ตำรวจยะลาเปิดปฏิบัติการ "พิทักษ์นิบง 1/65" จับกุมเครือข่ายยาเสพติด 3 คดี ได้ผู้ต้องหาพร้อมของกลางเพียบ ขยายผลยึดทรัพย์รวมกว่าร้อยล้าน
วันพุธที่ 3 พ.ย.64 ที่ศูนย์ปฏิบัติการสํานักงานตํารวจแห่งชาติส่วนหน้า ถนนสุขยางค์ เขตเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9, พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4, นายภิรมย์ นิลทยา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา, นายพงศธร ธรรมชาติ ผู้อำนวยการ ปปส.ภาค 9 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงผลการจับกุมเครือข่ายฟอกเงินที่ได้จากการค้ายาเสพติด ซึ่งเป็นนักค้ารายสำคัญในพื้นที่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา และใกล้เคียง
คดีแรก สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 ก.ค.64 ชุดปฏิบัติการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 3 คน พร้อมของกลางยาบ้า 30,000 เม็ด ที่ได้จากการล่อซื้อ เหตุเกิดที่ ต.จะแหน อ.สะบ้าย้อย
คดีนี้ ศาลจังหวัดนาทวีได้พิพากษาลงโทษจำเลยทั้ง 3 คน “จำคุกตลอดชีวิต” ซึ่งต่อมาทางตำรวจภูธรจังหวัดยะลาได้ร่วมกับหน่วยร่วมที่เกี่ยวข้องทั้งหมดสืบสวนขยายผลเครือข่ายที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มนี้ จนสามารถเสนอศาลออกหมายจับตาม พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน รวม 6 คน และได้เปิดแผนปิดล้อมตรวจค้นยึดทรัพย์ภายใต้ยุทธการพิทักษ์นิบง 1/64 ปิดล้อมตรวจค้นไปทั้งสิ้น 24 เป้าหมายในพื้นที่ อ.สะบ้าย้อย, อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา, อ.เมืองยะลา สามารถยึดทรัพย์ได้ รวมมูลค่าประมาณ 40 ล้านบาท
ทั้งยังขยายผลเพิ่มเติมไปยังกลุ่มที่ทำหน้าที่ฟอกเงินจากการค้าขายยาเสพติดของ “เครือข่ายแบมะ สะบ้าย้อย” จนสามารถเสนอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาได้อีก 5 คน และได้เปิดแผนปิดล้อมตรวจค้นยึดทรัพย์ผู้เกี่ยวข้องสัมพันธ์ภายใต้ยุทธการ พิทักษ์นิบง 1/65 จับกุมตัวผู้ต้องหาได้ และผู้ต้องหาเข้ามอบตัวอีกบางส่วน รวม 5 คน ตรวจค้นไปทั้งสิ้น 5 เป้าหมาย ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ และ อ.สะบ้าย้อย สามารถยึดทรัพย์ได้ 80 รายการ แยกเป็น อสังหาริมทรัพย์, รถยนต์, รถจักรยานยนต์, บัญชีธนาคาร, โฉนดที่ดิน และทรัพย์สินอื่นๆ รวม 63 รายการ มูลค่าทรัพย์สินรวมประมาณ 110 ล้านบาท ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่เชื่อว่าได้มาจากการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด
คดีที่ 2 เมื่อวันที่ 15 พ.ค.64 สภ.กาบัง จ.ยะลา ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาพร้อมด้วยของกลางยาบ้า 10,000 เม็ด ในพื้นที่ ต.กาบัง และได้ขยายผลรวบรวมพยานหลักฐานเสนอศาล กระทั่งศาลอนุมัติออกหมายจับตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด รวม 3 หมาย และออกหมายจับตาม พ.ร.บ.ป้องกันปราบปรามการฟอกเงิน อีก 3 หมาย จึงได้เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น รวม 3 จุด
ผลการปฏิบัติการ สามารถจับกุมผู้ต้องหาและผู้ต้องหาเข้ามอบตัว รวม 5 ราย 6 หมายจับสามารถยึดทรัพย์สินได้หลายรายการ ประกอบด้วย บัญชีเงินฝาก รวม 5 บัญชี เป็นเงินทั้งสิ้น 2,307,066 บาท, บ้าน จำนวน 1 หลัง, รถยนต์ จำนวน 2 คัน, รถจักรยานยนต์ จำนวน 3 คัน, ทองรูปพรรณ จำนวน 5 รายการ, เงินสด จำนวน 98,230 บาท รวมยึดทรัพย์ได้มูลค่าทั้งสิ้น 4,000,000 บาท และยังสามารถไปตรวจค้นยึดยาบ้าได้จากที่พักของหนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหาอีก จำนวน 20,000 เม็ด ในพื้นที่ สภ.ยะรัง จ.ปัตตานี ได้แยกดำเนินคดีไว้อีกส่วนหนึ่ง
คดีที่ 3 เป็นกรณีการจับกุมขยายผล เมื่อวันที่ 27 ต.ค.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดยะลา สืบสวนพฤติการณ์เป็น “นักบิน” ซึ่งเป็นชื่อเรียกผู้ที่ทำหน้าที่รับส่งขนยาเสพติด ซึ่งได้ไปรับยาเสพติดนอกพื้นที่ จ.ยะลา นำเข้ามาขายให้กับลูกค้านักเสพในพื้นที่ อ.กรงปินัง อ.ยะหา อ.เมืองยะลา และพื้นที่ใกล้เคียง
ต่อมาได้ทราบข้อมูลกลุ่ม “นักบิน” ได้ไปเปิดห้องพักในเขต อ.หาดใหญ่ และเดินทางไปรับยาบ้ามาแล้ว ได้นำยาบ้าไปเก็บในบ้านที่ ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา จึงได้เข้าแสดงตัวและตรวจค้น พบของกลางในบ้านเป็นยาบ้า จำนวน 60,500 เม็ด ขยายผลเพิ่มยังมียาบ้าเก็บซุกซ่อนไว้ในบ้าน ถนนสาย 15 ต.สะเตง อ.เมืองยะลา ซึ่งเปิดเป็นแผงรับซื้อทุเรียน อีกจำนวน 2,800 เม็ด จึงได้ทำการตรวจยึด
จากการซักถามขยายผล “นักบิน” (นายสะการียา หนึ่งในผู้ต้องหา) ให้การรับว่า จะนำยาบ้าจำนวน 20,000 เม็ดไปส่งให้กับลูกค้า คือ น.ส.นูรีดา หรือ ก๊ะดา ในพื้นที่ ต.กาตอง อ.ยะหา จ.ยะลา จึงนัดหมายรับมอบยาบ้ากันตามจำนวน ปรากฏว่าถึงเวลานัดหมาย น.ส.นูรีดา หรือก๊ะดา มารับยาบ้าตามที่นัดไว้ จึงได้ควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดาเนินคดี และขยายผลต่อให้นำยาบ้าไปส่งให้กับลูกค้าใน อ.กรงปินัง จำนวน 4,000 เม็ด และเข้าจับกุมยึดยาบ้าจากลูกค้าที่ซุกซ่อนไว้รอจำหน่วยอีก 6,200 เม็ด รวมยาบ้าของกลางในส่วนนี้ จำนวน 10,200 เม็ด
การจับกุมขยายผลในคดีนี้ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งสิ้น 4 คน ยึดยาบ้าได้ รวม 73,500 เม็ด และยึดทรัพย์ตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามการกระทาความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ประกอบด้วย รถยนต์จำนวน 6 คัน, รถจักรยานยนต์ จำนวน 4 คัน, เงินสด จำนวน 95,000 บาท รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดทั้งสิ้นประมาณ 5,000,000 บาท