“ทวี สอดส่อง” นำทัพ ส.ส.ประชาชาติ ลงพื้นที่เยี่ยมประชาชนพร้อมช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยนราธิวาส หลังเผชิญน้ำท่วมใหญ่ มีผู้สูญเสียหลายราย พร้อมเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ชายแดนใต้ผ่านการรับฟังเสียงคนพื้นที่
สถานการณ์อุทกภัยในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เพิ่งคลี่คลายลงในหลายพื้นที่ ทำให้ภาคส่วนต่างๆ ทั้งรัฐและเอกชนพากันลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือฟื้นฟู และบรรเทาผลกระทบจากน้ำท่วมครั้งใหญ่ซึ่งสร้างความเสียหายไม่น้อย ทั้งชีวิตและทรัพย์สิน
วันพฤหัสบดีที่ 3 มี.ค.65 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ พร้อมด้วย นายอับดุลอายี สาแม็ง ส.ส.เขต 3 ยะลา นายสมมุติ เบ็ญจลักษณ์ ส.ส.เขต 4 ปัตตานี นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ส.ส.เขต 4 นราธิวาส และคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประสบภัยใน จ.นราธิวาส พร้อมหารือแนวทางช่วยเหลือฟื้นฟูทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหาย
คณะของ พ.ต.อ.ทวี เดินทางไปเยี่ยมชาวประมงที่เรือประมงถูกน้ำซัด ที่หาดเสด็จ ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ จากนั้นเดินทางต่อไปเยี่ยมผู้ประสบภัยที่น้ำเพิ่งลด ที่บ้านปูโป๊ะ ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก มีชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 100 คน และเยี่ยมศูนย์พักพิงชั่วคราวผู้ประสบภัยน้ำท่วม มีผู้อพยพประมาณ 150 คน ที่โรงเรียนดารุลฟุรกอน ต.มูโนะ
จากนั้นในช่วงเย็นได้เดินทางไปเยี่ยมศูนย์พักพิงชั่วคราวผู้ประสบภัยน้ำท่วม ซึ่งมีผู้ประสบภัยถึง 600 คน ที่โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ ต.โล๊ะจูด อ.แว้ง และเยี่ยมครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วม ที่ ต.สากอ อ.สุไหงปาดี
สำหรับภารกิจของ ส.ส.พรรคประชาชาติ ยังไม่จบ โดยในวันศุกร์ที่ 4 มี.ค. จะไปเยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่วัดลำภู อ.เมือง จ.นราธิวาส และในพื้นที่ จ.ยะลา กับ จ.ปัตตานี ด้วย
@@ ความเดือดร้อนชาวประมงโยงมาตรการรัฐไม่เป็นธรรม
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า คณะของพรรคประชาชาติได้ไปเยี่ยมให้กำลังใจและหาแนวทางช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในสามจังหวัด โดยเริ่มต้นที่ จ.นราธิวาส ก่อน เป็นจุดที่เกิดความสูญเสียมากที่สุด
“อย่างเรือประมงที่ออกหาปลาโดนพายุซัด เกิดการเสียชีวิตและเรือจม 2-3 ลำ ต้องทำการกู้ โดยต้องขอความช่วยเหลือจากกองทัพเรือให้มาช่วยเหลือในการค้นหา สิ่งสำคัญของอาชีพประมง เกิดชะตากรรมที่ไม่ใช่ชะตากรรมของความขยัน แต่เป็นชะตากรรมที่รัฐกำหนดให้ ที่รัฐมาจัดระเบียบการประมง ทำให้ชาวประมงถูกใช้ระเบียบที่ไม่เป็นธรรม ใช้กฎหมายที่อยู่เหนือกว่าเป็นธรรม จึงทำให้ประมงพาณิชย์ ประมงชายฝั่ง และประมงพื้นบ้านได้รับผลกระทบอย่างทั่วถึง”
“แม้รัฐจะปรับเพดานลง แต่กฎหมายยังอยู่ ซึ่งพรรคการเมืองทุกฝ่ายกำลังนำเสนอแก้ไขกัน ในส่วนของพรรคประชาชาตินำร่างกฎหมายที่แก้แล้วให้ประชาชนดูว่าความสมดุลระหว่างประมงพื้นบ้าน กับประมงพาณิชย์ มีความยุติธรรมกับทุกคน ทุกกลุ่มหรือไม่”
@@ จี้รัฐกระจายอำนาจ ให้ท้องถิ่นยืนได้ด้วยตัวเอง
เลขาธิการพรรคประชาชาติ บอกด้วยว่า จังหวัดชายแดนภาคใต้มีต้นทุนที่ยิ่งใหญ่มาก คือเป็นจังหวัดชายแดน ฉะนั้นต้องพัฒนาให้เหนือกว่าประเทศเพื่อนบ้าน แต่ในช่วงหลังรัฐบาลหลงลืม โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ และในช่วงประสบอุทกภัย ยิ่งทำให้เห็นปัญหา
“ผมอยากจะวิงวอนรัฐบาล เมื่อเราประสบกับโรคระบาดโควิด-19 และอุทกภัยต่างๆ สิ่งที่รัฐบาลจะทำได้คือการเข้ามาช่วยเหลือเยียวยาและเข้ามาฟื้นฟูให้ประชาชนมีคุณภาพที่ดี ยืนอยู่ได้ พร้อมส่งเสริมเปิดโอกาสให้คนในพื้นที่ได้ทำมาหากิน หากชาวบ้านคิดจะทำอะไรอยู่แล้วก็ควรส่งเสริมขยายอำนาจให้เขา ไม่ควรจะขยายอำนาจรัฐมาครอบงำจนไม่สามารถจะทำอะไรได้เลย”
“นายกเคยพูดว่า ถ้ามีปัญหาไม่ต้องไปบอกกับนายกฯ แต่ให้บอกกับข้าราชการ อันนี้เป็นความคิดที่ผิด ถ้าหากมีปัญหาควรให้ชุมชนท้องถิ่นเขายืนได้ด้วยตัวเอง ช่วยเหลือตัวเองได้ ไม่ใช่รัฐเข้าไปเอาอำนาจ เอาทรัพยากร เข้าไปเอางบประมาณไว้หมด ไม่ได้กระจายงบประมาณเข้าไปในท้องถิ่น ส่วนข้าราชการที่มาปกครอง ก็เป็นตัวแทนของส่วนกลาง และวิธีคิดของรัฐบาลกับวิธีคิดของประชาชนจะต่างกันไป”
@@ ส่งผู้สมัคร รับฟังเสียงประชาชน
โอกาสนี้พรรคประชาชาติได้สอบถามประชาชนถึงผู้สมัครที่อยากให้พรรคส่งลงสมัคร โดยมติของประชาชนด้วย
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประชาชนนิยมพรรคประชาชาติสูงสุดกว่าภาคอื่น แต่ละเขตเลือกตั้ง ถ้า ส.ส.เดิมประชาชนนิยมอยู่แล้ว ก็ไม่มีปัญหา ส่วนเขตที่พรรคไม่ได้ ส.ส. ส่วนใหญ่ผู้สมัครของพรรคได้ที่ 2 ก็จะสอบถามประชาชนว่าอยากเสนอใครลงสมัคร ก็ได้ชื่อคนรุ่นใหม่มาหลายคน ซึ่งพรรคต้องการคนที่รู้ปัญหาและต้องแก้ปัญหาให้กับประชาชนได้อย่างแท้จริง
“วันนี้พรรคประชาชาติเป็นพรรคของประชาชน ใน พ.ร.ป.พรรคการเมือง ให้ถามสมาชิกว่าจะส่งใครลงสมัคร (ไพรมารี่โหวต) เราเห็นว่าประชาชนในสามจังหวัดเลือกพรรคประชาชาติเป็นส่วนใหญ่ เราก็ต้องถามประชาชนในแต่ละเขตว่าอยากให้เราส่งใคร” ส.ส.ทวี กล่าว