ยอดติดเชื้อใหม่นราธิวาสลดฮวบ เหลือแค่ 25 ราย ไร้เสียชีวิตต่อเนื่อง 16 วัน ตัวเลขรวม 4 จังหวัด 601 ราย ป่วยดับ 1 ศพ ด้าน ศบค.ยะลา สั่งปิดแคมป์ก่อสร้าง หจก.บำรุงโยธากิจ 20 วัน หลังพบแรงงานติดโควิดอื้อ ส่วนที่บันนังสตาตั้ง 5 จุดฉีดวัคซีนเชิงรุก
วันศุกร์ที่ 3 ธ.ค.64 ภาพรวมของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ จ.สงขลา จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ลดลง แต่ยังคงทำให้ จ.ปัตตานี ยะลา และสงขลา ติดอยู่ในรายชื่อ 10 อันดับจังหวัดที่ผู้ติดเชื้อมากที่สุดในประเทศ ยกเว้น จ.นราธิวาส ที่จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงเหลือแค่ 25 ราย และไม่มีป่วยผู้เสียชีวิตต่อเนื่องมากว่า 16 วัน
โดยพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ จ.สงขลา วันศุกร์ที่ 3 ธ.ค.64 มีตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่รวมทั้งสิ้น 601 ราย และเสียชีวิต 1 รายแยกตามจังหวัดได้ดังนี้
จ.สงขลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 313 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 63,277 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 63,254 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 23 ราย เป็นผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 5,013 ราย รักษาหายแล้ว 57,994 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 270 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 4,306 ราย
จำนวนผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.หาดใหญ่ 15,080 ราย, อ.เมืองสงขลา 8,323 ราย, อ.จะนะ 8,264 ราย, อ.สิงหนคร 5,215 ราย, อ.สะเดา 4,833 ราย, อ.เทพา 4,727 ราย, อ.รัตภูมิ 3,773 ราย, อ.สะบ้าย้อย 3,369 ราย, อ.นาทวี 1,727 ราย, อ.บางกล่ำ 1,665 ราย, อ.ระโนด 1,060 ราย, สทิงพระ 925 ราย, ควนเนียง 843 ราย, อ.นาหม่อม 652 ราย, อ.คลองหอยโข่ง 410 ราย, อ.กระแสสินธุ์ 94 ราย, เป็นกรณีเรือนจำ รวม 1,404 ราย เป็นคนต่างจังหวัด 890 ราย และจากต่างประเทศ 23 ราย
จ.ปัตตานี มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 160 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 46,302 ราย รักษาหายแล้ว 43,103 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 1 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 455 ราย ผู้ป่วยแยกรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี 95 ราย, โรงพยาบาลสนามจังหวัด 30 ราย, โรงพยาบาลสนามอำเภอ 177 ราย, โรงพยาบาลชุมชน 322 ราย, โรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร 2 ราย, โรงพยาบาลสนามค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย 32 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส 38 ราย, สิโรรส-ปาร์ควิว ฮอสพิเทล 141 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส เรนโบว์ ฮอสพิเทล 115 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส-ดิอามาน รีสอร์ท 9 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์สะพานปูน - โรงยิมบานา 3 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์ เซาท์เทิร์น วิว 93 ราย และ Home Isolation 374 ราย
จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ยืนยันสะสมแยกตามรายอำเภอ ได้แก่ อ.เมือง 11,665 ราย, อ.ไม้แก่น 1,126 ราย, อ.ยะหริ่ง 3,612 ราย, อ.หนองจิก 4,587 ราย, อ.โคกโพธิ์ 2,955 ราย, อ.สายบุรี 5,621 ราย, อ.แม่ลาน 724 ราย, อ.ยะรัง 4,443 ราย, อ.ปะนาเระ 1,745 ราย, อ.ทุ่งยางแดง 2,094 ราย, อ.มายอ 4,543 ราย และ อ.กะพ้อ 1,775 ราย
จ.นราธิวาส มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 25 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในประเทศทั้งหมด ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 42,123 ราย แยกเป็นในประเทศ 41,967 ราย ต่างประเทศ 156 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 384 ราย
ส่วนผู้ป่วยรักษาหายสะสม 41,386 ราย เพิ่มขึ้น 73 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 353 ราย แยกตามอาการ ดังนี้ ไม่แสดงอาการ 154 ราย มีอาการเล็กน้อย 172 ราย มีอาการปานกลาง 18 ราย และ มีอาการรุนแรง 9 ราย ยอดตรวจ ATK ประจำวัน 1,343 ราย
จ.ยะลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 103 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 47,326 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 1,592 ราย รักษาหายแล้ว 47,557 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 333 ราย ซึ่งจำนวนผู้ป่วยแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.เมืองยะลา 17,037 ราย, อ.เบตง 5,005 ราย, อ.รามัน 6,264 ราย, อ.ยะหา 5,564 ราย, อ.บันนังสตา 7,257 ราย, อ.ธารโต 2,381 ราย, อ.กาบัง 1,281 ราย และ อ.กรงปินัง 2,537 ราย
ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 1,592 ราย แยกเป็นโรงพยาบาลยะลา 98 ราย, โรงพยาบาลเบตง 54 ราย, โรงพยาบาลชุมชน (รพช.) 6 แห่ง 161 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส 127 ราย, โรงพยาบาลสนาม อ.เมือง 46 ราย, โรงพยาบาลสนามเบตง 43 ราย, โรงพยาบาลสนามรามัน 14 ราย, โรงพยาบาลสนามบันนังสตา 12 ราย, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ศอ.12 ยะลา 35 ราย, Hospitel เบตง 4 ราย, ผู้ป่วยแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) 783 ราย , ผู้ป่วยแยกกักตัวในชุมชน (Community Isolation) 215 ราย
@@ ศบค.ยะลาสั่งปิดแคมป์คนงาน 20 วัน
ด้านความคืบหน้ากรณีแรงงานภายในแคมป์คนงานก่อสร้างของ ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) บำรุงโยธากิจ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.เมืองยะลา มีผลตรวจติดเชื้อโควิด-19 รวมทั้งหมด 103 ราย จากการตรวจเชิงรุกเมื่อวันที่ 26 พ.ย. และวันที่ 1 พ.ย.64 นั้น
ล่าสุดทางศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 จังหวัดยะลา ได้มีคำสั่งที่ 313/2564 เรื่อง การปิดสถานที่ตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดฯ เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวนมากภายในแคมป์คนงานก่อสร้างของ หจก.บำรุงโยธากิจ .สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา เพื่อให้การควบคุมการแพร่ระบาดของโรคเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดยะลา มีมติเห็นชอบให้ปิดการดำเนินกิจการเป็นการชั่วคราว เป็นระยะเวลา 20 วัน มีผลตั้งแต่วันที่ 26 พ.ย.64 ถึงวันที่ 15 ธ.ค.64
@@ บันนังสตาตั้ง 5 จุดฉีดวัคซีนเชิงรุก
ส่วนในพื้นที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา นายอมร ชุมช่วย นายอำเภอบันนังสตา ในฐานะผอ.ศปก.อ.บันนังสตา มอบหมายให้ นายสุริยา บุญพันธ์ ปลัดอาวุโส ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในการคัดกรองประชาชนที่เดินทางเข้า-ออกในพื้นที่หมู่บ้าน/ตำบล ตามมาตรการลดการเคลื่อนย้ายที่ไม่จำเป็นของประชากร เพื่อเป็นการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งจะมีการตั้งด่านตั้งแต่วันที่ 1-15 ธ.ค.64 และได้มีการตั้งจุดฉีดวัคซีนเชิงรุกประจำจุดตรวจทุกแห่ง เพื่อรณรงค์การฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
-จุดตรวจคัดกรองบ้านบันนังบูโบ หมู่ 3 ต.ถ้ำทะลุ
-จุดตรวจคัดกรองบ้านสนามบิน หมู่ 1 ต.เขื่อนบางลาง
-จุดตรวจคัดกรองบ้านบือซู หมู่ 6 ต.บันนังสตา
-จุดตรวจคัดกรองบ้านบือราเปะ หมู่ 7 ต.บันนังสตา
-จุดตรวจคัดกรองสะพานบาเจาะ เทศบาลตำบลบันนังสตา-ต.บาเจาะ
@@ ชาวเบตงปักแขนเข็ม 3 โมเดอร์นา
ด้านบรรยากาศการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่โรงพยาบาลเบตง อ.เบตง จ.ยะลา ประชาชนใน อ.เบตง ต่างเดินทางเข้าการวัคซีนโมเดอร์นาเป็นวันแรก ในสัปดาห์แห่งการฉีดวัคซีนโควิด-19 สู่เป้าหมายประเทศ 100 ล้านโดส โดยมีประชาชนทั่วไปที่เคยติดเชื้อโควิด-19 และไม่เคยได้รับวัคซีนใดๆ มาก่อน, ผู้ที่ได้รับวัคซีน 1 เข็มก่อนติดเชื้อ, รวมถึงผู้ที่ติดเชื้อ ภายใน 2 สัปดาห์ หลังจากฉีดเข็ม 2 เดินทางมาฉีดวัคซีนอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันยังมีผู้ที่ฉีดเข็ม 2 หลังจากฉีดเข็ม 1 ทุกชนิดครบ 1 เดือน เข้ารับวัคซีนอย่างคักคัก
นอกจากนี้ยังมีผู้ที่ได้รับฉีดวัคซีนซิโนแวค ซิโนฟาร์ม ครบ 2 เข็ม ครบ 1 เดือน เข้ารับการฉีดเข็ม 3 โมเดอร์นาเป็นบูสเตอร์โดสอย่างเป็นทางการด้วย เพื่อกระตุ้นภูมิป้องกันโควิดลดอาการป่วยรุนแรง และลดการเสียชีวิตกันอย่างต่อเนื่อง
หลังจากนี้จะมีการเปิดบริการฉีดวัคซีนโมเดอร์นาอีกครั้ง ในวันที่ 7-9 ธ.ค. ซึ่งผลการฉีดวัคซีน โควิด-19 ของ อ.เบตง ระหว่างวันที่ 22 พ.ย. ถึง 2 ธ.ค.64 มีผู้เข้ารับการฉีดวัคซีน จำนวน 380 คน
ชาวบ้านรายหนึ่งที่เดินทางมาฉีดวัคซีนเข็ม 3 กล่าวว่า รอมานานแล้ว วันนี้ได้ฉีดเข็ม 3 ป้องกันโควิด-19 ที่แพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ แต่ก็ยังคงรักษามาตรการสาธารณสุขเคร่งครัด ทั้งการสวมใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือ เว้นระยะห่าง และมาตรการอื่นๆ เพื่อป้องกันตนเองและครอบครัว