โควิดชายแดนใต้ยังวิกฤติ ยะลาพบผู้ติดเชื้อใหม่พุ่งเกือบครึ่งพัน ศบค.จังหวัดสั่งปิดโรงงานน้ำยาง พ่วง 4 ชุมชนเขตเทศบาลเบตง ขณะที่สงขลา – นราธิวาสตามมาติดๆ เกาะ 1 ใน 10 ของประเทศ
วันอาทิตย์ที่ 19 ก.ย.64 สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้และจังหวัดสงขลา ยังคงน่าวิกฤติ เนื่องจากตัวเลขของผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะจังหวัดยะลาที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อวันสูง 400 กว่ารายติดต่อมาหลายวันและติดท็อปเท็นของประเทศต่อเนื่องมา 3 วัน ( 17 ก.ย. อันดับที่ 6 , 18 ก.ย.อันดับที่ 4 และล่าสุดวันนี้ 19 ก.ย.อันดับที่ 4 )
ขณะที่จังหวัดสงขลาและนราธิวาส ก็มีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงติดท็อปเท็นต่อเนื่องมา 2 วันแล้วเช่นกัน โดยจังหวัดสงขลา วันที่ 18 ก.ย. ติดอันดับที่ 10 , วันนี้ 19 ก.ย. อันดับที่ 6 ส่วนจังหวัดนราธิวาส วันที่ 18 ก.ย.ติดอันดับที่ 5 , วันนี้ 19 ก.ย. ติดอันดับที่ 8
ส่วนรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด -19 ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้และสงขลา ประจำวันอาทิตย์ที่ 19 ก.ย.64 มีดังนี้
จ.ยะลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 492 ราย ( ติดอันดับ 4 ของจังหวัดที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อ 10 อันดับแรก ) ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 17,537 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 4,042 ราย รักษาหายแล้ว 13,337 ราย มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 158 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 444 ราย ซึ่งจำนวนผู้ป่วยแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.เมืองยะลา 6,396 ราย, อ.กรงปินัง 1,341 ราย, อ.เบตง 1,140 ราย, อ.รามัน 1,988 ราย, อ.บันนังสตา 3,169 ราย, อ.กาบัง 496 ราย, อ.ธารโต 1,269 ราย และ อ.ยะหา 1,738 ราย
ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 4,042 ราย แยกเป็นโรงพยาบาลยะลา 197 ราย, โรงพยาบาลเบตง 149 ราย, โรงพยาบาลชุมชน (รพช.) 6 แห่ง 504 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส 104 ราย, โรงพยาบาลสนาม อ.เมือง 737 ราย, โรงพยาบาลสนามเบตง 170 ราย, โรงพยาบาลสนามรามัน 396 ราย, โรงพยาบาลสนามบันนังสตา 248 ราย, โรงพยาบาลสนามยะหา 77 ราย, โรงพยาบาลสนามธารโต 76 ราย, โรงพยาบาลสนามกรงปินัง 171 ราย, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ศอ.12 ยะลา 25 ราย, ผู้ป่วยแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) 178 ราย, ผู้ป่วยแยกกักตัวในชุมชน (Community Isolation) 88 ราย อยู่ระหว่างดำเนินการเข้าระบบ 922 ราย
จ.สงขลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 444 ราย (ติดอันดับ 6 ของจังหวัดที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อ 10 อันดับแรก) แยกเป็นกลุ่มสัมผัสผู้ติดเชื้อในพื้นที่ 408 ราย, กลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงในโรงงาน 36 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 26,389 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 26,366 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 23 ราย เป็นผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 4,748 ราย รักษาหายแล้ว 21,500 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 2 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 141 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 560 ราย
จำนวนผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.หาดใหญ่ 6,900 ราย, อ.เมืองสงขลา 3,905 ราย, อ.สิงหนคร 3,145 ราย, อ.จะนะ 2,618 ราย, อ.สะเดา 2,256 ราย, อ.สะบ้าย้อย 1,477 ราย, อ.เทพา 1,362 ราย, อ.รัตภูมิ 805 ราย, สทิงพระ 528 ราย, อ.นาทวี 449 ราย, อ.บางกล่ำ 443 ราย, อ.ระโนด 425 ราย, อ.นาหม่อม 355 ราย, อ.คลองหอยโข่ง 175 ราย, ควนเนียง 158 ราย, อ.กระแสสินธุ์ 26 ราย, เป็นกรณีเรือนจำ รวม 1,104 ราย เป็นคนต่างจังหวัด 235 ราย และจากต่างประเทศ 23 ราย
จ.นราธิวาส มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 357 ราย (ติดอันดับ 8 ของจังหวัดที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อ 10 อันดับแรก) แยกเป็น พื้นที่ อ.เมือง 84 ราย, อ.ตากใบ 21 ราย, อ.ยี่งอ 91 ราย, จะแนะ 25 ราย, อ.แว้ง 57 ราย, อ.สุคิริน 19 ราย, อ.บาเจาะ 2 ราย, อ.ระแงะ 26 ราย, อ.ศรีสาคร 15 ราย, อ.เจาะไอร้อง 2 ราย และ อ.สุไหงปาดี 15 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 19,802 ราย รักษาหายสะสม 16,141 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 4 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 227 ราย
ผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ได้ดังนี้ อ.เมือง 4,031 ราย, อ.ระแงะ 2,159 ราย, อ.รือเสาะ 1,107 ราย, อ.บาเจาะ 1,402 ราย, อ.จะแนะ 929 ราย, อ.ยี่งอ 1,351 ราย, อ.ตากใบ 1,885 ราย, อ.สุไหงโก-ลก 1,451 ราย, อ.สุไหงปาดี 1,559 ราย, อ.ศรีสาคร 975 ราย, อ.แว้ง 1,394 ราย, อ.สุคิริน 578 ราย และ อ.เจาะไอร้อง 981 ราย
จ.ปัตตานี มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 197 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 19,166 ราย รักษาหายแล้ว 13,600 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 1 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 277 ราย ผู้ป่วยแยกรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี 147 ราย, โรงพยาบาลสนามจังหวัด 143 ราย, โรงพยาบาลประจำอำเภอ 756 ราย, โรงพยาบาลชุมชน 455 ราย, โรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร 1 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส 55 ราย, สิโรรส-ปาร์ควิว ฮอสพิเทล 159 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส เรนโบว์ ฮอสพิเทล 106 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์สะพานปูน 24 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์โรงยิมบานา 47 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์ เซาท์เทิร์น วิว 209 ราย และ Home Isolation จำนวน 10 ราย
จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 อยู่ระหว่างรักษารวม 2,630 ราย แยกรายอำเภอ ได้แก่ อ.เมือง 606 ราย, อ.หนองจิก 217 ราย, อ.โคกโพธิ์ 68 ราย, อ.ยะหริ่ง 261 ราย, อ.สายบุรี 351 ราย, อ.ไม้แก่น 41 ราย, อ.แม่ลาน 39 ราย, อ.ยะรัง 249 ราย, อ.ปะนาเระ 141 ราย, อ.ทุ่งยางแดง 203 ราย, อ.มายอ 255 ราย และ อ.กะพ้อ 99 ราย
@@สั่งปิดโรงงานน้ำยางเบตง พบพนักงานติดโควิด
นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผวจ.ยะลา ประธานคณะกรรมการ ศบค.ยะลา ได้ออกคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 จังหวัดยะลา ที่ 265/2564 ให้ปิดบริษัท จิบอยู่ลาเท็กซ์ จำกัด (โรงงานน้ำยาง) ตั้งอยู่ถนนนาคราช เขตเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา ซึ่งมีพนักงานของบริษัทฯ ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 18 - 24 ก.ย.64
สำหรับโรงงานแห่งนี้ เป็นโรงงานผลิตน้ำยางพารา ส่งออก ขนาดใหญ่ มีพนักงาน 135 คน แบ่งออกเป็นคนไทย 98 คน แรงงานพม่า 37 คน เริ่มพบพนักงานทยอยติดเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่ช่วงวันที่ 13 ก.ย. 2564 จนถึงปลายเดือน 17 ก.ย.2564 รวม 44 คน ซึ่งทางโรงงานไม่มีมาตรการที่เหมาะสมในการรับมือสถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาดในโรงงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตั้ง รพ.สนาม ในโรงงาน ไว้รองรับการกักตัว จึงสั่งปิดเป็นเวลา 14 วันจนกว่าสถานการณ์การควบคุมการแพร่ระบาดโรคเป็นไปตามมาตรการที่ทางสาธารณสุขกำหนด
ขณะที่เขียงหมูในตลาดสดเทศบาลเมืองเบตงต้องปิดแผงชั่วคราว หลังพบพนักงานโรงงานฆ่าสัตว์ของเทศบาลเมืองเบตงติดเชื้อโควิด-19 และร้านสะดวก เซเว่น อีเลฟเว่น สาขาแกรนด์วิลล่า ได้ปิดให้บริการชั่วคราวหลังพบพนักงานติดเชื้อโควิด-19 จากชุมชนที่มีการติดเชื้อโควิด-19
@@ปิด 4 ชุมชนในเขตเทศบาลเมืองเบตง
วันที่ 18 ก.ย.64 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด -19 จังหวัดยะลา ได้มีคำสั่ง ศบค.ยะลา ที่ 260/2564 เรื่องการกำหนดพื้นที่เสี่ยงเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่จังหวัดยะลา (ฉบับที่ 43) ปิดเส้นทางสัญจรเข้าออกชุมชนบูเก็ตตักโกร , ชุมชนกาแป๊ะ กม.2 , ชุมชนกือติง และชุมชนจาเราะกางา ห้ามเดินทางเข้า ออก และให้งดการละหมาดวันศุกร์ ตลอดจนการปฏิบัติศาสนกิจในมัสยิด บาลาเซาะห์ โดยการปิดเส้นทางสัญจรในครั้งนี้ ได้กำหนดให้สมาชิกในชุมชน สามารถเดินทางเข้า-ออกได้ ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นเท่านั้นและต้องลงชื่อกับเจ้าหน้าที่ประจำจุดตามมาตรการที่ทาง ศปก.ทม.เบตง ได้กำหนด ส่วนผู้ที่ติดเชื้อหรือเป็นผู้สัมผัสผู้ติดเชื้อที่มีความเสี่ยง จะต้องกักตัวอยู่ภายในบ้านเป็นเวลา 14 วัน ห้ามออกนอกเคหสถานอย่างเด็ดขาดและจะมีคำสั่งเปิดหรือผ่อนคลาย เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดในชุมชนมีแนวโน้มดีขึ้น ไม่พบผู้ติดเชื้อต่อเนื่อง
ขณะนี้เทศบาลเมืองเบตง ได้นำแผงเหล็กกั้น พร้อมกางเต็นท์ปิดเส้นทางสัญจรเข้าออกชุมชนในพื้นที่เสี่ยงแล้ว โดยมีเจ้าหน้าที่ ศปก.ทม.เบตง คณะกรรมการชุมชน อสม.ประจำจุดตลอด 24 ชม.
@@ผู้นำอิสลามยะลาเข้าแถวปักแขนรับวัคซีน
วันที่ 18 ก.ย 64 ผู้นำศาสนาอิสลาม อิหม่าม คอเต็บ บิหลั่น พร้อมใจกันออกมารับฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มพระราชทาน ที่หอประชุมคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา โดยทางผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา นายชัยสิทธิ์ พาณิชพงศ์ และผู้อำนวยการโรงพยาบาลยะลา นำวัคซีนซิโนฟาร์มพระราชทาน 400 โดส ฉีดให้กับอิหม่าม คอเต็บ บิหลั่น เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน และกระตุ้นชาวบ้านให้ออกมารับฉีดวัคซีน ตามแบบอย่างของผู้นำ ตามหน่วยงานที่จัดสรรวัคซีนให้กับประชาชนในพื้นที่ใกล้บ้าน
นายหะยีสะมะแอ ฮารี ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา กล่าวว่า การฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 เมื่อฉีดวัคซีนแล้วถึงจะติดเชื้ออีก แต่ก็ป้องกันไม่ให้เชื้อลงปอดและลดอัตราการตายได้ เรามีวัคซีนมาแล้วก็ควรที่จะรับการฉีดโดยเร็ว เพื่อคุ้มกันตนเองและสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ฉะนั้นประชาชนต้องตระหนักแล้วว่า ถ้าไม่ฉีดวัคซีนเราคือตัวถ่วงในหมู่บ้าน ขอทุกท่านพร้อมใจกันฉีดวัคให้ได้ 70% โดยเร็ว เพื่อที่จะได้เปิดกิจกรรมศาสนาได้อย่างสมบูรณ์