที่ช่วยชาวบ้าน ตอนนี้รู้สึกสบายใจขึ้น ไม่ได้รู้สึกโดดเดียวเหมือนตอนแรก”
“อยากบอกว่า ชาวบ้านกลัว ชาวบ้านไม่มีทางสู้อำนาจเหล่านั้น แต่ก็เชื่อว่าถ้าเราไม่สู้ ของๆ เราก็หมด ธรรมชาติที่สวยงามก็จะหายจากพื้นที่นี้ พวกเราเชื่อว่าชีวิตคนเราต้องตายกันคนละครั้ง จึงขอสู้ต่อไปเพื่อชาวบ้านและครอบครัว ถ้าการพัฒนาที่ลงมาทำให้ชาวบ้านทุกคนได้ประโยชน์มากกว่ามาทำลายทรัพยากรในพื้นที่ก็ยินดี แต่ทุกวันนี้ดินพรุแถวนี้เหลือไม่มากแล้ว ธรรมชาติกำลังจะหายไปกับกลุ่มอำนาจที่อ้างโครงการพัฒนา แต่มาทำลายธรรมชาติ”
นายมาเรียม กล่าวอีกว่า อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือรัฐบาลช่วยตรวจสอบโครงการที่ลงมาว่าเกิดประโยชน์กับชาวบ้านหรือกลายเป็นสุสาน
ด้าน นายสมมุติ เบ็ญจลักษณ์ ส.ส.ปัตตานี เขต 4 พรรคประชาชาติ กล่าวว่า ได้ลงพื้นที่พบปะและให้กำลังใจชาวบ้าน แต่ยังไม่ได้ลงพื้นที่พิพาท
อย่างไรก็ดี ก็ได้หาข้อมูลเพิ่มเติมอีกหลายส่วน พบว่าจากที่ชาวบ้านเล่ามาว่ามีการกางเต็นท์ และมีรถแบ็คโฮ 2-3 คันเข้าไปขุดนั้น ฝั่ง ต.ท่าธง อ.รามัน จ.ยะลา บอกว่า ตรงนั้นเป็นพื้นที่ของท่าธง ในขณะที่ชาวบ้านก็บอกว่าเป็นพื้นที่ ต.น้ำดำ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ซึ่งมี สค.1 อยู่ ส่วนโครงการที่เข้าไปขุด พบว่าเป็นโครงการของรัฐจริง อยู่ระหว่างตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติม
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ “ทีมข่าวอิศรา” ตรวจสอบพบว่า พื้นที่พิพาทที่กำลังมีปัญหา เดิมเป็นป่าพรุ ขื่อว่า “พรุชะเมา” โดยใน อ.ทุ่งยางแดง มีป่าพรุหลายแห่ง เช่น พรุลานควาย ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง รวมถึงพรุชะเมา พรุน้ำดำ โดยพื้นที่นี้เป็นรอยต่อระหว่าง ต.น้ำดำ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี กับ ต.ท่าธง อ.รามัน จ.ยะลา จึงยังไม่ชัดว่าเป็นความเข้าใจผิดของทางโครงการที่เข้าขุดสระ หรือว่าเป็นความจงใจที่จะขุดรุกเข้าไปในพื้นที่ของชาวบ้านกันแน่
ด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าวว่า จากการตรวจสอบได้ข้อมูลว่า เป็นโครงการของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เบื้องต้น อบต.ท่าธง ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นโครงการที่ผ่านความเห็นชอบจาก อบต.ท่าธง ดังนั้นทาง ส.ส.ของพรรคจะเสนอเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมาธิการการกระจายอำนาจ การปกครองส่วนท้องถิ่น และการบริหารราชการรูปแบบพิเศษ สภาผู้แทนราษฎร จากนั้นจะมีการ เรียกผู้เกี่ยวข้องและรัฐมนตรีมาชี้แจงต่อไป