ปลัดสาธารณสุขลงพื้นที่ถกแนวทางลดการแพร่ระบาดโควิดชายแดนใต้ หลัง 4 จังหวัดติดท็อปเท็นต่อเนื่อง ขณะที่ยะลาเริ่มฉีดไฟเซอร์นักเรียนรับเปิดเทอม เบตงปิดตลาดสดพร้อม 9 สถานที่เสี่ยง หลังพบคลัสเตอร์ใหม่
วันอังคารที่ 5 ต.ค.64 สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้และจังหวัดสงขลา แม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่จะลดลงในบางพื้นที่ แต่ก็ยังไม่ทำให้ทั้ง 4 จังหวัดหลุดจาก 10 อันดับของจังหวัดของประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อมากที่สุด
จากข้อมูลการจัดอันดับ ของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ณ วันที่ 5 ต.ค.64 ที่เผยแพร่ผ่านศูนย์ข้อมูล COVID-19 พบว่า จ.ปัตตานี ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ เพิ่มขึ้นเป็น 530 ราย จากอันดับ 5 ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 4 จ.สงขลา ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ ลดลงเล็กน้อย จากอันดับ 4 ลงมาเป็นอันดับ 5 จ.นราธิวาส ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ เพิ่มขึ้นเป็น 461 จากอันดับ 7 ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 6 และ จ.ยะลา ที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงถึง 700 กว่ารายต่อเนื่องมา 3 วัน ได้ลดลงมาเหลือ 431 ราย จากอันดับ 2 ลงมาที่อันดับ 8
ขณะที่รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จากในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ จ.สงขลา วันที่ 5 ต.ค.64 มีรายละเอียดดังนี้
จ.ปัตตานี มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 281 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 24,153 ราย รักษาหายแล้ว 15,894 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 1 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 310 ราย ผู้ป่วยแยกรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี 153 ราย, โรงพยาบาลสนามจังหวัด 357 ราย, โรงพยาบาลประจำอำเภอ 1,290 ราย, โรงพยาบาลชุมชน 571 ราย, โรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร 1 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส 43 ราย, สิโรรส-ปาร์ควิว ฮอสพิเทล 193 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส เรนโบว์ ฮอสพิเทล 128 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์สะพานปูน 13 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์โรงยิมบานา 70 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์ เซาท์เทิร์น วิว 220 ราย และ Home Isolation 123 ราย
จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 อยู่ระหว่างรักษารวม 5,173 ราย แยกรายอำเภอ ได้แก่ อ.เมือง 1,222 ราย, อ.หนองจิก 363 ราย, อ.โคกโพธิ์ 174 ราย, อ.ยะหริ่ง 535 ราย, อ.สายบุรี 845 ราย, อ.ไม้แก่น 134 ราย, อ.แม่ลาน 60 ราย, อ.ยะรัง 395 ราย, อ.ปะนาเระ 202 ราย, อ.ทุ่งยางแดง 315 ราย, อ.มายอ 553 ราย และ อ.กะพ้อ 181 ราย
จ.สงขลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 468 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 33,217 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 33,194 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 23 ราย เป็นผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 6,013 ราย รักษาหายแล้ว 27,046 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 158 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 2,774 ราย
จำนวนผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.หาดใหญ่ 8,556 ราย, อ.เมืองสงขลา 4,843 ราย, อ.สิงหนคร 3,739 ราย, อ.จะนะ 3,163 ราย, อ.สะเดา 2,753 ราย, อ.สะบ้าย้อย 2,007 ราย, อ.เทพา 1,778 ราย, อ.รัตภูมิ 1,548 ราย, อ.บางกล่ำ 652 ราย, อ.นาทวี 641 ราย, สทิงพระ 575 ราย, อ.ระโนด 560 ราย, อ.นาหม่อม 389 ราย, ควนเนียง 264 ราย, อ.คลองหอยโข่ง 203 ราย, อ.กระแสสินธุ์ 52 ราย, เป็นกรณีเรือนจำ รวม 1,105 ราย เป็นคนต่างจังหวัด 366 ราย และจากต่างประเทศ 23 ราย
จ.นราธิวาส มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 472 ราย แยกเป็นพื้นที่ อ.เมือง 68 ราย,อ.ยี่งอ 70 ราย, อ.จะแนะ 4 ราย, อ.แว้ง 4 ราย, อ.สุคิริน 38 ราย, อ.บาเจาะ 26 ราย, อ.ระแงะ 82 ราย, อ.ศรีสาคร 3 ราย, อ.เจาะไอร้อง 1 ราย, อ.สุไหงปาดี 114 ราย และ อ.สุไหงโก-ลก 64 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 26,577 ราย รักษาหายสะสม 22,081 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 3 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 295 ราย
ผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ได้ดังนี้ อ.เมือง 5,342 ราย, อ.ระแงะ 2,673 ราย, อ.รือเสาะ 1,629 ราย, อ.บาเจาะ 1,881 ราย, อ.จะแนะ 1,116 ราย, อ.ยี่งอ 2,089 ราย, อ.ตากใบ 2,177 ราย, อ.สุไหงโก-ลก 2,026 ราย, อ.สุไหงปาดี 2,325 ราย, อ.ศรีสาคร 1,417 ราย, อ.แว้ง 1,716 ราย, อ.สุคิริน 799 ราย และ อ.เจาะไอร้อง 1,387 ราย
จ.ยะลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 431 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 26,054 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 5,932 ราย รักษาหายแล้ว 19,926 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 2 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 196 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 600 ราย ซึ่งจำนวนผู้ป่วยแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.เมืองยะลา 9,0144 ราย, อ.กรงปินัง 1,854 ราย, อ.เบตง 1,836 ราย, อ.รามัน 3,472 ราย, อ.บันนังสตา 4,507 ราย, อ.กาบัง 740 ราย, อ.ธารโต 1,714 ราย และ อ.ยะหา 2,787 ราย
ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 5,932 ราย แยกเป็นโรงพยาบาลยะลา 213 ราย, โรงพยาบาลเบตง 173 ราย, โรงพยาบาลชุมชน (รพช.) 6 แห่ง 539 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส 195 ราย, โรงพยาบาลสนาม อ.เมือง 765 ราย, โรงพยาบาลสนามเบตง 225 ราย, โรงพยาบาลสนามรามัน 395 ราย, โรงพยาบาลสนามบันนังสตา 315 ราย, โรงพยาบาลสนามยะหา 73 ราย, โรงพยาบาลสนามธารโต 80 ราย, โรงพยาบาลสนามกรงปินัง 209 ราย, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ศอ.12 ยะลา 25 ราย, ผู้ป่วยแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) 1,287 ราย , ผู้ป่วยแยกกักตัวในชุมชน (Community Isolation) 517 ราย อยู่ระหว่างดำเนินการเข้าระบบ 921 ราย
@@ปลัด สธ. ลงพื้นที่ถกแนวทางลดการแพร่ระบาดโควิด
ที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ จ.ยะลา เพื่อติดตามสถานการณ์โควิด-19 พร้อมร่วมประชุมในการหาแนวทางควบคุมโรคและวางมาตรการด้านสาธารณสุข หลังพบจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น จากครอบครัวและขุมชนมากขึ้น
นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า ขณะนี้จังหวัดชายแดนภาคใต้มียอดผู้ติดเชื้อจำนวนมากขึ้น ซึ่งนายกรัฐมนตรีเป็นห่วงมาก จึงให้ตนเองลงมาติดตามการแก้ไขปัญหาต่างๆ ทั้งในเรื่องของการดูแลรักษาพยาบาล การฉีดวัคซีน จากการลงพื้นที่ในวันนี้ที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลาและโรงพยาบาลสนามจังหวัดยะลานั้น ได้รับรายงานที่ค่อนข้างน่าเป็นห่วงในเรื่องยอดผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นและเข้าใจสถานการณ์ว่า คงจะต้องลำบากไปอีกช่วงหนึ่ง จึงมอบหมายนโยบายในการร่วมคิดและหาวิธีการที่จะควบคุมให้ลดการแพร่ระบาดให้เร็วที่สุด
ในส่วนสถานการณ์การรักษาในจังหวัดชายแดนใต้นั้น ค่อนข้างดี ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยสีแดง สีเหลือง สีเขียว ก็ยังพอมีเตียงและได้มีการเตรียมการเอาไว้หากมีการแพร่ระบาดใหญ่ขึ้นมา โดยปัญหาหลักๆของผู้ติดเชื้อในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ คือเรื่องการดำเนินชีวิตประจำวัน
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวอีกว่า อยากขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ ในการช่วยกันป้องกันโรคไม่ว่าจะเป็นเรื่องการอยู่ร่วมกันต้องให้ระวังมากขึ้น โดยให้ถือคติว่า “ทุกคนมีโอกาสที่จะเป็นโรค” ให้ร่วมด้วยช่วยกัน ให้ระวังในเรื่องการดำเนินชีวิตประจำวัน เพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เพราะภาครัฐและกระทรวงสาธารณสุขเอง ก็ไม่อยากให้พี่น้องประชาชนเจ็บป่วยอยากให้ทุกคนมีสุขภาพดี
@@เริ่มฉีด "ไฟเซอร์" นักเรียน เตรียมพร้อมเปิดเทอม
นายภิรมย์ นิลทยา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้ตรวจเยี่ยมบรรยากาศการ ฉีดวัคซีน "ไฟเซอร์" ให้นักเรียนอายุระหว่าง 12-18 ปี ในพื้นที่ จ.ยะลา ที่หน่วยฉีดวัคซีนโควิด-19 จ.ยะลา อาคารศรีนิบง ศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลา ตามแผนของกระทรวงศึกษาธิการ โดยได้เริ่มขึ้นฉีดทั่วทั้งประเทศตั้งแต่วันที่ 4 ต.ค.เป็นต้นไป ซึ่งการฉีดวัคซีน "ไฟเซอร์" ให้นักเรียนอายุระหว่าง 12-18 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสมัครใจที่ได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง จากข้อมูลในพื้นที่ จ.ยะลา มีนักเรียนที่ประสงค์ฉีดและผ่านการยินยอมของผู้ปกครองแล้วจำนวนทั้งสิ้น 33,195 คน คิดเป็นร้อยละ 62 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด
นายภิรมย์ นิลทยา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า การฉีดวัคซีน "ไฟเซอร์" ในวันนี้ ให้กับเด็กนักเรียนอายุระหว่าง 12-18 ปี เพื่อเตรียมพร้อมเปิดภาคเรียนที่ 2 นี้ ต้องขอบคุณผู้ปกครองและนักเรียนที่ลงทะเบียนเข้ารับการฉีดวัคซีนในครั้งนี้ เด็กนักเรียนจะได้มีภูมิคุ้มกันให้กับตนเอง โดย จ.ยะลา ตั้งเป้าดำเนินการฉีดวัคซีนให้เด็กนักเรียนทั่วทั้งจังหวัด ภายใน 7 วัน ภาพรวมในวันนี้เป็นไปด้วยความ
นายนพปฎล มุณีรัตน์ ผอ.รร.คณะราษฎรบำรุงยะลา กล่าวว่า ได้นำนักเรียนจำนวนกว่า 2,000 คน เข้ารับการฉีดวัคซีน เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียนในเดือน พ.ย.นี้ ทราบว่า จ.ยะลา ได้รับการจัดสรรวัคซีน "ไฟเซอร์"จากรัฐบาล เพื่อนำมาฉีดให้กับนักเรียนในพื้นที่จำนวน 20,000 โดส และจะทยอยส่งมาเพิ่มอีก ส่วนที่ตกค้างยังไม่ได้ฉีดนั้น ก็คงจะให้มาฉีดกันทั้งหมด ซึ่งตั้งเป้าไว้ว่า จำนวนวัคซีน 20,000 โดส จะสามารถฉีดครบภายใน 7 วัน
นางอัจฉรา เนื่องตีบ ผู้ปกครองนักเรียน กล่าวว่า มั่นใจในการให้ลูกได้ฉีดวัคซีนโควิด 19 ซึ่งนอกจากจะเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายให้กับตัวเขาในการรับมือกับโควิด 19 แล้ว ยังสามารถให้เราในฐานะผู้ปกครองก็ได้สบายใจไปด้วย ที่สำคัญคือ ลูกๆจะได้ไปโรงเรียนเสียที เนื่องจากที่ผ่านมาต้องเรียนในรูปแบบออนไลน์
@@เทศบาลเบตง สั่งปิดตลาดสด – 9 สถานที่เสี่ยง
ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง บรรดาพ่อค้าแม่ค้า เริ่มเก็บสินค้าออกจากแผงขายชั่วคราว หลัง ศปก.เทศบาลเมืองเบตง มีคำสั่งปิดตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง ระหว่างวันที่ 5 – 10 ต.ค.64 นี้ เพื่อให้ทำความสะอาด ครั้งใหญ่ (BIg Cleaning Day) ทั้งตลาดสดและตรวจหาเชื้อกลุ่มเสี่ยง หลังพบผู้ติดเชื้อที่มีความเกี่ยวข้องกับผู้จำหน่ายสินค้าในตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง จำนวน 14 คน
โดยจากการตรวจด้วย Antigen Test Kit (ATK) ในกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงให้ผลบวกกว่าร้อยละ 25 ซึ่งเป็นกลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงกับผู้จำหน่ายสินค้าในตลาดสด เทศบาลเมืองเบตงก่อนหน้านี้และอาจมีจำนวนเพิ่มขึ้นมากกว่านี้ ถือได้ว่า มีการระบาดในอัตราที่สูงและมีความเสี่ยงที่จะแพร่กระจ่ายได้ง่าย เนื่องจากตลาดสดเป็นสถานที่ที่มีการรวมกลุ่มกันของประชาชนจำนวนมากและมีความแออัด
นายสกุล เล็งลัคน์กุล นายกเทศมนตรีเมืองเบตง ในฐานะประธานศูนย์ ศปก.เทศบาลเมืองเบตง ได้ประกาศปิดตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง เป็นระยะเวลา 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 5 -10 ต.ค.64 และจะเปิดขายตามปกติ ในวันจันทร์ที่ 11 ต.ค.64 หรือจนกว่าสถานการณ์จะเป็นปกติ
นอกจากนี้ ศปก.เทศบาลเมืองเบตง ยังได้ประกาศปิดสถานที่ที่มีความเสี่ยง เป็นระยะเวลา 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 5 - 11 ต.ค.64 เพื่อประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จำนวน 9 แห่ง ได้แก่ 1. สนามกีฬากลางเทศบาลเมืองเบตง 2. สระว่ายน้ำคงคา 3.สนามกีฬากาญจนาภิเษก สนามฟุตซอล สนามเทเบิลเทนนิส 4.สนามเทนนิส 5.สนามฟุตซอล (ข้างสนามยิงปืน) 6.อาคารอเนกประสงค์ (โรงยิมสวนน้ำเทศบาลเมืองเบตง) 7. โรงยิมแบดมินตัน 8.สนามเปตอง และ 9. ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพ ชาย – หญิง