กระแสคัดค้านนโยบาย “กัญชาเสรี” บานปลายในกลุ่มพี่น้องมุสลิม และประชาคมในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ล่าสุดองค์กรมุสลิม 25 องค์กร รวมตัวกันตั้งเครือข่ายเตรียมเตรียมเคลื่อนไหวใหญ่ เพื่อรณรงค์คว่ำร่างกฎหมายที่เปิดช่องให้ใช้กัญชาได้อย่างเสรี
ที่ห้องประชุมมัสยิดบ้านเหนือ จ.สงขลา ภาคีเครือข่ายองค์กรมุสลิม 25 องค์กร ได้ร่วมประชุมกัน และมีมติจัดตั้ง “องค์กรเครือข่ายคัดค้านกฎหมายและระเบียบปฏิบัติที่ขัดกับหลักศีลธรรม” โดยมี ดร.วิสุทธิ์ บิลล่าเต๊ะ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานสำนักจุฬาราชมนตรี ประจำภาคใต้ เป็นประธาน และมี นายอุดร น้อยทับทิม อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เป็นรองประธาน
เป็นที่น่าสังเกตว่าการเคลื่อนไหวที่มี ดร.วิสุทธิ์ เข้ามาเกี่ยวข้องและมีบทบาทนำเช่นนี้ ถือว่ามีนัยถึง “สำนักจุฬาราชมนตรี” ซึ่งเป็นองค์กรสูงสุดของมุสลิมในประเทศไทย ว่ารับรู้รับทราบ และเห็นชอบกับท่าทีที่ปรากฏต่อสาธารณะด้วย
องค์กรเครือข่ายคัดค้านกฎหมายและระเบียบปฏิบัติที่ขัดกับหลักศีลธรรม เตรียมเคลื่อนไหวใหญ่เพื่อรณรงค์คว่ำร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ในวาระสองในทุกรูปแบบ โดยยึดแนวทางสันติวิธี และผ่านทุกช่องการสื่อสาร
นอกจากคัดค้านกฎหมายเสรีกัญชาแล้ว ทางองค์กรเครือข่ายฯ ยังจะเดินหน้าในการคัดค้านทุกกฎหมายและกฎระเบียบที่ขัดกับหลักจริยธรรม โดยเฉพาะหลักการอิสลาม เช่น ร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า, ร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม เป็นต้น
สำหรับองค์กรเครือข่ายฯที่เข้าร่วม ประกอบด้วย
1.ฝ่ายวิชาการ คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย
2.องค์กร “เพราะเราคือเรือนร่างเดียวกัน” (เป็นองค์กรที่ทำหน้าที่รับบริจาคช่วยผู้ยากไร้ ตกระกำลำบาก ของมุสลิม)
3.มัสยิดบ้านเหนือ
4.มูลนิธิซากาตและสาธารณกุศล
5.สมาคมนิสิตนักศึกษาไทยมุสลิม (ส.น.ท.)
6.สมาคมยุวมุสลิมแห่งประเทศไทย (ยมท.)
7.สมาคมจันทร์เสี้ยวการแพทย์และสาธารณสุข
8.สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยฟาฏอนี
9. ศูนย์ดะวะห์ตับลีช
10.กองทุนสวัสดิการบัยตุลมาล สตูล
11.กลุ่มวัยรุ่น เจ๊ะบิลัง
12.โรงเรียนทรัพรายีวิทยา
13.ผู้ช่วย ส.ส. ซูการ์โน มะทา ยะลา เขต 2
14.มัสยิดสามช่องใต้ จ.พังงา
15.โรงเรียนประทิปศาสตร์ บ้านตาล
16.สภาเครือข่ายช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม สำนักจุฬาราชมนตรี
17.สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช
18.มูลนิธิเพื่อการแพทย์และสาธารณกุศล
19.สมาคมสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนภาคใต้
20.มูลนิธิคนช่วยฅน
21.มูลนิธิศูนย์กลางอิสลามเพื่อการพัฒนายะลา
22.มูลนิธิวัฒนธรรมอิสลามภาคใต้ ยะลา
23.มูลนิธิเพื่อภราดรภาพ
24.สมาคมนักธุรกิจมุสลิมปัตตานี
25.สุนทร วงค์หมัดทอง หัวหน้าฝ่ายวิชาการ และกองทุนชะกาต มัสยิดมำบัง มัสยิดกลาง จ.สตูล
@@ เตือนอย่าโลกสวย! เด็ก-เยาวชนแห่ลองกัญชาแน่
ไม่ได้มีแต่องค์กรทางศาสนาที่ออกคัดค้าน แต่ผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับเด็กและเยาวชนก็ออกมาต้านเช่นกัน
บุษยมาส อิศดุลย์ ประธานกลุ่มบ้านบุญเต็ม ซึ่งดูแลเด็กและเยาวชนในจังหวัดยะลา บอกว่า มีข้อห่วงใยในประเด็น “กัญชาเสรี” ซึ่งปลดล็อกเรียบร้อยแล้ว เรียกกันว่า “ปล่อยผี” เพราะกฎหมายควบคุมยังไม่ออกมา ซึ่งยังไม่ทราบว่าภายใน 4 เดือนนี้ จะมีกฎหมายออกปกป้องเด็กและเยาวชนได้ทันหรือไม่ เพราะบางกระแสบอกว่า กฎหมายอาจต้องใช้เวลาถึง 12 เดือนหรือ 1 ปี
บุษยมาส เล่าว่า จากการพูดคุยกับผู้ปกครอง ครู และเด็กๆ ในพื้นที่ ทุกคนหนักใจเรื่องกัญชา เพราะถ้าไม่โลกสวย ทั้งครูและพ่อแม่ตามไม่ทันเด็กแน่นอน หากเด็กจะลองกัญชา เพราะทุกอย่างเสรีและไม่ผิดกฎหมาย
“หนักอกหนักใจพอสมควร โดยส่วนตัวแล้วเราอยู่กับเด็กที่มีคดีความ เด็กที่เป็นจำเลย ส่วนใหญ่ที่ก่อคดีก่อเหตุ เราเห็นในเรื่องของเด็กที่ใช้ยาเสพติดตลอดมา เริ่มตั้งแต่บุหรี่ แอลกอฮออล์ และยาเสพติดชนิดอื่นที่ผิดกฎมาย แล้วมาเพิ่มเรื่องของกัญชาเข้ามา และถูกกฎหมายด้วย ในช่วงของกัญชาเสรี ตอนนี้ผู้ปกครองทุกคนเป็นห่วง ไม่ทันเด็กแน่นอน โดยเฉพาะวัยรุ่น หรือเยาวชนที่อยู่ในวัยฮอร์โมน หรือเด็กที่อยู่ในช่วงฮอร์โมน ช่วง ม.1 อยากรู้อยากลอง ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ หนีไม่พ้นปัญหาตรงนี้แน่นอน และยิ่งไม่ผิดกฎหมาย ทำให้เขาสบายใจที่จะลอง” ประธานกลุ่มบ้านบุญเต็ม กล่าว
เช่นเดียวกับ ครูนุรฮัสหม๊ะ จันทร์เพ็ญ ครูศูนย์เด็กเล็ก วัดยะลาธรรมาราม ที่บอกว่า ในฐานะที่เป็นครู และเป็นแม่ของเด็กที่อยู่ในวัยอยากรู้อยากเห็นและอยากลอง เชื่อว่ายังมีแม่อีกหลายคนที่ลูกอยู่ในวัยนี้มีความกังวลและเป็นห่วงลูกมาก
“ด้วยสภาพแวดล้อมและสิ่งปลูกเร้าต่างๆ จะทำให้ลูกๆ และเด็กเยาวชนรุ่นนี้หลงทางไปใช้สารเสพติดชนิดนี้มากยิ่งขึ้น สิ่งสำคัญขอความร่วมมือกับผู้ปกครอง พ่อแม่ รวมถึงครู ต้องเป็นหูเป็นตาพูดคุยให้ข้อมูลถึงโทษของสารเสพติด ให้เยาวชนได้เข้าใจมากขึ้น ฝากถึงหน่วยงานต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอยากให้เข้ามาดูแลเด็กๆ และเยาวชนรุ่นนี้มากขึ้น”
@@ ร้านน้ำชาชายแดนใต้ไม่ใส่กัญชาแม้ขายดีขึ้น
“ทีมข่าวอิศรา” ได้ลงพื้นที่สำรวจร้านค้า ทั้งร้านก้วยเตี๋ยว ร้านน้ำชา ในอำเภอเมืองปัตตานี ที่เด็กนักเรียนและเยาวชนนิยมไปรวมตัวนั่งชิลล์กัน
จากการสอบถามทั้งเด็กๆ เยาวชน และลูกค้าในร้าน ส่วนใหญ่พูดตรงกันว่า แม้กัญชาจะถูกกฎหมาย แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะ “ฮาลาล” (ได้รับอนุมัติทางศาสนา) แม้จะมีคนอิสลามในพื้นที่ทำให้ถูกกฎหมายก็ตาม
เจ้าของร้านสาหมัด คอฟฟี่ บอกว่า กัญชาเสรี เป็นสิ่งที่ “ฮารอม” (ต้องห้าม) ไม่ฮาลาล ฉะนั้นตนจะไม่นำมาปรุงอาหาร หรือผสมในเครื่องดื่มขายอย่างแน่นอน แม้จะสามารถขายน้ำชาได้มากกว่าปกติ ก็จะไม่ยอมนำกัญชามาผสม เพราะเป็นห่วงลูกหลานเยาวชน เมื่อก่อนตอนผิดกฎหมายก็หาง่ายอยู่แล้ว ยิ่งเปิดเสรียิ่งหาง่ายยิ่งขึ้น ทำให้กัญชายิ่งใกล้ชิดถึงลูกหลานของเรามากขึ้น เปิดโอกาสให้เข้าไปในโรงเรียนได้มากขึ้น
จากการสอบถามนักเรียนในพื้นที่ชายแดนใต้ ได้ข้อมูลว่า เด็กๆ และเยาวชนตื่นเต้นกันมากกับนโยบาย “กัญชาเสรี” ยิ่งสื่อประโคมข่าว ยิ่งอยากรู้อยากลอง และชักชวนกันหามาลอง เพื่อให้ไม่ตกกระแส ซึ่งถือเป็นความเคลื่อนไหวที่น่าวิตกมาก
@@ ประธานอิสลามยะลาขอบคุณ ส.ส.ไม่รับกัญชาเสรี
อีกด้านหนึ่ง สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา เผยแพร่เอกสารแถลงการณ์ ซึ่งเป็นข้อเขียนของประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา
เนื้อหาระบุว่า ขอความสันติมีแด่ทุกท่าน ข้าพเจ้าฮัจยี อิสมาแอ ฮารี ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา ขอขอบพระคุณต่อผู้แทนราษฎรประเทศไทยที่ไม่สนับสนุนการพิจารณากฎหมายให้ยาเสพติด (กัญชา) เป็นที่อนุญาต เนื่องจากเป็นอันตรายต่อสังคมและโลก ข้าพเจ้าในนามคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลาขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง