“บิ๊กตู่” - นายกฯมาเลย์” แถลงความร่วมมือฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังเจอพิษโควิด พร้อมเปิดด่านเสริมการค้า-การลงทุนชายแดนใต้ เดินหน้าหนุนพูดคุยเพื่อสันติสุข
เมื่อเวลา 18.15 น. วันศุกร์ที่ 25 ก.พ.65 ที่ตึกสันติไมตรีหลังใน ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถ้อยแถลงในการแถลงข่าวร่วมกับ ดาโตะ ซรี อิซมาอิล ซาบรี ยาคบ (The Honourable Dato’ Sri Ismail Sabri Yaakob) นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาลไทย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในนามรัฐบาลไทยยินดีและเป็นเกียรติที่ได้ต้อนรับเดินทางนายกรัฐมนตรีมาเลเซียที่ได้เดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ เพื่อแนะนำตัวในฐานะเข้ารับตำแหน่ง ตามแนวทางปฏิบัติของผู้นำอาเซียน และถือว่าเป็นผู้นำรัฐบาลต่างประเทศคนแรกที่เดินทางเยือนประเทศไทยหลังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งสะท้อนให้เห็นความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของทั้ง 2 ประเทศในฐานะที่เป็นประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดกันมาอย่างยาวนาน อีกทั้งเดินทางมาในเวลาที่เหมาะสมที่ทั้ง 2 ประเทศจะร่วมมือกันฟื้นฟูเศรษฐกิจซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยั่งยืนร่วมกัน
“ผมประทับใจในความเป็นผู้นำในความมุ่งมั่นของนายกรัฐมนตรีมาเลเซียที่ต้องการขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า จากความท้าทายของโรคโควิด-19 และสถานการณ์ในภูมิภาค ความมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล และคำนึงถึงคนในชาติอย่างแท้จริง พร้อมแนวคิดโดยเฉพาะแนวคิด ‘มาเลเซีย แฟมิลี่’ ที่จะขับเคลื่อนประเทศไปสู่ความรุ่งเรือง ก้าวข้ามความแตกต่างเชื้อชาติ ศาสนา ภาษา วัฒนธรรม ส่งเสริมความเป็นเอกภาพและสามัคคี ยืนยันความตั้งใจที่จะร่วมแรงร่วมใจในการเสริมสร้างความมั่นคงและมั่งคั่งของประชาชนทั้งสองประเทศ บนพื้นฐานของความไว้เนื้อเชื่อใจในฐานะประเทศเพื่อนบ้านดั่งครอบครัวเดียวกัน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
@@ เปิดรับนักเที่ยววัคซีนครบโดสไม่ต้องกักตัว
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการหารือระหว่างกันว่า ทั้งสองฝ่ายสนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนการเดินทางระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศมากขึ้นอย่างปลอดภัย โดยเฉพาะการเดินทางของผู้ที่ฉีดวัคซีนครบแล้วโดยไม่ต้องกักกันโรค ซึ่งมาเลเซียเรียกช่องทางดังกล่าวว่า Vaccinated Travel Lane (VTL) ขณะที่ไทยได้เปิดรับผู้เดินทางจากมาเลเซียที่ฉีดวัคซีนครบ เดินทางเข้าประเทศทางอากาศโดยไม่ต้องกักตัวแล้ว ผ่านระบบ Test & Go และไทยกำลังเตรียมความพร้อมเปิดการเดินทางผ่านพรมแดนทางบกเพิ่มเติม
นอกจากนี้ ยังเห็นพ้องจัดตั้งคณะทำงานร่วมเพื่อเร่งหารือรายละเอียดการเปิดพรมแดนระหว่างกัน เพื่อให้ภาคธุรกิจและประชาชนของทั้งสองประเทศเดินทางไปมาหากันได้อย่างสะดวกดังเดิม ทั้งยังพร้อมร่วมผลักดันโครงการเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานบริเวณชายแดนไทย-มาเลเซียที่คั่งค้างให้มีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม
@@ เล็งเปิดพรมแดนทางบก - เพิ่มมูลค่าค้าข้ามแดน
โอกาสนี้ทั้งสองประเทศเห็นพ้องจัดตั้งคณะทำงานร่วมเพื่อเร่งหารือรายละเอียดการเปิดพรมแดนระหว่างกัน เพื่อให้ภาคธุรกิจและประชาชนของทั้งสองประเทศเดินทางไปมาหากันได้อย่างสะดวกดังเดิม นอกจากนี้ ทั้งสองพร้อมร่วมผลักดันโครงการเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานบริเวณชายแดนไทย-มาเลเซีย ที่คั่งค้างให้มีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งการสร้างถนนเชื่อมด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่-ด่านศุลกากรบูกิตกายูฮิตัม และสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลกแห่งใหม่
ส่วนการกระตุ้นเศรษฐกิจและแสวงหาความร่วมมือสาขาใหม่ ๆ ทั้งสองฝ่ายต่างให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยได้มีความร่วมมือระหว่างกันอย่างใกล้ชิด เพื่อลดผลกระทบของโควิด-19 ต่อการดำรงชีวิตของประชาชน ส่งผลให้ปริมาณการค้าชายแดนและผ่านแดนในช่วงที่ผ่านมามีมูลค่าเพิ่มขึ้น และคาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อีก
ทั้งสองฝ่ายจึงเห็นพ้องตั้งเป้าหมายมูลค่าการค้าระหว่างกันที่ 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2568 และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมจัดการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้าไทย-มาเลเซีย ครั้งที่ 3 เพื่อขับเคลื่อนแนวทางให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องแสวงหาแนวทางส่งเสริมความร่วมมือด้านใหม่ๆ ที่จะช่วยให้เศรษฐกิจเดินหน้าได้อย่างยั่งยืน เช่น ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจดิจิทัลและการขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจ BCG ซึ่งอาจใช้เป็นตัวอย่างในการส่งเสริมความร่วมมือเพื่อการพัฒนากับประเทศในอาเซียนได้ต่อไป
@@ ชวนลงทุนพัฒนา ศก.ชายแดนใต้ - อุตฯยางพารา ฮาลาล
ขณะที่การพัฒนาพื้นที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และความมั่นคงชายแดน ทั้งสองฝ่ายได้หารือเพื่อส่งเสริมความร่วมมือเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนทั้งสองประเทศ นายกรัฐมนตรีเชิญชวนให้มาเลเซียร่วมลงทุนในโครงการพัฒนาเศรษฐกิจในจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงอุตสาหกรรมยางพาราและฮาลาล
@@ หนุนกระบวนการพูดคุยสันติสุขดับไฟใต้
โอกาสนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ชี้แจงเกี่ยวกับสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งฝ่ายมาเลเซียสนับสนุนท่าทีของไทยในการแสวงหาทางออกด้วยสันติวิธี ขับเคลื่อนการพูดคุยเพื่อสันติสุขให้มีความคืบหน้า ตลอดจนพร้อมร่วมมือกับไทยอย่างใกล้ชิดในการเสริมสร้างความมั่นคงชายแดน การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติและข้ามแดน คู่ขนานไปกับการร่วมกันพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่เพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศ
ขณะเดียวกันจะรื้อฟื้นกลไกหารือทวิภาคี ผลักดันความร่วมมือทวิภาคีระหว่างกันให้มีความคืบหน้าเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ ฝ่ายไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย - มาเลเซีย ครั้งที่ 14 ในเดือน มี.ค.นี้ และหวังว่าจะมีการประชุมหารือในกรอบอื่น ๆ ระหว่างกันอย่างต่อเนื่องต่อไป
@@ วางบทบาทสร้างสรรค์ต่อเมียนมา - หนุนไทยเจ้าภาพเอเปค
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้แลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับประเด็นภูมิภาคและระหว่างประเทศที่สนใจร่วมกัน โดยเฉพาะบทบาทที่สร้างสรรค์ของอาเซียนในประเด็นสถานการณ์ในเมียนมา เน้นย้ำการรักษาความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของอาเซียนท่ามกลางความท้าทายเพื่อรักษาดุลยภาพในภูมิภาค โดยทั้งสองพร้อมร่วมมือกันในกรอบความร่วมมือต่าง ๆ มาเลเซียพร้อมให้การสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทยในปีนี้ด้วย
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรียืนยันเจตนารมณ์ของไทยที่จะทำงานร่วมกับรัฐบาลมาเลเซียในทุกระดับและทุกมิติ โดยมีประโยชน์สุขของ “ครอบครัวชาวไทยและมาเลเซีย” เป็นหมุดหมายสำคัญ
@@ ชูสัมพันธ์แน่นแฟ้นแข็งขันทุกระดับ
ด้านนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กล่าวว่า หวังว่าไทยและมาเลเซียจะมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นอย่างแข็งขันในทุกระดับ และได้ขยายความร่วมมือไปยังประเด็นใหม่ๆ ของความร่วมมือ โดยเฉพาะเพื่อได้ฟื้นฟูจากผลกระทบจากสถานการณ์โควิด–19 โดยเห็นด้วยกับบริบทจากการหารือกัน เพื่อเปิดการเดินทางระหว่างประชาชนสองประเทศให้มากขึ้น การมุ่งส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างกัน และการส่งเสริมกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ให้เกิดการพบปะหารือระหว่างกัน
โดยทั้งสองฝ่ายเห็นชอบที่จะเผยแพร่แถลงข่าวร่วม (Joint Press Statement) สะท้อนเจตนารมณ์ทางการเมืองร่วมกัน เพื่อขับเคลื่อนประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายได้หารือกันให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป
ทั้งนี้ภายหลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าวร่วม พล.อ.ประยุทธ์ และนายกรัฐมนตรีมาเลเซียเ ยี่ยมชมนิทรรศการศิลปหัตถกรรม ณ โถงกลาง ตึกสันติไมตรี และนายกรัฐมนตรีเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ณ ตึกสันติไมตรีหลังนอกด้วย