เจ้าหน้าที่ขยายผลจาก 1 ใน 8 สมาชิกพูโลที่มอบตัวจากเหตุปะทะที่ อ.รามัน จ.ยะลา 8 ก.ค. ยึดวัตถุระเบิด พร้อมอุปกรณ์ประกอบระเบิดหลายรายการ คาสวนยางพาราในพื้นที่ ฮือฮาเจอท่อเหล็กส่งจรวด คาดเตรียมทำ “จรวดแสวงเครื่อง” ซ้ำรอยปี 59
ความคืบหน้าหลังจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเปิดปฏิบัติการปิดล้อม ตรวจค้น ยิงปะทะกับกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ อ.รามัน จ.ยะลา จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และยอมมอบตัวกับเจ้าหน้าที่จำนวน 8 ราย เมื่อวันที่ 8 ก.ค.65 ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวผู้ก่อเหตุรุนแรงทั้ง 8 ราย เข้ากระบวนการซักถาม เพื่อขยายผลนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 12.00 น. วันพุธที่ 12 ก.ค.65 เจ้าหน้าที่ศูนย์ซักถาม หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 ได้ข้อมูลจากการซักถามขยายผล นายมือลี ฮะมะ อายุ 37 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านปูลาสะนอ หมู่ 3 ต.จะกว๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา ซึ่งรับว่าตัวเองเป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการ ขบวนการพูโล G5 และเป็น 1 ใน 8 ผู้ต้องสงสัยที่ยอมมอบตัว
จากการซักถามขยายผล ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดวัตถุระเบิด ซึ่งถูกซุกซ่อนอยู่ในสวนยางพารา ในพื้นที่ บ้านกูแบกือโร๊ะ หมู่ 6 ต.จะกว๊ะ อ.รามัน ได้หลายรายการ ประกอบด้วย
1.ระเบิดแสวงเครื่อง (ประกอบใส่ท่อซีเมนต์) จำนวน 7 ลูก
2.อุปกรณ์ประกอบระเบิดซุกซ่อนอยู่ในถังน้ำ สีดำ
3.สารประกอบระเบิดแสวงเครื่อง เพนโตไลท์, โซเดียมคลอเรท, โปรแตสเซียมไนเตรท
4.ท่อเหล็กดัดแปลงใช้สำหรับเป็นท่อส่งจรวด 20 แท่ง
5.ถังแก๊สขนาดบรรจุ 4 กิโลกรัม จำนวน 2 ถัง
@@ ย้อนปูม “จรวดแสวงเครื่อง” เคยโผล่ปี 59 ฝีมือพูโล
สำหรับท่อเหล็กดัดแปลงที่ถูกพบ มีการโยงไปถึงยุทโธปกรณ์ที่เชื่อกันว่าเป็น “จรวดแสวงเครื่อง” หรือ จรวดที่ประดิษฐ์เองจากอุปกรณ์ที่มีใช้ในท้องถิ่น ซึ่งเคยพบมาครั้งหนึ่งแล้วเมื่อช่วงต้นปี 2559
เมื่อวันที่ 28 ม.ค.59 เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบบริเวณคูน้ำกลางถนน ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 43 หาดใหญ่-ปัตตานี ท้องที่หมู่ 6 ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี พบวัตถุต้องสงสัย 2 ชิ้น เป็นท่อเหล็กขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2.5 นิ้ว ยาวประมาณ 120 เซนติเมตร ปลายแหลมมน ลักษณะคล้ายหัวจรวด วางอยู่บนกระเบื้องหลังคาที่พาดเอียงกับแนวลาดของคูน้ำกลางถนน ตรวจสอบแล้วเป็นวัตถุระเบิดที่สามารถระเบิดได้ มีระบบจุดระเบิดด้วยวิทยุสื่อสาร ระยะรับส่ง 3-5 กิโลเมตร โดยวัตถุต้องสงสัยนี้ เดิมมีอยู่ 5 ลูก เกิดระเบิดไปแล้วจำนวน 3 ลูก
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อีโอดี ให้ข้อมูลว่า วัตถุต้องสงสัยนี้เป็นระเบิดอย่างแน่นอน และลักษณะของหัวระเบิดคล้ายจรวดนี้ เพิ่งพบเป็นครั้งแรกในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ในขณะนั้น ปี 2559) เชื่อว่าระเบิดถูกประกอบขึ้นเป็นหัวจรวดเพื่อยิงหวังผลในระยะไกล และจากลักษณะของกระเบื้องมุงหลังคาที่พบ คาดว่า คนร้ายวางไว้เป็นฐานประกอบกับระเบิด สำหรับยิงไปข้างหน้า คล้ายการทำงานของบั้งไฟ
ผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิด ให้ข้อมูลในช่วงนั้นว่า จากการตรวจสอบได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่า เป็นจรวดแสวงเครื่อง (improvised rocket ) มีหลักการเดียวกับหัวจรวดที่ใช้ยิงเพื่อทำลายเป้าหมาย เป็นหัวจรวดที่ประกอบขึ้นเองในพื้นที่ แต่จากการทดลองยิง 2 ลูกแรก ไม่ประสบความสำเร็จ คือมีระเบิดดังขึ้น แต่ตัวจรวดอาจไม่พุ่งไปตามเป้าหมาย จึงยกเลิกการทดสอบ และทิ้งของกลางไว้จนมีคนไปพบก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่
ผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิด บอกด้วยว่า จรวดแสวงเครื่องลักษณะนี้ มีพบในต่างประเทศ โดยเฉพาะในแถบตะวันออกกลาง ใช้กันแพร่หลายในกลุ่มผู้ก่อการร้าย ซึ่งรูปแบบก็จะเปลี่ยนไปตามวัสดุหรือการดัดแปลงของผู้ประกอบจรวด ไม่มีรูปแบบที่ตายตัว บางกรณีที่พบมีการดัดแปลงใช้ถังแก๊สเป็นส่วนของหัวระเบิดก็มี เชื่อว่าคนร้ายน่าจะไปดูแบบจากต่างประเทศ แล้วนำมาทดลองประกอบ
มีรายงานว่า แนวคิดการประกอบและทดสอบ “จรวดแสวงเครื่อง” เป็นของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ขบวนการพูโล เพราะที่ตัวจรวดมีสติ๊กเกอร์แปะเอาไว้ว่า NAMPRA ARMY ซึ่งย่อมาจาก “กองทัพกู้ชาติมลายูปาตานี” ในภาษามาเลย์ ซึ่งภายหลังแกนนำพูโลก็ออกมายอมรับว่าเป็นเจ้าของจรวดแสวงเครื่องที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบ
ส่วนอุปกรณ์ประกอบระเบิด โดยเฉพาะท่อเหล็กคล้ายท่อส่งจรวดที่พบในวันนี้ ที่ อ.รามัน จ.ยะลา ในวันนี้ (12 ก.ค.65) จะเป็น “จรวดแสวงเครื่อง” ด้วยหรือไม่ เพราะเกี่ยวโยงกับสมาชิกขบวนการพูโลเหมือนกัน และจรวดชนิดนี้จะกลายเป็นยุทโธปกรณ์ใหม่ของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ชายแดนใต้ด้วยหรือเปล่า เป็นประเด็นที่ต้องติดตามกันต่อไป