ปัตตานียอดติดเชื้อโควิดพุ่งขึ้นติดอันดับ 2 ของประเทศรองจาก กทม. ส่วนยะลาคลัสเตอร์โรงงานยางพาราโผล่ แรงงานติดเชื้อ 27 ราย เบตงตั้งศูนย์พักคอยชุมชน 5 แห่งรับผู้ป่วย เปิดกำหนดการ “อนุทิน” เยือน 4 จังหวัดชายแดนใต้ 14-15 ต.ค.
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้และจังหวัดสงขลา จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่พบในพื้นที่ยังมีเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จากข้อมูลของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ที่เผยแพร่ผ่านศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) ประจำวันอังคารที่ 12 ต.ค.64 พบว่า 4 จังหวัดชายแดนใต้ ยังคงติดอยู่ใน 10 อันดับจังหวัดที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อมากที่สุดในประเทศมาอย่างต่อเนื่อง
โดย จ.ปัตตานี มีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ เพิ่มขึ้นเป็น 566 ราย ทำให้ขยับขึ้นจากอันดับ 3 ขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ตามมาด้วย จ.ยะลา ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ 493 ราย ลงลดจากอันดับ 2 มาเป็นอันดับ 4 ส่วนจ.นราธิวาส ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ 473 ราย ขยับจากอันดับ 8 มาเป็นอันดับ 5 และ จ.สงขลา มีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ 467 ราย ลดลงจากอันดับ 5 มาเป็นอันดับ 6
@@ ป่วยติดเชื้อใหม่รวม 1,901 ราย เสียชีวิต 12 ศพ
ขณะที่รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จากในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ จ.สงขลา วันที่ 12 ต.ค.64 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 1,901 ราย และเสียชีวิตรวม 12 ราย แยกตามจังหวัดได้ดังนี้
จ.ปัตตานี มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 468 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 27,581 ราย รักษาหายแล้ว 17,284 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 6 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 337 ราย ผู้ป่วยแยกรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี 196 ราย, โรงพยาบาลสนามจังหวัด 345 ราย, โรงพยาบาลประจำอำเภอ 1,465 ราย, โรงพยาบาลชุมชน 584 ราย, โรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร 4 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส 48 ราย, สิโรรส-ปาร์ควิว ฮอสพิเทล 186 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส เรนโบว์ ฮอสพิเทล 127 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์สะพานปูน 2 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์โรงยิมบานา 47 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์ เซาท์เทิร์น วิว 240 ราย และ Home Isolation 234 ราย
จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 อยู่ระหว่างรักษารวม 6,101 ราย แยกรายอำเภอ ได้แก่ อ.เมือง 1,208 ราย, อ.หนองจิก 469 ราย, อ.โคกโพธิ์ 301 ราย, อ.ยะหริ่ง 535 ราย, อ.สายบุรี 941 ราย, อ.ไม้แก่น 221 ราย, อ.แม่ลาน 65 ราย, อ.ยะรัง 440 ราย, อ.ปะนาเระ 181 ราย, อ.ทุ่งยางแดง 397 ราย, อ.มายอ 761 ราย และ อ.กะพ้อ 338 ราย
จ.ยะลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 493 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 30,660 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 7,060 ราย รักษาหายแล้ว 23,379 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 6 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 221 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 520 ราย ซึ่งจำนวนผู้ป่วยแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.เมืองยะลา 10,745 ราย, อ.กรงปินัง 2,109 ราย, อ.เบตง 2,421 ราย, อ.รามัน 4,176 ราย, อ.บันนังสตา 5,121 ราย, อ.กาบัง 862 ราย, อ.ธารโต 1,890 ราย และ อ.ยะหา 3,336 ราย
ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 7,060 ราย แยกเป็นโรงพยาบาลยะลา 195 ราย, โรงพยาบาลเบตง 139 ราย, โรงพยาบาลชุมชน (รพช.) 6 แห่ง 518 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส 154 ราย, โรงพยาบาลสนาม อ.เมือง 820 ราย, โรงพยาบาลสนามเบตง 187 ราย, โรงพยาบาลสนามรามัน 429 ราย, โรงพยาบาลสนามบันนังสตา 301 ราย, โรงพยาบาลสนามยะหา 101 ราย, โรงพยาบาลสนามธารโต 65 ราย, โรงพยาบาลสนามกรงปินัง 203 ราย, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ศอ.12 ยะลา 28 ราย, ผู้ป่วยแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) 1,919 ราย , ผู้ป่วยแยกกักตัวในชุมชน (Community Isolation) 650 ราย อยู่ระหว่างดำเนินการเข้าระบบ 1,351 ราย
จ.นราธิวาส มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 473 ราย แยกเป็นพื้นที่ อ.เมือง 88 ราย, อ.ตากใบ 26 ราย, อ.ยี่งอ 50 ราย, อ.แว้ง 6 ราย, อ.สุคิริน 9 ราย, อ.บาเจาะ 76 ราย, อ.ระแงะ 8 ราย, อ.ศรีสาคร 19 ราย, อ.เจาะไอร้อง 95 ราย, อ.สุไหงปาดี 38 ราย และ อ.สุไหงโก-ลก 46 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 29,853 ราย รักษาหายสะสม 25,691 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 322 ราย
ผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ได้ดังนี้ อ.เมือง 6,210 ราย, อ.ระแงะ 3,136 ราย, อ.รือเสาะ 1,683 ราย, อ.บาเจาะ 2,299 ราย, อ.จะแนะ 1,186 ราย, อ.ยี่งอ 2,247 ราย, อ.ตากใบ 2,281 ราย, อ.สุไหงโก-ลก 2,292 ราย, อ.สุไหงปาดี 2,565 ราย, อ.ศรีสาคร 1,621 ราย, อ.แว้ง 1,866 ราย, อ.สุคิริน 851 ราย และ อ.เจาะไอร้อง 1,616 ราย
จ.สงขลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 467 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 37,000 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 36,977 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 23 ราย เป็นผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 6,285 ราย รักษาหายแล้ว 30,554 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 161 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 2,793 ราย
จำนวนผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.หาดใหญ่ 9,465 ราย, อ.เมืองสงขลา 5,282 ราย, อ.สิงหนคร 3,965 ราย, อ.จะนะ 3,721 ราย, อ.สะเดา 3,022 ราย, อ.สะบ้าย้อย 2,315 ราย, อ.เทพา 2,071 ราย, อ.รัตภูมิ 1,866 ราย, อ.บางกล่ำ 767 ราย, อ.นาทวี 722 ราย, อ.ระโนด 604 ราย, สทิงพระ 590 ราย, อ.นาหม่อม 405 ราย, ควนเนียง 337 ราย, อ.คลองหอยโข่ง 224 ราย, อ.กระแสสินธุ์ 52 ราย, เป็นกรณีเรือนจำ รวม 1,143 ราย เป็นคนต่างจังหวัด 426 ราย และจากต่างประเทศ 23 ราย
@@ยะลาเร่งตรวจหาผู้ติดเชื้อ ลดการแพร่ระบาด
วันที่ 12 ต.ค.64 สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ในพื้นที่ จ.ยะลา ยังพบผู้ติดเชื้อสูงต่อเนื่อง ล่าสุดนายแพทย์อินทร์ จันแดง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลยะลา ส่งทีมเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลยะลา ร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดยะลา เดินหน้าเร่งตรวจหาเชื้อประชาชน ที่บริเวณตลาดประชาชื่น ถ.ผังเมือง 4 ในเขตเทศบาลนครยะลา ตามมาตรการของจังหวัดยะลา ในการลดการแพร่ระบาดของโควิด-19 หลังยังพบผู้ติดเชื้อสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สูงกว่า 700 คน
โดยเป็นการดำเนินการค้นหาผู้ติดเชื้อให้เร็วที่สุด เพื่อนำเข้าศูนย์พักคอย Community Isolation (CI) ที่ทางจังหวัดได้จัดเตรียมไว้ เป็นการจำกัดพื้นที่ จำกัดวงจรการแพร่ระบาดให้เร็วที่สุด ซึ่งได้นำชุดตรวจ ATK ทำการตรวจประชาชนผู้สัมผัสเสี่ยงภายในตลาดประชาชื่น และประชาชนรอบๆตลาด จำนวน 200 คน พร้อมทั้งบริการฉีดวัคซีนให้กับผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ควบคู่กันไป เป็นการสร้างภูมิคุ้มหมู่กันให้เร็วที่สุด
@@คลัสเตอร์โรงงานยางพารายะลาโผล่ แรงงานติดเชื้อ 27 ราย
ในวันเดียวกันนี้ มีรายงานว่า พบลูกจ้างเป็นแรงงาน ทั้งคนไทยและคนต่างด้าวของโรงงานผลิตยางพาราอัดก้อนในพื้นที่ จ.ยะลา ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวนทั้งหมด 27 ราย หลังจากที่ได้เข้ารับการตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล
หลังได้รับรายงานนางสาวพุทธชาติ อินทร์สวา แรงงานจังหวัดยะลาพร้อมด้วยนายปกรณ์ เชนพูน หัวหน้าสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดยะลา จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ ซึ่งโรงงานผลิตยางพาราอัดก้อนดังกล่าวมีลูกจ้างทั้งหมด 146 คน เป็นลูกจ้างไทย 131 คน (ชาย 39 คน หญิง 92 คน) ลูกจ้างต่างด้าว 15 คน (ชาย 13 คน หญิง 2 คน) ในจำนวนนี้มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จำนวน 27 คน เป็นลูกจ้างไทย 23 คน (ชาย 3 คน หญิง 20 คน) ต่างด้าว 4 คน (ชาย 3 คน หญิง 1 คน)
จากการสอบสวนโรคทราบว่า ก่อนหน้านี้มีลูกจ้างหญิง 1 คน ของโรงงานผลิตยางพารา ไปตรวจ ATK เชิงรุกโดย รพ.สต.ท่าสาป และพบติดเชื้อโควิด-19 จากนั้นทางโรงงานดังกล่าว ได้แจ้งไปยัง สสอ.เมืองยะลา เพื่อทำการตรวจหาเชื้อแรงงานกลุ่มเสี่ยงสัมผัส จึงทำให้พบว่ามีผู้ติดเชื้อจากการตรวจทั้งหมด 27 ราย
โดยปัจจุบันนายจ้างได้สั่งให้ลูกจ้างกักตัวที่บ้านและสถานประกอบกิจการ (เฉพาะลูกจ้างต่างด้าว) เนื่องจากได้รับแจ้งว่า โรงพยาบาลสนามเต็มแล้วและให้ลูกจ้างที่ทำงานใกล้ชิดกลุ่มผู้ติดเชื้อทำการกักตัว 14 วัน ซึ่งทางแรงงานจังหวัดยะลาได้กำชับถึงมาตรการในการแยกกักตัวผู้ติดเชื้อ และประสานให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอเมืองยะลา ติดตามอาการของผู้ที่ติดเชื้อทั้งหมด โดยเน้นให้นายจ้างทำตามแผนมาตรการ Bubble & Seal ในการแยกกักตัวผู้ติดเชื้อ เพื่อควบคุมไม่ให้มีการแพร่กระจายเชื้อในวงกว้าง
@@เบตงตั้งศูนย์พักคอยชุมชน 5 แห่งรับผู้ป่วย
นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง ประธานการประชุมมาตรการเตรียมความพร้อมการจัดตั้งศูนย์พักคอยชุมชน หรือ Community Isolation (CI) เพื่อหารือการรองรับผู้ป่วยโควิด -19 เข้าสู่ศูนย์พักคอยชุมชนในตำบลต่างๆ โดยมีนายสกุล เล็งลัคน์กุล นายกเทศมนตรีเมืองเบตง , นพ.สวรรค์ กาญจนะ ผอ.รพ.เบตง , นายวงศ์วิทย์ อัครวโรทัย สาธารณสุขอำเภอเบตง ส่วนราชการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมไกรลาส ที่ว่าการอำเภอเบตง อ.เบตง จ. ยะลา
โดยจะมีการเตรียมจัดตั้งศูนย์พักคอยชุมชน หรือ Community Isolation (CI) สำหรับรองรับผู้ป่วยโควิดสีเขียวที่มีอาการไม่หนัก เพิ่มศักยภาพการดูแลรักษาผู้ป่วยตกค้าง รวมทั้งป้องกันและควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค โดยแยกผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ออกจากบ้านและชุมชน นำมาพักคอยที่ศูนย์ ระหว่างรอการส่งตัวรักษาที่โรงพยาบาล โดยมีการจัดตั้ง CI ในพื้นที่ อ.เบตง ดังนี้ 1.อาคารสถาบันพัฒนาอุดมศึกษาเพื่อการขยายโอกาส ต.เบตง 2. โรงเรียนบ้านตาเนาะแมเราะ ต.ตาเนาะแมเราะ 3.โรงเรียนบ้านธารน้ำใส ต.ยะรม 4. โรงเรียนบ้านธารน้ำทิพย์ ต.ธารน้ำทิพย์ และ 5.โรงเรียนบ้านใหม่ (วันครู 2503) ต.อัยเยอร์เวง
@@เปิดกำหนดการ “อนุทิน” เยือนชายแดนใต้แก้โควิด
ส่วนกำหนดการลงพื้นที่ของนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อตรวจเยี่ยมการดำเนินงานตามมาตรการเฝ้าระวัง ้ปองกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้และจังหวัดสงขลา ในระหว่างวันที่ 14 – 15 ต.ค.64 มีหมายกำหนดการดังนี้
ในวันที่ 14 ต.ค.64 ช่วงเช้าเดินทางจาก กทม. มายังพื้นที่ จ.สงขลา ไปยังโรงพยาบาลหาดใหญ่ เพื่อรับฟังรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จากเขตสุขภาพที่ 12 และสาธารณสุขจังหวัดสงขลา พร้อมมอบนโยบายในการปฏิบัติงาน จากนั้นเดินทางไปตรวจเยี่ยมจุดตรวจวัคซีนเซ็นทรัลเฟสติวัล หาดใหญ่ เพื่อพบปะกับเจ้าหน้าที่และประชาชนที่มารับการฉีดวัคซีน
ช่วงบ่ายเดินทางไปยังยังโรงพยาบาลศูนย์ยะลา เพื่อรับฟังรายงานสถานการณ์ในพื้นที่ พร้อมมอบนโยบายในการปฏิบัติงาน พร้อมทั้งเดินทางไปตรวจเยี่ยมศูนย์ฉีดวัคซีน อาคารนิบง เพื่อพบปะกับเจ้าหน้าที่และประชาชนที่มารับการฉีดวัคซีน และติดตามผลการจัดทำ Covid Free Setting ที่ตลาดสดเมืองใหม่ เทศบาลนครยะลา จากนั้นจึงเดินทางกลับไปพักที่ จ.ปัตตานี
ส่วนวันที่ 15 ต.ค.64 ช่วงเช้าเดินทางไปตรวจเยี่ยมศูนย์ฉีดวัคซีน ม.อ.ปัตตานี เพื่อพบปะกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และพูดคุยกับประชาชนที่มารับการฉีดวัคซีน พร้อมมอบของเพื่อเป็นกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์และสาธารณสุข จากนั้นจึงเดินทางไปยังศาลากลางจังหวัดนราธิวาส เพื่อรับฟังรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จากสาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส พร้อมมอบนโยบายในการปฏิบัติงาน และเดินทางไปตรวจเยี่ยมจุดฉีดวัคซีนโรงเรียนนราสิขาลัย เยี่ยมชมการฉีดวัคซีนและพบปะกับประชาชน และมอบของเพื่อเป็นกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน หลังเสร็จภารกิจเดินทางไปยังท่าอากาศยานจังหวัดนราธิวาส เพื่อเดินทางกลับ กทม.