นายกฯ แสดงความเสียใจ เหตุทหาร ตำรวจ เสียชีวิตในหน้าที่ จากสมรภูมิชายแดนใต้ วอนให้ทำงานระมัดระวัง ขณะที่แม่ทัพภาค 4 รุดตรวจจุดปิดล้อมยิงปะทะที่บาเจาะ แฉจัดฉากคลั่งลวงตำรวจระงับเหตุ ก่อนกดบึ้ม
พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้แสดงความเสียใจกับครอบครัวของทหารและตำรวจที่เสียชีวิตรวม 3 นาย และได้รับบาดเจ็บอีก 4 นาย จาก 2 เหตุการณ์ของการปะทะ และลอบวางระเบิดจากผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้
โดยเหตุการณ์แรก เป็นการเสียชีวิตของ อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) วัฎจักร พรหมนุ้ย อายุ 24 ปี จากการปฏิบัติหน้าที่เข้าพิสูจน์ทราบพื้นที่เป้าหมายและปะทะกับกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงบริเวณ บ้านฮูแตยือลอ ต.บาเระใต้ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส
และอีกเหตุการณ์ในวันเดียวกัน เป็นการเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จะแนะ 2 นาย คือ ร.ต.อ.ธีระศักดิ์ เครือคำ กับ ส.ต.อ.ปริวัตร อุดม พร้อมผู้รับบาดเจ็บอีก 4 นาย จากการลอบวางระเบิดเส้นทางในพื้นที่ บ้านน้ำวน ต.ช้างเผือก อ.จะแนะ จ.นราธิวาส ขณะปฏิบัติหน้าที่ระงับเหตุในพื้นที่
พล.อ.ประยุทธ์ ได้กำชับให้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) และตำรวจ ดูแลรักษาพยาบาลผู้ได้รับบาดเจ็บให้ดีที่สุด รวมทั้งให้การช่วยเหลือสนับสนุนครอบครัวกำลังพลที่เสียชีวิตในการบำเพ็ญกุศลอย่างสมเกียรติ และให้การช่วยเหลือดูแลครอบครัวผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตต่อเนื่องกันไป
พร้อมกันนี้ได้แสดงความห่วงใยการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทุกนายที่คุ้มครองดูแลรักษาความปลอดภัยประชาชนในพื้นที่ โดยย้ำให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง ไม่ประมาท เร่งสืบสวนความเชื่อมโยงของ 2 เหตุการณ์ และติดตามกลุ่มผู้กระทำผิดมาดำเนินการตามกฎหมายให้เร็วที่สุด
@@ แม่ทัพภาค 4 รุดตรวจพื้นที่ปิดล้อมบาเจาะ สั่งเน้นเจรจา
ด้านความคืบหน้าเหตุปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ลงพื้นที่ไปติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากสภาพพื้นที่เป็นป่าสลับกับร่องน้ำ ทำให้ยากต่อการปฏิบัติการ โดยให้ดำเนินการตามขั้นตอนจากเบาไปหาหนัก เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสีย และให้ประสานกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำศาสนาในพื้นที่เข้ามาร่วมเจรจาเกลี้ยกล่อมเพื่อให้ผู้ก่อเหตุรุนแรงออกมามอบตัว
โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงเจรจาอย่างต่อเนื่อง และได้กำชับให้ส่วนงานที่เกี่ยวข้องได้ทำความเข้าใจ ขอความร่วมมือไปยังพี่น้องประชาชนทุกคน อย่าได้ให้การสนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำผิด ทั้งการให้ที่พักพิง หลบซ่อน จัดหาเสบียง เพราะจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
@@ แฉจัดฉากคลุ้มคลั่งลวงตำรวจเข้าพื้นที่ก่อนดักบึ้มรถ
ส่วนเหตุการณ์คนร้ายไม่ทราบจำนวน ลอบวางระเบิดรถตำรวจ สภ.จะแนะ ทำให้กำลังพลเสียชีวิต 2 นาย บาดเจ็บ 4 นายนั้น
จากการตรวจสอบพบว่า ก่อนเกิดเหตุมีการแจ้งให้ตำรวจเข้าไประงับเหตุคลุ้มคลั่ง แต่ปรากฏว่าน่าจะเป็นการลวงเจ้าหน้าที่ให้เข้าไประงับเหตุ เพื่อเปิดทางให้คนร้ายจุดชนวนระเบิดสังหาร นอกจากนั้นยังคาดว่าเป็นการก่อเหตุเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจเจ้าหน้าที่จากปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นที่ อ.บาเจาะ เพื่อเปิดทางหลบหนีด้วย