มท.2 ร่วมถกภาครัฐ - เอกชนสงขลา เตรียมเปิดเมืองท่องเที่ยวระยะ 2 เริ่ม ธ.ค.นี้ นำร่อง 3 อำเภอ "หาดใหญ่-สะเดา-เมือง" ชูจุดขายจัดประชุมสัมมนา ด้านตัวเลขติดเชื้อใหม่ 4 จังหวัดใต้ยังสูง 1,887 ราย ดับ 8 ศพ
วันอาทิตย์ที่ 31 ต.ค.64 สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ จ.สงขลา จากข้อมูลของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. พบว่าทั้ง 4 จังหวัดชายแดนใต้มีชื่ออยู่ใน 10 จังหวัดที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อมากที่สุดในประเทศ
โดย จ.สงขลา มีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ 583 ราย อยู่อันดับ 2 ตามมาด้วย จ.ปัตตานี มีตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ 558 ราย อยู่อันดับ 4 จ.ยะลา มีตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ 379 ราย อยู่อันดับ 6 และ จ.นราธิวาส มีตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ 289 ราย อยู่อันดับ 9 รวมทั้ง 4 จังหวัดมีตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ 1,887 ราย และเสียชีวิต 8 ราย แยกรายจังหวัดได้ดังนี้
จ.สงขลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 583 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 48,369 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 48,346 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 23 ราย เป็นผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 5,515 ราย รักษาหายแล้ว 42,673 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 181 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 2,059 ราย
จำนวนผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.หาดใหญ่ 11,182 ราย, อ.เมืองสงขลา 6,580 ราย, อ.จะนะ 5,074 ราย, อ.สิงหนคร 4,493 ราย, อ.สะเดา 3,801 ราย, อ.เทพา 3,467 ราย, อ.สะบ้าย้อย 2,915 ราย, อ.รัตภูมิ 2,833 ราย, อ.นาทวี 1,231 ราย, อ.บางกล่ำ 1,048 ราย, อ.ระโนด 805 ราย, สทิงพระ 718 ราย, ควนเนียง 536 ราย, อ.นาหม่อม 501 ราย, อ.คลองหอยโข่ง 318 ราย, อ.กระแสสินธุ์ 63 ราย, เป็นกรณีเรือนจำ รวม 1,166 ราย เป็นคนต่างจังหวัด 615 ราย และจากต่างประเทศ 23 ราย
จ.ปัตตานี มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 634 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 37,880 ราย รักษาหายแล้ว 22,038 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 7 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 376 ราย ผู้ป่วยแยกรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี 162 ราย, โรงพยาบาลสนามจังหวัด 289 ราย, โรงพยาบาลประจำอำเภอ 1,247 ราย, โรงพยาบาลชุมชน 602 ราย, โรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร 1 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส 51 ราย, สิโรรส-ปาร์ควิว ฮอสพิเทล 175 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส เรนโบว์ ฮอสพิเทล 101 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์สะพานปูน 8 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์โรงยิมบานา 32 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์ เซาท์เทิร์น วิว 253 ราย และ Home Isolation 2,181 ราย
จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 อยู่ระหว่างรักษารวม 6,574 ราย แยกรายอำเภอ ได้แก่ อ.เมือง 1,292 ราย, อ.ไม้แก่น 277 ราย, อ.ยะหริ่ง 384 ราย, อ.หนองจิก 604 ราย, อ.โคกโพธิ์ 596 ราย, อ.สายบุรี 861 ราย, อ.แม่ลาน 111 ราย, อ.ยะรัง 608 ราย, อ.ปะนาเระ 130 ราย, อ.ทุ่งยางแดง 261 ราย, อ.มายอ 870 ราย และ อ.กะพ้อ 368 ราย
จ.ยะลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 380 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 41,029 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 6,298 ราย รักษาหายแล้ว 35,638 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 1 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 267 ราย ซึ่งจำนวนผู้ป่วยแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.เมืองยะลา 14,633 ราย, อ.เบตง 3,835 ราย, อ.รามัน 5,671 ราย, อ.ยะหา 4,818 ราย, อ.บันนังสตา 6,400 ราย, อ.ธารโต 2,237 ราย, อ.กาบัง 1,057 ราย และ อ.กรงปินัง 2,378 ราย,
ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 6,298 ราย แยกเป็นโรงพยาบาลยะลา 182 ราย, โรงพยาบาลเบตง 128 ราย, โรงพยาบาลชุมชน (รพช.) 6 แห่ง 551 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส 152 ราย, โรงพยาบาลสนาม อ.เมือง 345 ราย, โรงพยาบาลสนามเบตง 109 ราย, โรงพยาบาลสนามรามัน 335 ราย, โรงพยาบาลสนามบันนังสตา 165 ราย, โรงพยาบาลสนามยะหา 131 ราย, โรงพยาบาลสนามธารโต 41 ราย, โรงพยาบาลสนามกรงปินัง 84 ราย, โรงพยาบาลสนามกาบัง 36 ราย, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ศอ.12 ยะลา 37 ราย, Hospitel ( 2 แห่ง ) 102 ราย, Hospitel เบตง 147 ราย, ผู้ป่วยแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) 2,838 ราย , ผู้ป่วยแยกกักตัวในชุมชน (Community Isolation) 915 ราย
จ.นราธิวาส มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 290 ราย แยกเป็นพื้นที่ อ.เมือง 73 ราย, อ.ตากใบ 34 ราย, อ.ยี่งอ 25 ราย, อ.จะแนะ 15 ราย, อ.รือเสาะ 4 ราย, อ.บาเจาะ 57 ราย, อ.ระแงะ 3 ราย, อ.ศรีสาคร 9 ราย, อ.เจาะไอร้อง 28 ราย, อ.สุไหงปาดี 3 ราย และ อ.สุไหงโก-ลก 39 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 36,932 ราย รักษาหายสะสม 34,060 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 368 ราย
ผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ได้ดังนี้ อ.เมือง 7,395 ราย, อ.ระแงะ 4,488 ราย, อ.รือเสาะ 1,945 ราย, อ.บาเจาะ 3,103 ราย, อ.จะแนะ 1,524 ราย, อ.ยี่งอ 2,693 ราย, อ.ตากใบ 2,852 ราย, อ.สุไหงโก-ลก 2,854 ราย, อ.สุไหงปาดี 3,065 ราย, อ.ศรีสาคร 1,975 ราย, อ.แว้ง 2,081 ราย, อ.สุคิริน 914 ราย และ อ.เจาะไอร้อง 2,043 ราย
@@ มท.2 ถกรัฐ-เอกชนสงขลาดันเปิดเมืองเฟส 2
ที่ห้องประชุมเทพทาโร โรงแรมบุรีศรีภูบูติก อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (รมช.มหาดไทย - มท.2) เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมเปิดการท่องเที่ยวของ จ.สงขลา มี นายวงศกร นุ่นชูคันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย นายจรัญ จันทรปาน ปลัดจังหวัด นายไพเจน มากสุวรรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา นายแพทย์ปพน ดีไชยเศรษฐ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา หัวหน้าส่วนราชการ และภาคเอกชนเข้าร่วมหารืออย่างคึกคัก
แนวทางการหารือ สืบเนื่องจาก จ.สงขลา ถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยวระยะที่ 2 ระหว่างวันที่ 1- 31 ธ.ค.64 จึงได้กำหนดพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว ตามมาตรการ COVID Free Setting จำนวน 3 อำเภอ คือ อ.หาดใหญ่ อ.สะเดา และ อ.เมืองสงขลา ซึ่งได้มีการจัดตั้งศูนย์ Command Center ณ สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสงขลา การเตรียมการให้มีแผนปฏิบัติการ หรือแผนเผชิญเหตุครอบคลุมตามมาตรการที่กำหนด และดำเนินการฝึกซ้อมกรณีพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 การเตรียมความพร้อมระบบบริการต่างๆ และการกำกับติดตามผู้เดินทาง แนวทางการแจ้งเหตุกรณีที่พบผู้ติดเชื้อ รวมถึงแผนสำรองสำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ผ่านการตรวจคัดกรอง
นอกจากนั้นยังต้องเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุข อาทิ การฉีดวัคซีนให้ประชาชน แนวทางการเฝ้าระวังควบคุมโรค และแผนการรับมือด้านการพยาบาล รวมถึงการสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์การเปิดการท่องเที่ยวกับประเทศเพื่อนบ้าน ในหมู่ประชาชนทั่วไปด้วย
นายนิพนธ์ กล่าวว่า ได้หารือถึงการเตรียมความพร้อมเปิดเมืองสงขลา ในฐานะ MICE City ตามนโยบายของรัฐบาล (รองรับกิจกรรมการท่องเที่ยวในลักษณะประชุมสัมมนา คือ Meeting Incentive Convention Exhibition ; MICE) โดยเฉพาะข้อมูลจากสาธารณสุขจังหวัด ซึ่งได้รายงานภาพรวมมาตรการในการดูแลประชาชน และมาตรการเร่งรัดในการฉีดวัคซีนให้กับประชาชน ทำให้มั่นใจได้ว่าเรื่องสาธารณสุขทำได้อย่างเป็นระบบและมีความพร้อม เชื่อมั่นอีกว่าภายในเดือน ธ.ค.นี้ จะสามารถฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในพื้นที่ได้ 80% ของจำนวนประชากรทั้งหมดของสงขลา
นอกจากนั้น เพื่อให้การเปิดเมืองเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงต้องมีการทำงานร่วมกันกับทุกภาคส่วน ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดเมืองได้ก่อนปีใหม่อย่างแน่นอน ดังนั้นในช่วง 60 วันจากนี้ไปจะเป็นในช่วงของการทำแผนและกำหนดกรอบระยะเวลาที่ชัดเจนว่า ช่วงไหนใครต้องทำอะไรอย่างไร เพื่อเตรียมเปิดเมืองสงขลาในเดือน ธ.ค.นี้ โดยในส่วนของ อ.สะเดา อ.หาดใหญ่ และ อ.เมืองสงขลา จะเป็นพื้นที่ 3 อำเภอเป้าหมายที่ได้เตรียมแผนงานไว้ว่าจะเป็นเมืองท่องเที่ยวนำร่องก่อน
รมช.มหาดไทย ซึ่งเป็นคนสงขลาด้วย กล่าวอีกว่า ถ้าจะรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศทันที ก็อาจมีเงื่อนไขบางอย่างที่ไม่สามารถกำหนดเองได้ แต่ถ้ามีการปรับแผนในระยะต้น โดยให้ไทยเที่ยวไทย แล้วใช้จุดแข็งของหาดใหญ่ที่เป็นเมือง MICE City หรือเมืองท่องเที่ยวสำหรับจัดประชุมสัมมนา ใครอยากประชุมสัมมนาก็มาจัดที่หาดใหญ่ อย่างนี้จะเป็นการส่งเสริมศักยภาพของเมืองหาดใหญ่
"นี่ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งในการปรับแผนงานที่จะรองรับนักท่องเที่ยว ซึ่งการส่งเสริมการท่องเที่ยวและการจัดประชุมสัมมนาภายในประเทศจะเป็นกลไกสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อนำพาเศรษฐกิจของประเทศฝ่าวิกฤตไปได้อย่างแน่นอน" นายนิพนธ์ กล่าว