คดีการเสียชีวิตของ “แตงโม นิดา” กลายเป็นประเด็นที่ถูกสร้างกระแสจากคนบางกลุ่มให้เป็นการ “เรียกร้องความเป็นธรรม”
และกลายเป็นอีกหนึ่งคดีที่ตำรวจกลายสภาพเป็น “จำเลย” ของสังคม
หลายคนหมกมุ่นกับข่าวสารล้นทะลักจนเกิดความเครียด บางคนถึงขั้นโทรศัพท์ด่าทอตำรวจ ตำหนิวิจารณ์พฤติกรรมของแม่คนตาย ในบรรยากาศที่ไม่รู้ชัดว่าข้อมูลข่าวสารที่ล้นทะลัก ข่าวไหนเรื่องจริง ข่าวไหนเรื่องเท็จ และข่าวไหนเป็นแค่ความเห็นปนอคติ
คดีนี้จึงเป็นอีกหนึ่งบทเรียนของสังคมไทยที่ต้องร่วมกันเรียนรู้ต่อไป เพราะหลายเรื่องก็ต้องตั้งคำถามกลับว่า...เกินไปหรือไม่
พันธ์ศักด์ อาภาขจร ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการสื่อสาร เขียนบทความสะท้อนปรากฏการณ์แตงโม ที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องไม่อาจปฏิเสธได้...
@@ คำถามถึงสื่อกระแสหลัก-สื่อโซเชียลฯ
“นับตั้งแต่การเสียชีวิตของคุณแตงโมดาราสาวชื่อดังเมื่อเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมาด้วยความมีเงื่อนงำ สื่อทุกแขนงต่างเสนอข่าวของคุณแตงโมอย่างเข้มข้น จนยึดพื้นที่ข่าวอื่นๆ ไปอย่างเบ็ดเสร็จ จนทำให้เกิดคำถามว่าเป็นการนำเสนอข่าวที่มากจนเกินควรจนกลายเป็นการผูกขาดของข่าวชิ้นเดียวที่ทำให้ผู้บริโภคข่าวมีทางเลือกในการบริโภคข่าวน้อยลงหรือไม่
นอกจากนี้เนื้อหาที่มีการนำเสนอจำนวนไม่น้อยมีลักษณะเชิงชี้นำ ขุดคุ้ย และคาดคั้น จนทำให้เกิดคำถามถึงความเหมาะสมต่อการทำหน้าที่ของสื่อด้วยเช่นกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งข่าวที่มาจากสื่อโซเชียลฯ ซึ่งมีที่มาจากหลายแหล่งนั้น มีความหลากหลายทั้งแนวการให้ข้อสังเกตทั่วไป และการสืบสวนในเชิงลึกได้ถูกนำมาขยายต่อจนสร้างความสับสนต่อผู้รับข่าวสารอยู่ไม่น้อย ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าวัตถุประสงค์ของการนำเสนอข้อมูลในลักษณะดังกล่าวคือการเรียกความสนใจเพื่อจำนวนยอดไลค์ ยอดแชร์แต่เพียงอย่างเดียวโดยมิได้คำนึงถึงปัจจัยอื่นที่อาจมีผลกระทบต่อรูปคดี และซ้ำเติมความสูญเสียแก่ครอบครัวคุณแตงโมหรือไม่
@@ พลังของการกระพือข่าว กับ “ความเห็นปนอคติ”
ปรากฏการณ์การล้นทะลักของข้อมูลข่าวสารตลอดระยะเวลาหลายวันที่ผ่านมา นับเป็นปรากฏการณ์ที่พบเห็นได้ไม่บ่อยนักในอดีต แต่สามารถพบเห็นได้บ่อยครั้งในโลกที่มีสื่อโซเชียลฯเป็นเครื่องมือให้ทุกคนได้แสดงความเห็นอย่างแทบจะไม่มีขีดจำกัดจากพลังของการกระพือข่าวสาร (Amplification power) ด้วยอัลกอริทึมของโซเชียลมีเดีย ทุกคนจึงมีโอกาสแข่งกันนำเสนอสิ่งที่ตัวเองอยากให้ผู้อื่นได้รับรู้ รวมทั้งต้องการแสดงภูมิรู้เพื่อเป็นเบาะแสนำไปสู่การคลี่คลายเงื่อนงำการเสียชีวิตของคุณแตงโม
ในเวลาเดียวกันบุคคลที่มีชื่อเสียงมากหน้าหลายตาต่างเรียงหน้าออกมาให้ข่าวเพียงเพื่อจะแสดงตัวเองว่าตนเองเป็นคนวงในที่รู้เรื่องดีกว่าใครๆ เพื่อให้อยู่ในกระแสข่าว หรือแม้กระทั่งมีบางคนที่ดูเหมือนว่าแทบจะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ในคดี ยังสามารถกล้าออกมาฟันธงล่วงหน้าว่า กรณีนี้คือการฆาตกรรม
สังคมข่าวสารของคนไทยในระหว่างการสืบสวนคดีของแตงโมจึงเต็มไปด้วยข้อมูลที่ค่อนข้างอ่อนไหว สับสน และเต็มไปด้วย “ความเห็นปนอคติ” หลั่งไหลออกมาอย่างไม่หยุดหย่อน จนอาจพูดได้ว่าสังคมไทยอยู่ในภาวะของความสับสนของข้อมูล (Information disorder) และกระตุ้นให้ผู้คนกระหายที่จะเสพข้อมูลข่าวแตงโมอยู่แทบตลอดเวลา จนทำให้ระบบนิเวศของการสื่อสารเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ข้อมูลที่มีการนำเสนอผ่านสื่อกระแสหลักและสื่อโซเชียลมีเดียจึงมีอิทธิพลต่อการรับรู้ของผู้คนเป็นอย่างยิ่ง และยังแสดงให้เห็นว่ากำแพงระหว่างสื่อหลักกับโซเชียลมีเดียได้ถูกทำลายลงไปแล้วอย่างสิ้นเชิง อันเป็นผลมาจากอิทธิพลของเทคโนโลยีดิจิทัลนั่นเอง
@@ 18 สิ่งที่เห็นจากการสูญเสียแตงโม
ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสรุปผลปิดคดี อย่างน้อยที่สุดคนไทยได้เห็นเหตุการณ์ ข่าวสาร อารมณ์ และความรู้สึกของผู้คนที่สะท้อนผ่านสื่อทุกแขนงในหลายต่อหลายแง่มุม เป็นต้นว่า
1.คนไทยได้เห็นความรัก ความสงสาร ที่ผู้คนในวงการบันเทิงและคนทั่วไปได้มอบให้กับคุณแตงโมอย่างมากมายจนคาดไม่ถึง
2.คนไทยได้เห็นถึงความทุ่มเทและความร่วมมือร่วมใจของผู้คน อาสาสมัคร นักข่าว เจ้าหน้าที่ ฯลฯ ในการค้นหาร่างของคุณแตงโม รวมไปถึงการจำลองเหตุการณ์ และใช้เครื่องไม้เครื่องมือในการค้นหาหลักฐานการเสียชีวิตอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
3.คนไทยได้เห็นพลังของสื่อที่ทำงานสอดประสานกันระหว่างสื่อกระแสหลักกับโซเชียลมีเดีย จนทำให้ข่าวการเสียชีวิตของคุณแตงโมแพร่กระจายอย่างรวดเร็วและกว้างขวางจนยากที่จะหยุดได้
4.คนไทยได้เห็นความสนใจของผู้คนต่อข่าวคุณแตงโมแทบทุกหย่อมหญ้าจนกลบข่าวสำคัญๆ อื่นๆ จนหมดสิ้น และน่าจะเป็นข่าวเดียวที่มีการนำเสนอมากที่สุดในทุกสื่อตลอดช่วงเวลากว่าสิบวันหลังจากการสูญหายของคุณแตงโมและพบว่าเสียชีวิตในเวลาต่อมา
@@ นักสืบโซเชียลฯ ไร้พรมแดน
5.คนไทยได้เห็นการทำหน้าที่อย่างแข็งขันของนักสืบโซเชียลที่ทำหน้าที่ช่วยคลี่คลายคดีจนทำให้หลายต่อหลายครั้งเกินหน้าการสืบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ข้อมูลจากนักสืบโซเชียลจำนวนไม่น้อยเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีในหลายแง่มุม แต่ในขณะเดียวกันก็สร้างความสับสนต่อผู้รับข่าวสารอยู่ไม่น้อย
ไม่ใช่แต่คนไทยเท่านั้นที่ทำหน้าที่สืบสวนคดีคุณแตงโม แม้แต่นักสืบโซเชียลจากเวียดนามยังเข้ามามีบทบาทต่อการสืบสวนหาความจริงในคดีนี้ด้วย พิสูจน์ให้เห็นถึงความไร้พรมแดนของโลกดิจิทัลและความสนใจในข่าวของคุณแตงโมที่ดังไปไกลถึงต่างแดน
6.คนไทยได้เห็นถึงเทคนิคการเผยแพร่ข่าวสารและข้อมูลต่างๆ ผ่านโซเชียลมีเดีย ซึ่งหลายครั้งล่อแหลมต่อการละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้เสียชีวิตและบุคคลอื่นที่อาจเกี่ยวข้องในคดี และหากข้อมูลนั้นเป็นข้อมูลเท็จก็อาจมีความผิด ถูกดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย
@@ ชี้นิ้วพิพากษา - มลพิษทางข้อมูลข่าวสาร
7.คนไทยได้เห็นถึงพลังของเสียงตะโกนจากโลกโซเชียลที่ชี้นิ้วพิพากษาหรือประณามใครบางคนทั้งด้วยความตั้งใจและไม่ตั้งใจ ทั้งๆ ที่ข้อเท็จจริงและข้อสรุปจากเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้ข้อยุติ และบุคคลเหล่านั้นไม่อยู่ในสภาวะที่สามารถจะตอบโต้หรือชี้แจงได้
8.ในระหว่างการสืบสวนคดีการเสียชีวิตของคุณแตงโม คนไทยได้เสพทั้งข่าวจริงและข่าวสารที่เป็นมลพิษ ประเภท ข้อมูลเท็จ (Misinformation) ข้อมูลบิดเบือน (Disinformation) และข้อมูลที่เป็นพิษภัยต่อผู้อื่น (Malinformation) อย่างครบถ้วน
@@ หิวแสง - ล่าแสง - ดัชนีวัดระดับอารยะออนไลน์
9.คนไทยได้เห็นพฤติกรรมหิวแสงของบุคคล กลุ่มคน รวมทั้งนักการเมืองซึ่งเป็นที่รู้จักในสังคม ต่างเรียงหน้าออกมาให้ข้อมูลในเชิงลึกในการสูญเสียของคุณแตงโม ราวกับเป็นเป็นพนักงานสอบสวนหรือเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์จริงเสียเอง
10.คนไทยได้เห็นถึงการลากเอาบุคคลต่างๆ มากมายทั้งบุคคลในเครื่องแบบ นักการเมือง ดารา ฯลฯ เข้ามาสู่คดีคุณแตงโม จนกระทั่งเกิดการตอบโต้กันอย่างดุเดือด และถึงขั้นจะฟ้องร้องดำเนินคดีต่อกัน
11.คนไทยได้เห็นถึงพฤติกรรมการขุดคุ้ยถึงภูมิหลังของตัวแตงโมเอง รวมทั้งครอบครัวและญาติใกล้ชิด และเผยแพร่ผ่านโซเชียลมีเดีย โดยไม่ได้คำนึงถึงความเหมาะสมและความเสียหายต่อผู้ที่ถูกขุดคุ้ยอดีต ทั้งที่บางเรื่องไม่ควรนำมาเปิดเผยต่อสาธารณะ
12.คนไทยได้สัมผัสถึงระดับของอารยะบนโลกออนไลน์ของผู้ที่ใช้โซเชียลมีเดียในการสร้างกระแสข่าวเพื่อเรียกร้องความสนใจจากผู้คน โดยลืมคำนึงถึงมารยาทและความเหมาะสมของการใช้โซเชียลมีเดีย
13.คนไทยรู้สึกได้ถึงการล้ำเส้นจากการนำเสนอข้อมูลของสื่อโซเชียลที่เกินขอบเขตและก้าวข้ามเส้นแห่งความเกรงใจ จนนำไปสู่พฤติกรรมที่เรียกกันว่า การสูญเสียความยับยั้งชั่งใจบนโลกออนไลน์ (Online disinhibition)
@@ ความจริงถูกบดบัง - ดราม่าพังทะลุออนไลน์
14.คนไทยได้เห็นปรากฏการณ์ความจริงที่ถูกบดบังหรือ ที่เรียกว่า Post truth ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ความจริงมีอิทธิพลน้อยกว่าการดึงดูดความสนใจทางอารมณ์และความเชื่อส่วนบุคคล อันเป็นผลมาจากการแพร่กระจายของข่าวสารผ่านโซเชียลมีเดีย
15.คนไทยได้เห็นดราม่าเกิดขึ้นตลอดเวลาบนโลกออนไลน์ ซึ่งหลายต่อหลายเรื่องไม่น่าเชื่อว่าจะมีผู้คนกล้านำเสนอสู่สาธารณะ จนกลายเป็นประเด็นให้ผู้คนได้ถกเถียงและถูกหยิบมาเป็นข่าวอยู่เสมอ และหลายเรื่องออกไปในแนวทรงเจ้าเข้าผีและเชิงไสยศาสตร์
16.คนไทยได้เห็นความไม่ลงรอยกันระหว่างการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจกับการสืบหาความจริงของนับสืบโซเชียลที่เป็นประเด็นขัดแย้งกันจนทำให้พื้นที่สื่อร้อนระอุอยู่ตลอดเวลา
@@ โลกออนไลน์ไร้ความเป็นส่วนตัว
17.แม้ว่าคุณแตงโมได้เสียชีวิตไปแล้ว แต่ร่องรอยทางดิจิทัลที่เธอเคยฝากไว้บนสื่อโซเชียลยังคงอยู่ และถูกนำมาเปิดเผยแทบจะหมดเปลือกโดยบุคคลซึ่งไม่ใช่เจ้าพนักงานสวบสวน ซึ่งนอกจะอ่อนไหวต่อการละเมิดสิทธิส่วนตัวของผู้ตายแล้ว ยังแสดงให้เห็นว่าโลกออนไลน์ไม่มีวันเป็นโลกที่เป็นส่วนตัว และร่องรอยดิจิทัลของเธอบนสื่อโซเชียลยังคงอยู่ตลอดไป แม้ว่าเธอจะจากโลกนี้ไปแล้วก็ตาม
18.คนไทยได้เห็นถึงตัวละครที่ขยายวงออกไปเรื่อยๆ นับตั้งแต่คุณแตงโมกับกลุ่มคนในเรือ ครอบครัวและญาติพี่น้อง เพื่อนสนิทและบุคคลในวงการบันเทิง กลุ่มนักล่าแสง นักการเมืองที่ถูกอ้างชื่อย่อบางคน จนกระทั่งถึงตัวละครที่เป็นกลุ่มทนายความความ เป็นดราม่าที่เกิดขึ้นตลอดเวลาในคนทุกกลุ่ม จนทำให้การนำเสนอข่าวของสื่อห่างไกลจากคดีคุณแตงโมออกไปทุกที กลายเป็นการขุดคุ้ยเรื่องส่วนตัวในอดีตของบุคคลออกมาแฉกันอย่างสนุกปาก จนทำให้เกิดคำถามว่าสังคมจะได้ประโยชน์อะไรจากการนำเสนอข่าวของสื่อในลักษณะนี้
@@ ดึงสติจาก “พอลลูชั่นของข้อมูล”
ไม่ว่าสาเหตุการเสียชีวิตของคุณแตงโมจะออกมาในแง่มุมใดก็ตาม การสูญเสียในครั้งนี้ได้ให้บทเรียนครั้งสำคัญต่อสังคมไทยในแง่ของการมีสติในการรับข่าวสารจากการนำเสนอข่าวสารและข้อมูลจากสื่อทุกประเภทที่ไร้ทิศทางจนทำให้ระบบนิเวศของสื่อถูกกระทบอย่างรุนแรงจาก “พอลลูชั่นของข้อมูล”
สื่อกระแสหลักจึงควรมีบทบาทต่อการนำข่าวสารในสังคมให้หลุดพ้นจากวงจรมลพิษของข้อมูลทั้งปวงให้กลับมาอยู่ในสภาพปกติ และที่สำคัญคือสื่อกระแสหลักต้องไม่เป็นแหล่งแพร่ข้อมูลที่เป็นพอลลูชั่นเสียเอง