เบตงวุ่น! เร่งตามจับนักโทษคดีอาวุธสงคราม – ยาเสพติด ติดโควิดหลบหนีออกจากโรงพยาบาล ผวาซ้ำคาดมีผู้พาหลบหนีเข้าพื้นที่ปัตตานี ด้านโควิดนราธิวาสยอดติดเชื้อลดหลุดชาร์ตประเทศ ส่วนอีก 3 จังหวัดยังหนัก
วันเสาร์ที่ 23 ต.ค.64 สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้และ จ.สงขลา แม้จะยังมีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีบางจังหวัดอย่าง จ.นราธิวาส ที่แนวโน้มผู้ติดเชื้อลดลง จนหลุดออกจาก 10 อันดับของจังหวัดที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อมากที่สุดในประเทศ
ทำให้ข้อมูลของทาง ศบค. ล่าสุดยังมีพบว่า จ.สงขลา มีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ 695 ราย อยู่อันดับ 2 ต่อเนื่องอีกวันรองจากกรุงเทพฯ ตามมาด้วย จ.ปัตตานี มีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ 512 ราย จากอันดับ 5 ขยับขึ้นมาอันดับ 4 และ จ.ยะลา มีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ 432 ราย จากอันดับ 4 ลงมาอันดับ 6
ด้านรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จากในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ จ.สงขลา มีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 2,001 ราย และเสียชีวิตรวม 2 ราย แยกตามจังหวัดได้ดังนี้
จ.สงขลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 697 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 43,524 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 43,501 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 23 ราย เป็นผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 5,522 ราย รักษาหายแล้ว 37,826 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 176 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 3,037 ราย
จำนวนผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.หาดใหญ่ 10,627 ราย, อ.เมืองสงขลา 5,968 ราย, อ.จะนะ 4,968 ราย, อ.สิงหนคร 4,228 ราย, อ.สะเดา 3,474 ราย, อ.เทพา 2,845 ราย, อ.สะบ้าย้อย 2,717 ราย, อ.รัตภูมิ 2,393 ราย, อ.นาทวี 1,018 ราย, อ.บางกล่ำ 909 ราย, อ.ระโนด 712 ราย, สทิงพระ 647 ราย, ควนเนียง 492 ราย, อ.นาหม่อม 456 ราย, อ.คลองหอยโข่ง 291 ราย, อ.กระแสสินธุ์ 55 ราย, เป็นกรณีเรือนจำ รวม 1,163 ราย เป็นคนต่างจังหวัด 538 ราย และจากต่างประเทศ 23 ราย
จ.ปัตตานี มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 619 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 33,675 ราย รักษาหายแล้ว 19,929 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 354 ราย ผู้ป่วยแยกรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี 210 ราย, โรงพยาบาลสนามจังหวัด 436 ราย, โรงพยาบาลประจำอำเภอ 1,450 ราย, โรงพยาบาลชุมชน 612 ราย, โรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร 1 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส 44 ราย, สิโรรส-ปาร์ควิว ฮอสพิเทล 177 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส เรนโบว์ ฮอสพิเทล 126 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์สะพานปูน 11 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์โรงยิมบานา 20 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์ เซาท์เทิร์น วิว 220 ราย และ Home Isolation 1,381 ราย
จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 อยู่ระหว่างรักษารวม 7,248 ราย แยกรายอำเภอ ได้แก่ อ.เมือง 1,533 ราย, อ.ไม้แก่น 280 ราย, อ.ยะหริ่ง 743 ราย, อ.หนองจิก 613 ราย, อ.โคกโพธิ์ 453 ราย, อ.สายบุรี 903 ราย, อ.แม่ลาน 88 ราย, อ.ยะรัง 631 ราย, อ.ปะนาเระ 194 ราย, อ.ทุ่งยางแดง 314 ราย, อ.มายอ 843 ราย และ อ.กะพ้อ 337 ราย
จ.ยะลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 434 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 37,705 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 7,424 ราย รักษาหายแล้ว 30,033 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 1 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 248 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 17 ราย ซึ่งจำนวนผู้ป่วยแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.เมืองยะลา 13,555 ราย, อ.กรงปินัง 2,330 ราย, อ.เบตง 3,230 ราย, อ.รามัน 5,096 ราย, อ.บันนังสตา 6,011 ราย, อ.กาบัง 995 ราย, อ.ธารโต 2,159 ราย และ อ.ยะหา 4,329 ราย
ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 7,424 ราย แยกเป็นโรงพยาบาลยะลา 185 ราย, โรงพยาบาลเบตง 156 ราย, โรงพยาบาลชุมชน (รพช.) 6 แห่ง 511 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส 168 ราย, โรงพยาบาลสนาม อ.เมือง 781 ราย, โรงพยาบาลสนามเบตง 132 ราย, โรงพยาบาลสนามรามัน 405 ราย, โรงพยาบาลสนามบันนังสตา 284 ราย, โรงพยาบาลสนามยะหา 160 ราย, โรงพยาบาลสนามธารโต 78 ราย, โรงพยาบาลสนามกรงปินัง 175 ราย, โรงพยาบาลสนามกาบัง 43 ราย, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ศอ.12 ยะลา 39 ราย, Hospitel ( 2 แห่ง ) 140 ราย, ผู้ป่วยแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) 2,508 ราย , ผู้ป่วยแยกกักตัวในชุมชน (Community Isolation) 1,085 ราย อยู่ระหว่างดำเนินการเข้าระบบ 524 ราย
จ.นราธิวาส มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 251 ราย แยกเป็นพื้นที่ อ.เมือง 3 ราย, อ.ยี่งอ 3 ราย, อ.รือเสาะ 2 ราย, อ.บาเจาะ 101 ราย, อ.ระแงะ 130 ราย, อ.ศรีสาคร 11 ราย, อ.เจาะไอร้อง 1 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 34,459 ราย รักษาหายสะสม 30,673 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 1 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 363 ราย
ผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ได้ดังนี้ อ.เมือง 6,946 ราย, อ.ระแงะ 4,042 ราย, อ.รือเสาะ 1,876 ราย, อ.บาเจาะ 2,815 ราย, อ.จะแนะ 1,367 ราย, อ.ยี่งอ 2,621 ราย, อ.ตากใบ 2,552 ราย, อ.สุไหงโก-ลก 2,613 ราย, อ.สุไหงปาดี 2,936 ราย, อ.ศรีสาคร 1,900 ราย, อ.แว้ง 2,011 ราย, อ.สุคิริน 913 ราย และ อ.เจาะไอร้อง 1,867 ราย
@@เบตงวุ่นนักโทษติดโควิดหนีออกจากโรงพยาบาล
ด้านความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับสถานการณ์โควิดในพื้นที่วันนี้ (23 ต.ค.) ได้มีการเผยแพร่ข้อมูลและภาพในกรุ๊ปไลน์ของทางราชการและประชาชนในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา ให้ช่วยกันติดตามตัวบุคคล ซึ่งเป็นนักโทษที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้วเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเบตง แต่ได้ทำการหลบหนีออกจากโรงพยาบาล
โดยล่าสุด นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร อส. กองกำลังภาคประชาชน ตั้งด่านตรวจเพื่อติดตามจับกุมตัวโดยด่วน ซึ่งนักโทษที่หลบหนี คือ นายมะแอ สาแม อายุ 43 ปี ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเบตงจับกุมในคดีอาวุธปืนสงคราม เอ็ม16 พร้อมกระสุนปืนขนาด 5.56 มิลลิเมตร จำนวน 145 นัด และยาไอซ์อีกจำนวนหนึ่ง ที่บริเวณร้านขายเสื้อผ้ามือสองไม่มีเลขที่ ริมถนนนาคราชบำรุง ในเขตเทศบาลเมือเบตง เมื่อวันที่ 24 ต.ค.62 และถูกศาลตัดสินจำคุก 4 ปี 8 เดือน 23 วัน และได้หลบหนีออกจากโรงพยาบาล เมื่อเวลาประมาณ 05.00 น. ของวันนี้
จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่า นายมะแอ สาแม เข้าไปอยู่เรือนจำชั่วคราวทุ่งปูโป๊ะ หมู่ที่ 6 ต.ยะรม เมื่อวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา และพบว่า ตัวเองติดเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา จนเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลเบตง จนหลบหนีออกจากโรงพยาบาลเมื่อช่วงเช้ามืดของวันนี้
หลังจากที่ได้หลบหนีออกจากโรงพยาบาลแล้ว ได้หนีกลับไปยังภูมิลำเนาที่บ้านราโมง ต.ยะรม ต่อมาก็ได้มีผู้พาหลบหนีออกจากพื้นที่ อ.เบตง ไปแล้ว คาดว่า น่าจะหลบหนีไปยังพื้นที่ จ.ปัตตานี เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงประสานหน่วยกำลังในพื้นที่ข้างเคียงให้ช่วยติดตามจับกุมตัวให้ได้อย่างเร่งด่วน
@@มอบอุปกรณ์-เวชภัณฑ์ให้ทีมกู้ชีพกู้ภัยเบตงช่วยโควิด
ส่วนที่มูลนิธิสว่างเบตงธรรมสถาน อ.เบตง จ.ยะลา นายอับดุลอายี สาแม็ง ส.ส.ยะลา เขต 3 จ.ยะลา มอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ เวชภัณฑ์ และเงินสนับสนุนให้กับเจ้าหน้าที่ด่านหน้า กู้ชีพกู้ภัย เพื่อนำไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา
นายอับดุลอายี สาแม็ง กล่าวว่า จากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ จ.ยะลา มีสถิติผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงมีความห่วงใยและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และทราบว่า ในพื้นที่ยังขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์และเวชภัณฑ์จำนวนมาก อาทิ ชุด PPE หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ ชุดตรวจ ATK สเปย์แอลกอฮอล์ เป็นต้น จึงได้มอบอุปกรณ์สนับสนุนทางการแพทย์และเวชภัณฑ์ ส่งมอบผ่านเจ้าหน้าที่ด่านหน้า อาสาสมัครกู้ชีพกู้ภัย เพื่อส่งไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ อ.เบตง เป็นการเร่งด่วน