เจ้าหน้าที่เปิดข้อมูล 5 หมายจับคดีความมั่นคง "อิสมะแอ มะหนุ๊" แกนนำก่อความรุนแรงที่ถูกวิสามัญฯรายล่าสุด หลังเหตุซุ่มยิงชาวบ้านหาของป่า ด้านกลุ่มญาติคนตายไม่พอใจเจ้าหน้าที่นำศพออกจากที่เกิดเหตุช้า พยายามฝ่าวงเข้าไปเองจนหวิดเกิดเรื่องชุลมุน
ความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ทหารพรานยิงปะทะกลุ่มติดอาวุธที่ก่อเหตุซุ่มยิงชาวบ้านหาของป่า ในพื้นที่บ้านไอร์แยง ต.ศรีสาคร อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย พิสูจน์อัตลักษณ์แล้วพบว่าคือ นายอิสมะแอ มะหนุ๊ ผู้ต้องหาคดีความมั่นคง 5 หมายจับ โดยจุดที่พบศพนายอิสมะแอ อยู่ห่างจากจุดที่คนร้ายซุ่มยิงชาวบ้านหาของป่า ลึกเข้าไปประมาณ 500 เมตร
หลังเสียงปืนสงบและเคลียร์พื้นที่เรียบร้อย เจ้าหน้าที่ได้ประสานไปยังพนักงานอัยการ และแพทย์โรงพยาบาลศรีสาคร เพื่อร่วมกันชันสูตรพลิกศพตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 150 เพราะถือว่าเป็นการเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานที่อ้างว่าปฏิบัติการตามหน้าที่ จากนั้นได้ทำการเช็คประวัติของผู้ตาย ก่อนจะนำศพผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลศรีสาคร เพื่อชันสูตรอย่างละเอียดอีกหลัง และเย็บบาดแผล จากนั้นจึงเตรียมส่งมอบศพผู้เสียชีวิตให้เครือญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนา
จากการตรวจสอบทำเนียบคดีความมั่นคงของเจ้าหน้าที่ พบว่า นายอิสมะแอ มะหนุ๊ มีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านบือราแง หมู่ 3 ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส มีพฤติกรรมเป็นแกนนำระดับสั่งการของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ อ.ศรีสาคร และอำเภอใกล้เคียง มีประวัติเกี่ยวข้องกับคดีความมั่นคงหลายคดี และมีหมายจับที่ออกตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา อย่างน้อย 5 หมาย 5 คดี ประกอบด้วย
1. คดีซุ่มยิงทหาร สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1742 (ร้อย ร.1742) ขณะปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยครู เป็นเหตุให้กำลังพลเสียชีวิต 3 นาย บาดเจ็บ 1 นาย เหตุเกิดที่บ้านปาหนัน หมู่ 4 ต.ศรีสาคร วันที่ 23 เม.ย.52
2. คดีร่วมกันใช้อาวุธปืนยิงและขว้างระเบิดใส่จุดตรวจเฉลิมชัย หมู่ 1 ต.ศรีสาคร อ.ศรีสาคร เมื่อวันที่ 13 มี.ค.52
3. คดีลอบยิงทหารพราน หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 49 ซึ่งเป็นชุด รปภ.คณะแพทย์กองทัพบก ในพื้นที่ หมู่ 2 ต.ศรีสาคร เมื่อวันที่ 20 มี.ค.54
นอกจากนั้นยังมีหมายจับที่ออกโดยศาลจังหวัดนราธิวาสอีกหลายคดี ในปี 59
หลังมีข่าวเจ้าหน้าที่เปิดฉากยิงปะทะ จนทำให้ นายอิสมะแอ เสียชีวิต ตั้งแต่ช่วงกลางคืนของวันศุกร์ที่ 3 ธ.ค. ต่อเนื่องช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 4 ธ.ค.64 ปรากฏว่ามีกลุ่มชาวบ้าน ญาติ และคนในครอบครัวของนายอิสมะแอ จำนวนกว่า 50 คน เข้ายื่นเรื่องเพื่อขอรับศพ แต่ไม่ได้รับ เพราะศพยังอยู่ในกระบวนการชันสูตร ทำให้ญาติและชาวบ้านไม่พอใจ จนมีปากเสียงกับเจ้าหน้าที่ โดยกลุ่มชาวบ้านยื่นยันจะขอคำชี้แจงจากเจ้าหน้าที่ว่าทำไมถึงไม่นำศพออกมาจากป่า
ต่อมากลุ่มชาวบ้านได้พยายามฝ่าวงล้อมของเจ้าหน้าที่เพื่อเข้าไปในที่เกิดเหตุ เพื่อนำเอาศพกลับไปประกอบพิธีตามหลักศาสนา ทำให้ พ.อ.อิศรา จันทะกระยอม ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 45 ออกมาชี้แจงเหตุผลของความล่าช้าว่า เป็นเพราะเจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบพื้นที่ให้ละเอียด เกรงว่า กลุ่มคนร้ายจะลอบวางระเบิดซ้อนเอาไว้ และเจ้าหน้าที่ยังต้องเก็บหลักฐานตามขั้นตอน เพื่อใช้ในชั้นศาล ส่วนใครจะผิดหรือถูก ศาลเป็นผู้ตัดสิน เนื่องจากเรื่องนี้ต้องมีการทำสำนวนชันสูตรพลิกศพตามขั้นตอนของกฎหมาย
กระทั่งในช่วงบ่ายของวันเสาร์ที่ 4 ธ.ค. กลุ่มญาติและชาวบ้านได้รับศพนายอิสมะแอกลับไป จากนั้นเวลา 16.00 น. ชาวบ้านทั้งในและนอกพื้นที่จำนวนมากได้ร่วมกันแห่ศพนายอิสมะแอ ไปประกอบพิธีฝังที่กุโบร์ พร้อมทั้งตะโกนเสียงดังว่า "อัลลอฮ์อักบัร" ซึ่งแปลว่า "อัลลอฮ์ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด" ระหว่างนำศพไปฝังที่สุสานในหมู่บ้าน
นอกจากนั้นยังมีเยาวชนกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันทำความเคารพหลุมศพด้วยวิธีการที่สื่อให้เข้าใจว่า นายอิสมะแอเป็นนักรบของกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐที่อ้างอุดมการณ์แบ่งแยกดินแดน