ครอบครัวสาวประเภทสองชาวยะลาร้องขอความเป็นธรรม หลังลูกเสียชีวิต แต่แพทย์ระบุเป็นมะเร็งในเม็ดเลือดขาว ทั้งที่ไม่เคยมีประวัติ ญาติสงสัยถูกทำร้าย เหตุก่อนเสียชีวิตขี่มอเตอร์ไซค์จากกรุงเทพฯ ไปราชบุรีหาแฟนหนุ่มที่เคยมีประวัติทำร้ายร่างกาย หนำซ้ำทั้งรถ ทั้งมือถือ ทั้งเอทีเอ็ม หายเรียบ
วันอาทิตย์ ที่ 17 ก.ค.65 ที่บริเวณตลาดเก่า อ.เมือง จ.ยะลา นางดรุณี สมจิต อายุ 56 ปี ได้เข้าร้องเรียนกับ นางบุษยมาส อิศดุลย์ ประธานบ้านบุญเต็ม ถึงกรณีที่ นายอรรถพล อีซอมูซอ อายุ 27 ปี ลูกชายซึ่งเป็น LGBT (สาวประเภทสอง) เดินทางไปทำงานที่กรุงเทพฯ เพียง 6 เดือน จากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลโทรแจ้งว่าลูกชายเสียชีวิต พร้อมระบุสาเหตุของการเสียชีวิตว่ามาจากมะเร็งในเม็ดเลือดขาว
แต่ทางครอบครัวไม่ปักใจเชื่อ เพราะมีความสงสัยในแฟนหนุ่มของนายอรรถพล ว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของนายอรรถพล เนื่องจากเคยมีประวัติถูกแจ้งความที่ สภ.เมืองยะลา กรณีทำร้ายร่างกายนายอรรถพล
นางดรุณี กล่าวว่า ครอบครัวตนเป็นชาวบ้านตลาดเก่า จ.ยะลา ลูกชายไปทำงานที่กรุงเทพฯได้ราว 6 เดือน จนกระทั่งเมื่อวันที่ 10 ก.ค.65 เวลา 11.00 น. โรงพยาบาลราชบุรี แจ้งว่า มีคนนำลูกชายไปส่งยังโรงพยาบาลปากท่อ จ.ราชบุรี ต่อมาได้ส่งต่อมาที่โรงพยาบาลราชบุรี ซึ่งขณะนั้นลูกชายยังมีสัญญาณชีพและยังรู้สึกตัวอยู่บ้าง โรงพยาบาลราชบุรีรับรักษาตัวไว้ด้วยอาการโคม่า จนกระทั่งเมื่อวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา จึงได้เสียชีวิตลง
ทางโรงพยาบาลบอกว่า ตอนมาส่งโรงพยาบาล มีกระเป๋าคาดเอวติดตัวมาด้วย ทางโรงพยาบาลจึงแจ้งญาติตามบัตรประชาชน ทางครอบครัวจึงแจ้งไปยังนายจ้างที่ทำงานให้ช่วยมาเป็นธุระจัดการศพและส่งศพมาถึง จ.ยะลา ในเวลา 15.30 น. ของวันที่ 15 ก.ค. และทำการฝังศพเป็นที่เรียบร้อย เพราะนับถือศาสนาอิสลาม
ประเด็นที่ครอบครัวเกิดความสงสัยคือ ในใบรับรองการเสียชีวิต ระบุว่า เสียชีวิตเพราะมะเร็งในเม็ดเลือดขาว ทั้งที่ลูกชายไม่เคยมีประวัติการป่วยหรือรับการรักษาใดๆ และทางครอบครัวไม่เคยรู้เรื่องว่าลูกชายป่วยด้วยโรคนี้ จึงไม่ปักใจเชื่อว่าลูกชายเสียชีวิตด้วยสาเหตุนี้ แต่สงสัยว่าอาจจะถูกทำร้ายร่างกายจากแฟนหนุ่ม
นอกจากนี้ เพื่อนสนิทของลูกชายยังยืนยันว่า วันเกิดเหตุลูกชายยังขับขี่รถจักรยานยนต์จากกรุงเทพไปที่ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี เพื่อไปหาแฟนหนุ่ม ซึ่งเป็นชายวัยรุ่น อายุ 19 – 20 ปี เป็นนักมวยของโรงเรียนกีฬาใน จ.ยะลา ที่ได้คบหากันมาตั้งแต่อยู่ที่ จ.ยะลา ซึ่งแฟนหนุ่มคนนี้เคยมีประวัติทำร้ายร่างกายลูกชายมาตลอด จนกระทั่งครอบครัวต้องเข้าไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองยะลา เมื่อปี 64 แต่แฟนหนุ่มของลูกชายได้มาเคลียร์และขอร้องจนยอมถอนแจ้งความ
แม่ที่เพิ่งสูญเสียลูกชายอย่างเป็นปริศนา ยังเล่าด้วยว่า หลังจากที่รับศพลูกชายกลับมา มีทรัพย์สินของลูกชายหลายไปรายการ ทั้งรถจักรยานยนต์ โทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง และบัตร ATM ทางครอบครัวไม่รู้จะทำอย่างไร จึงได้มาร้องเรียนกับบ้านบุญเต็ม เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับลูกชายจากกรณีที่เกิดขึ้น
นางบุษยมาส อิศดุลย์ ประธานบ้านบุญเต็ม กล่าวว่า หลังจากทราบเรื่องได้ประสานหลายฝ่ายเพื่อขอความช่วยเหลือแฃะหาความเป็นธรรมให้ทางครอบครัว ทั้งตำรวจและนายอำเภอ ตอนนี้ทางครอบครัวยังไม่ได้เข้าไปแจ้งขอออกใบมรณบัตร เพราะไม่เชื่อว่าลูกเสียชีวิตด้วยสาเหตุตามที่แพทย์ของโรงพยาบาลราชบุรีระบุเอาไว้ หรือจนกว่าจะทราบเหตุผลที่แท้จริง
โดยวันพรุ่งนี้จะพาแม่ของผู้เสียชีวิตเข้าร้องต่อศูนย์ดำรงธรรม อ.เมือง จ.ยะลา ได้ประสานนายอำเภอไว้ด้วย จากนั้นจะไปแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งได้ประสานหัวหน้าพนักงานสอบสวนไว้เรียบร้อยแล้ว และจะให้แม่ไปติดต่อธนาคารกสิกรไทย เพื่อระงับบัญชี และขอความร่วมมือเช็คยอดเงินในบัตรต่อไป
ประธานบ้านบุญเต็ม กล่าวด้วยว่า ยังมีเพื่อนๆ และกลุ่ม LGBT อีกหลายคนที่เรียกร้องขอให้ช่วยและหาความเป็นธรรมให้ผู้เสียชีวิตและครอบครัว เพราะสงสัยว่าแฟนหนุ่มของผู้ตายน่าจะมีพฤติกรรมคบซ้อนหลายคนเพื่อหลอกเอาเงิน โดยเพื่อนในกลุ่ม LGBT ที่ติดตามเรื่องนี้ในโซเซียลมีเดีย ต่างให้กำลังใจครอบครัวของน้องอรรถพล ซึ่งปกติบ้านบุญเต็ม จะคอยดูแลน้องๆ กลุ่ม LGBT ในสามจังหวัดอยู่แล้ว จะคอยส่งข่าวสารต่างๆ ในแชทกลุ่มตลอดมา
สำหรับ “บ้านบุญเต็ม” หรือ “กลุ่มเยาวชนบ้านบุญเต็ม” เป็นองค์กรภาคประชาสังคมที่ทำหน้าที่ดูแลเยาวชนในพื้นที่จังหว้ดชายแดนภาคใต้ โดยเน้นกลุ่มที่มีปัญหาครอบครัว ถูกดำเนินคดี หรือได้รับความเดือดร้อนอื่นๆ