“แค่เปลี่ยนความคิด ชีวิตก็เปลี่ยน เริ่มจากที่ตัวเราก่อน”
เป็นบทสรุปจาก “กลุ่มอาชีพผู้หญิง” ที่ช่วยกันสร้างพื้นที่ประสานรอยร้าวผู้คนในชุมชนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
เพราะเมื่อผู้หญิงก้าวข้ามทุกอุปสรรค เสริมพลังกันละกัน เรื่องราวแห่งชีวิตที่ดีขึ้นก็บังเกิดขึ้น เปิดโลกทัศน์ใหม่และเชื่อมร้อยสัมพันธ์ "พื้นที่กลาง" กันด้วยอาชีพ
จากสถานการณ์ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่สร้างความหวาดระแวงและบั่นทอนความสัมพันธ์ของคนสองวัฒนธรรมมานานนับสิบปี "พื้นที่กลาง" ที่ทำให้ชาวมุสลิมและพุทธพบปะกันทำกิจกรรมร่วมกัน เพื่อรื้อฟื้นความสัมพันธ์ที่ดีที่เคยมีต่อกันมา ก็มีเหลือน้อยเต็มที
“กลุ่มอาชีพผู้หญิง” ได้ก่อกำเนิดขึ้น และช่วยสร้างพื้นที่ประสานรอยร้าวและร้อยรัดผู้คนทั้งในชุมชนและนอกชุมชนเข้าด้วยกัน โดยใช้ “การสร้างอาชีพ” เป็นตัวเชื่อม
นับเป็นบทบาทของผู้หญิงอย่างธรรมชาติในชุมชนพหุวัฒนธรรมชายแดนใต้ อยู่ในวิถีชีวิตชุมชน
@@ “สมปอง” ตั้งกลุ่มจักสาน...สานใจคนในชุมชน
บ้านทุ่ง ต.ท่าข้าม อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี เป็นชุมชนต้นแบบแห่งความใจกว้างและแบ่งปันกันระหว่างสองศาสนิกที่ปรากฎชัด โดยมี สมปอง อัดอินโหม่ง ผู้หญิงชาวพุทธจากพิษณุโลก ประธานกลุ่มจักสานไม้ไผ่บ้านทุ่ง เป็นแกนนำเริ่มสานสัมพันธ์นี้
“เราเริ่มต้นจากคนก่อน เมื่อมาอยู่ในพื้นที่ (จากเดิมเป็นคนพิษณุโลก) ก็ปรับตัวปรับใจ มาอยู่บ้านทุ่งกว่าสิบปี เข้าใจทั้งพุทธและมุสลิม พยายามเชื่อมร้อยพี่น้องในชุมชนด้วยอาชีพ มองในสิ่งใกล้ตัว ในชุมชนก่อน จัดคนให้เหมาะกับงาน ชวนพี่น้องพุทธทำงานจักสานจากไม้ไผ่ต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ อย่างร่วมสมัย ชักชวนพี่น้องมุสลิมเข้ามาร่วมทำอาหาร จะได้เข้าใจกัน ใกล้ชิดกันมากขึ้น”
สมปอง เล่าว่า สิ่งที่ทำไม่ได้เกิดผลทันที แต่ก็มีพัฒนาการ
“กระทั่งเขาเริ่มเปิดใจมาทำงานกัน เห็นว่าถ้าทำเรื่องอาหารด้วย จะไปได้ดี โดยเฉพาะถ้าเป็นอาหารฮาลาล จนมีสมาชิกทั้งสองศาสนาเข้ามาร่วมกัน เพื่อให้กลุ่มเดินหน้าอย่างไม่ติดขัด แบ่งปันค่าเหนื่อยตามคุณภาพงาน เป็นที่ไว้วางใจของคนในชุมชน ริเริ่มสารพัดโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชนจนเป็นที่ยอมรับของหน่วยงานต่างๆ”
@@ ประสานมือนอกชุมชน เพิ่มออเดอร์สารพัดผลิตภัณฑ์
นอกจากในชุมชน สมปองยังขยายความร่วมมือไปยังนอกชุมชนกับ เอ็มโซเฟียน เบญจเมธา จากเบญจเมธาเซรามิค ซึ่งเป็นมุสลิมในพื้นที่ปะนาเระเช่นกัน แต่อาศัยอยู่คนละชุมชนกับสมปอง
เอ็มโซเฟียนได้ทำท้องทุ่งนาบริเวณบ้านให้เป็นสนามยิงธนูสำหรับผู้สนใจ ขณะที่กลุ่มจักสานบ้านทุ่งก็รับทำเป้ายิงธนูจากฟางข้าว จนรับออเดอร์กันไม่ทัน และสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์อื่นๆ รวมทั้งมีออเดอร์ทำเปล ตะกร้า บ้านแมว เบาะนอนจากเส้นยางพารา ชิ้นละหลายพันถึงเป็นหมื่นบาทที่มหาวิทยาลัยฟาฏอนีนำไปขายทางออนไลน์
“เราเป็นชุมชนสมานฉันท์ หลังเก็บเกี่ยวทุกปี คนพุทธจะให้ข้าวใหม่มุสลิม ทำมาตั้งแต่รุ่นตายาย เราต้องสานต่อ ช่วงโควิดมีคนตกงานมาจากกระบี่ ให้เขามาเลี้ยงแพะ ไก่ เป็ด พอรวมครบ 5 คน ก็ไปขอโครงการจากทางปศุสัตว์ ตอนนี้ได้แพะเป็นสิบตัว 5 เดือนคลอดครั้งหนึ่ง ตอนนี้เขาสามารถซื้อมอเตอร์ไซค์ได้แล้ว คนที่ลำบากกว่าเรามีเยอะ เราไม่ทิ้งเขา เราได้ใจเขา ไปไหนในชุมชนก็สบายใจ นี่คือความภูมิใจของเรา”
@@ เชื่อมสัมพันธ์-ฟื้นวัฒนธรรมประเพณี
กนกพร ชูพันธ์ ผู้ประสานงานโครงการเยาวชนคนควน ต.ควน อ.ปะนาเระ บอกว่า ความสัมพันธ์ของพี่น้องพุทธและมุสลิมในชุมชนยังมีเช่นเดิม อาจปรับไปตามสถานการณ์บ้าง ทำให้ระวังตัวเองกันมากขึ้น แต่ยังมีความเข้าใจกัน
“ล่าสุดในการประกวดตำบลสันติสุข เราได้ร่วมกันจัดดอกไม้ในงาน หรือในการทำนาก็ยังไปช่วยกันอยู่ และมุสลิมยังไปกรีดยางในสวนยางคนพุทธ เราสร้างความเข้าใจให้กับเยาวชนเรื่องการทำความเคารพที่มุสลิมไม่กล้าไหว้บุคคล ด้วยการเชิญมุสลิมที่มีความรู้มาทำความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่เยาวชน ให้เชื่อมั่นว่า การไหว้มิใช่สิ่งที่ผิดหลักการศาสนา”
“กลุ่มอาชีพผู้หญิง” ไม่เพียงแต่สร้างงาน สร้างรายได้ แต่ยังเป็น "พื้นที่ปลอดภัย" ให้ผู้หญิงในชุมชนได้มาทำงานร่วมกัน
@@ ปั้นกะหรี่ปั๊ปส่งขาย - ยุโปสร้าง “พื้นที่กลาง”
เมื่อว่างจากกรีดยาง “กลุ่มอีบู อีบู” จากบ้านบ่อเจ็ดลูก ต.ยุโป อ.เมือง จ.ยะลา ที่มี คอลีเยาะ มะลี เป็นประธาน ใช้บ้านของเธอเองเป็นที่ทำการกลุ่ม ทำกะหรี่ปั๊ปเป็นอาชีพเสริม ส่งขายตามร้านในชุมชน
คอลีเยาะ บอกว่า ใช้บ้านเป็นพื้นที่ทำขนมและพูดคุยกันของสมาชิก ได้จดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชนเมื่อเดือน มี.ค.63
“เรารวมกลุ่มกันมาจนถึงช่วงโควิดแพร่ระบาดในชุมชน จึงต้องหยุดทำไปช่วงหนึ่ง จนสถานการณ์ดีขึ้นก็มารวมกลุ่มกันต่อ และพยายามพัฒนาให้ดีกว่าเดิม เรื่องสูตรขนม พี่น้องพุทธจากหมู่บ้านอื่นมาสั่งกะหรี่ปั๊ปที่กลุ่มเราทำอยู่เสมอ เราเริ่มไปมาหาสู่กันมากขึ้นกว่าตอนสถานการณ์แย่ๆ ก่อนหน้านี้กระหรี่ปั๊ปของเราทำให้เกิดการร้อยสัมพันธ์ในชุมชนได้ดีขึ้น และมีพื้นที่กลางให้ได้มาพบปะกันช่วยเหลือกัน เพราะผู้หญิงไม่เป็นที่จับตามองจากชุมชน ที่นี่จึงเป็นพื้นที่ปลอดภัยของพวกเรา”
บ้านยุโป ต.ยุโป อ.เมือง จ.ยะลา ชุมชนพุทธที่เป็นเหมือนไข่แดงที่มีพี่น้องมุสลิมรายรอบ มีสัมพันธ์ที่ดีกันมาเนิ่นนาน
นาฏนภางค์ คล้ายนิมิตร แกนนำภาคประชาสังคมจากบ้านยุโป บอกว่า สถานการณ์ความไม่สงบทำให้คนในชุมชนต่างคนต่างอยู่ หวาดระแวงต่อกันมาก ณ วันนี้สถานการณ์คลี่คลาย ส่งผลทำให้สายสัมพันธ์กลับมาเหมือนเดิมและดีขึ้นด้วยพลังของผู้หญิง รวมทั้งความเข้าใจของสมาชิกในชุมชน
“ตอนนี้เราไว้วางใจกันและกันมากขึ้น ไม่หวาดระแวงกันในการใช้ชีวิต ไปมาหาสู่ จัดกิจกรรม มีเวทีโครงการต่างๆ ในชุมชน คนพุทธก็ไปร่วม เราไปชวนเขามาทำกิจกรรมเขาก็มา เมื่อออกไปก็กลับมาบอกเล่า พูดคุยในสิ่งที่ถูกต้องให้คนในครอบครัว ญาติ เพื่อนบ้าน ชาวบ้าน อสม.ในชุมชนได้รับรู้ โดยเฉพาะเมื่อมีประชุมประจำเดือน”
@@ ระบาดโควิด...พลิกวิกฤติเป็นโอกาส
จากช่วงโควิด กลุ่มแม่เลี้ยงเดี่ยว กลุ่มแรงงานต้มยำกุ้งที่กลับมาจากมาเลเซีย และผู้หญิงที่ต้องการมีงานทำในชุมชนประมงขนาดเล็ก อ.ปะนาเระ เรียกร้องให้มีการรวมกลุ่มเพื่อทำอาชีพเสริมเพื่อมีรายได้เพิ่ม เมื่อ อาอีซะฮ์ ตีมุง ประธานกลุ่มสตรีชาวเลปะนาเระ ได้พูดคุยกับกลุ่มพ่อบ้านในกลุ่มโรงเรียนชาวเล พวกเขาสนับสนุนและช่วยเหลือกลุ่มทุกอย่าง
“เมื่อเราได้พูดคุยและรวมกลุ่มผู้หญิงในชุมชน ทุกคนอยากมีอาชีพเสริมกัน ซึ่งเคยจัดตั้งกลุ่มมาหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ ไปปรึกษากลุ่มพ่อบ้าน ดีใจมากที่เขาหนุนเรา เราเริ่มจากการทำปลาหวานและกรือโป๊ะที่สมาชิกทำกันอยู่แล้ว ต่อยอดมาเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเมื่อต้นปี 64 สิ่งที่ได้มามากกว่าเงินคือ ได้ร่วมพูดคุยกันในอาชีพ แก้ปัญหาและเปิดใจในเรื่องของแต่ละคน”
อาอีซะฮ์ ตีมุง เล่าว่า สถานะของกลุ่มวันนี้คือ “แข็งแรง”
“เรารวมกลุ่มได้อย่างแข็งแรง คือจุดแข็งของกลุ่มเรา มีการประชุมทุกวันศุกร์ ทุกคนพร้อมใจมาร่วมประชุมโดยมีพ่อบ้านมาส่ง เราได้เรียนรู้ทักษะการสื่อสารในการอยู่ร่วมกัน ทำให้ไม่ค่อยมีช่องว่างระหว่างรุ่นใหม่และรุ่นเก่าในกลุ่ม แล้วก็ยังนำมาปรับใช้ในกลุ่มเมื่อต้องทำงานหรือประสานงานกับเพื่อนต่างศาสนิก”
ขณะนี้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปจากหัวปลาโดยวิทยาลัยประมงปัตตานีเพื่อต่อยอดรายได้ให้กลุ่มต่อไป
ด้านกลุ่มแม่เลี้ยงเดี่ยวและเพื่อน ซึ่งมีทั้งหญิงหม้าย หญิงลำบากในชุมชนยูโยด่านภาษีเป็นสมาชิก ชุมชนนี้เป็นคนจนเมืองในตัวเมืองปัตตานี แรงงานต้มยำกุ้งที่กลับจากมาเลเซียส่วนใหญ่มีอาชีพรับจ้าง ได้รวมตัวเป็นกลุ่มเมื่อปลายปี 63 เพาะเห็ดนางฟ้าเพิ่มรายได้ แปรรูปเป็นห่อหมกเห็ด เห็ดทอด และน้ำพริกเห็ด แบ่งปันคืนสู่สมาชิก ช่วยเหลือคนในชุมชนช่วงโควิดด้วยอาหารปรุงสุกและถุงยังชีพ
“เรารวมกลุ่มกันด้วยสถานการณ์โควิด ให้มีรายได้เพิ่มจากการเพาะเห็ด พวกเราทำได้ แต่กว่าจะได้จัดตั้งกลุ่มนั้นยาก จนมีการต่อยอดผลิตภัณฑ์ ขยายโรงเรือน มีคนรุ่นใหม่มาช่วยสานงานและพัฒนาช่องทางขายออนไลน์ เชื่อมร้อยคนในชุมชนด้วยอาชีพ มีพื้นที่พูดคุยกัน คนพุทธในชุมชนเมืองส่วนใหญ่ทำงานนอกบ้าน บางครั้งกลุ่มก็ได้แบ่งปันอาหารให้ อยากให้เขามีส่วนร่วม พูดคุยและพบปะกันในชุมชนมากกว่านี้ เพื่อบอกกล่าวเรื่องราวของกลุ่มและชุมชนพร้อมหาแนวทางกิจกรรมที่รวมตัวกันได้มากขึ้น” พัณยวดี อาแว ประธานกลุ่มแม่เลี้ยงเดี่ยวและเพื่อน บอกเล่าถึงเรื่องราวของกลุ่ม
เมื่อผู้หญิงเป็นกลุ่มก้อน มีบทบาทในชุมชน มีอาชีพเพิ่มรายได้ พร้อมเชื่อมร้อยสัมพันธ์ของคนในชุมชน คือความสุขที่สัมผัสได้...
พลังผู้หญิงสร้างโลกคือความจริง และสิ่งที่เกิดขึ้นจากแรงกายแรงใจของกลุ่มผู้หญิง ก็คือของจริงในพื้นที่ชายแดนใต้
สันติสุขสร้างได้...เริ่มต้นที่ตัวเองและชุมชน