ยะลาสั่งปิดเพิ่ม 1 หมู่บ้านใน อ.กาบัง พร้อมห้ามจัดงานกิจกรรมเสี่ยงแพร่ระบาดโรค ขณะที่เบตงเตรียมเปิดเมืองรับท่องเที่ยวภายใต้มาตรฐาน SHA เน้นปลอดภัยด้านสุขอนามัย ด้านกำนัน ต.บาราเฮาะ ปัตตานี ชวนฉีดวัคซีน ชูประเด็นละหมาดที่มัสยิดได้ ส่วนตัวเลขติดเชื้อสะสมสงขลาทะลุ 2 หมื่นราย นราธิวาสป่วยโควิดดับ 7 ศพ
วันอังคารที่ 31 ส.ค.64 ที่ห้องประชุมศรียะลา อาคาร 3 ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดยะลา ในการประชุมคณะกรรมการและคณะทำงานเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ครั้งที่ 37/2564 ซึ่งมีนายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เป็นประธาน ได้มีมติเห็นชอบให้ปิดพื้นที่เสี่ยงแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในพื้นที่บ้านลาแล (กลุ่มบ้านลาแล) หมู่ที่ 5 ต.กาบัง อ.กาบัง จ.ยะลา และยังมีมติเห็นชอบในเรื่องของการยกเลิกพื้นที่เสี่ยง เนื่องจากไม่พบผู้ติดโควิด -19 รายใหม่ติดต่อกันมากกว่า 14 วัน จำนวน 2 หมู่บ้านใน 2 อำเภอ ประกอบด้วย 1.บ้านตาเนาะปูเต๊ะ (กลุ่มบ้านกอลอปอง) หมู่ที่ 4 ต.ตาเนาะปูเต๊ะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา 2. บ้านธารมะลิ (คุ้มบ้างล่าง / คุ้มบ้านกูแบกีแย) หมู่ที่ 4 ต.อัยเยอร์เวง อ.บันนังสตา จ.ยะลา
นอกจากนี้จังหวัดยะลามีคำสั่งล็อกดาวน์ห้ามออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 21.00-04.00 น.ของวันรุ่งขึ้นแล้ว นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ประธาน ศบค.จ.ยะลา ยังมีคำสั่งที่ 235/2564 ลงวันที่ 30 ส.ค.64 ห้ามจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงตามที่มีคำสั่งห้ามมาก่อนหน้านั้น ทำการปิดสถานที่ที่มีการชุมนุมหรือรวมผู้คนทุกประเภทเป็นการชั่วคราว การแข่งขันกีฬาต้องได้รับอนุญาต ตลาดนัด ห้างสรรพสินค้าเปิดได้ถึง 20.00 น. ร้านสะดวกซื้อ 04.00-20.00 น. โรงแรมเปิดได้ตามปกติแต่ต้องงดกิจกรรมประชุม สัมมนา และจัดเลี้ยง โดยผู้ให้บริการจะต้องฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 เข็ม ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1-14 ก.ย.64
@@ เบตงเตรียมเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยว
นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง กล่าวว่า เบตงถือได้ว่าเป็นพื้นที่ที่ได้รับวัคซีนแล้วกว่า 82.29 % และเตรียมทำงานเชิงรุกเก็บตกผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน โดยในที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบให้ทางอำเภอเบตงเตรียมเปิดเมืองท่องเที่ยว ซึ่งทางจังหวัดยะลา จะเตรียมเสนอความเห็นชอบให้เปิดเมืองการท่องเที่ยวกับ ศบค. (กลาง) พิจารณาต่อไป ภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย SHA ในโครงการยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย โดยนำมาตรการความปลอดภัยด้านสาธารณสุขผนวกกับมาตรฐานการให้บริการที่มีคุณภาพของสถานประกอบการ เพื่อสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวและยกระดับความปลอดภัยด้านสุขอนามัยในฐานะเมืองเบตงเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญ
ทางอำเภอเบตงและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จึงเชิญชวนผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเข้าร่วมโครงการ Amazing Thailand Safety and Health Administration (SHA) เพื่อสร้างมาตรฐานการบริการให้มีคุณภาพ และสร้างความเชื่อมั่นเรื่องความปลอดภัยด้านสุขอนามัยจากสินค้าและบริการให้กับ นักท่องเที่ยว และเพื่อลดความเสี่ยงป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19
@@ หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. ลุยฉีดวัคซีนพระราชทาน
นายราชิต สุดพุ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เข้าร่วมกิจกรรมบูรณาการหน่วยแพทย์ พอ.สว. และตรวจเยี่ยมการให้บริการฉีดวัคซีนพระราชทาน ซึ่งสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานมูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) ทรงพระราชทานวัคซีน "ซิโนฟาร์ม" แก่ประชาชนกลุ่มเปราะบาง และการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยชุดตรวจหาเชื้อแบบ Antigen Test Kit (ATK) เพื่อเป็นมาตรการร่วมกันในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 โดยมี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปัตตานี นายอำเภอยะรัง เจ้าหน้าที่และบุคลากรทางการแพทย์ เข้าร่วมให้บริการประชาชน ณ ลานร้านค้าชุมชนเทศบาลตำบลยะรัง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ในพื้นที่ อ.ยะรัง
ส่วนที่โรงพยาบาลเบตง อ.เบตง จ.ยะลา นายแพทย์สวรรค์ กาญจนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเบตง บุคลากรการแพทย์ แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ พอ.สว. ให้การบริการฉีดวัคซีนพระราชทานซิโนฟาร์ม ให้กับประชาชน จำนวน 500 คน ซึ่งสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ได้พระราชทาน เพื่อนำไปฉีดกลุ่มประชาชนที่เปราะบาง ในพื้นที่ อ.เบตง เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ทำให้ประชาชนกลุ่มเปราะบางได้เข้าถึงวัคซีนทางเลือก และได้รับวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันได้เร็วที่สุด ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการป้องกันและลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างมีประสิทธิภาพ
@@ กำนันบาราเฮาะ ชูฉีดวัคซีนได้ละหมาดที่มัสยิด
นายบาฮารุดดีน ยูโซะ หรือ “กำนันบาฮา” กำนัน ต.บาราเฮาะ กล่าวว่า ได้ระดมทุกภาคส่วน เพื่อรณรงค์ให้ชาวบ้านใน 8 หมู่บ้านของ ต.บาราเฮาะ ซึ่งมีประชากรกว่า 8,000 คน และเป็นเป้าหมายในการฉีดวัคซีนทั้งหมดคือ 5,389 คน ซึ่งฉีดวัคซีนไปแล้วเพียง 1,492 ราย ก่อนหน้านี้มีโต๊ะอีหม่ามมาสอบถาม ว่าเมื่อไรจะอนุญาตให้ละหมาดวันศุกร์ แต่หลังจากนี้หากทุกคนฉีดวัคซีนแล้วเราจะเปิดให้ละหมาดวันศุกร์ได้ ซึ่งในสัปดาห์หน้าเราจะละหมาดวันศุกร์พร้อมกันทั้ง 8 หมู่บ้านใน ต.บาราเฮาะ
“หากใครยังไม่ฉีดวัคซีนเราไม่อนุญาตให้ละหมาดวันศุกร์ รวมถึงการทำธุรกรรมต่างๆ ที่อำเภอในอนาคตก็ทำไม่ได้ สำหรับคนที่ยังไม่ฉีดวัคซีน ต่อไปผู้ใหญ่บ้านจะไม่เซ็นรับรองต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ดิน หรืออื่นๆ ที่อำเภอ เพราะอันนี้เป็นกฎหมายข้อบังคับทางราชการ จะต่อบัตรประชาชนก็ไม่ได้ จะกู้เงินต่างๆ ก็ไม่ได้ ผู้ใหญ่บ้านจะไม่เซ็นรับรองให้ ผมได้คุยกับนายอำเภอแล้วว่านี้ คือนโยบายของทางราชการ” กำนันบาฮา กล่าว
นายแมเราะ ดอเลาะ ชาวจ.ปัตตานี กล่าวว่า ทุกคนดีใจที่จะได้ละหมาดวันศุกร์และพร้อมใจที่ไปฉีดวัคซีนกันจำนวนมาก เพราะต่างอยากให้มีการเปิดมัสยิด ในความรู้สึกของทุกคน รับไม่ได้ที่ต้องงดละหมาดที่มัสยิดเป็นเวลายาวนานขนาดนี้ แต่เพื่อความปลอดภัยทุกคนก็ยินดีร่วมปฏิบัติ ถ้าฉีดวัคซีนแล้วจะสามารถไปละหมาดได้
@@ สงขลาติดเชื้อสะสมทะลุ 2 หมื่นราย
ด้านรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้และสงขลา ประจำวันอังคารที่ 31 ส.ค.64 มีดังนี้
จ.ปัตตานี มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 111 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 15,624 ราย รักษาหายแล้ว 11,563 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 5 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 239 ราย ผู้ป่วยแยกรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี 145 ราย, โรงพยาบาลสนามจังหวัด 169 ราย, โรงพยาบาลสนามเรือนจำ 18 ราย, โรงพยาบาลประจำอำเภอ 565 ราย, โรงพยาบาลชุมชน 472 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส 41 ราย, สิโรรส-ปาร์ควิว ฮอสพิเทล 126 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส เรนโบว์ ฮอสพิเทล 68 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์สะพานปูน 1 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์โรงยิมบานา 42 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์ เซาท์เทิร์น วิว 136 ราย และ Home Isolation จำนวน 29 ราย
จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 อยู่ระหว่างรักษารวม 2,473 ราย แยกรายอำเภอ ได้แก่ อ.เมือง 724 ราย, อ.หนองจิก 339 ราย, อ.โคกโพธิ์ 50 ราย, อ.ยะหริ่ง 262 ราย, อ.สายบุรี 193 ราย, อ.ไม้แก่น 2 ราย, อ.แม่ลาน 10 ราย, อ.ยะรัง 289 ราย, อ.ปะนาเระ 122 ราย, อ.ทุ่งยางแดง 94 ราย, อ.มายอ 220 ราย และ อ.กะพ้อ 103 ราย
จ.ยะลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 98 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 11,787 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 2,102 ราย รักษาหายแล้ว 9,569 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 3 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 166 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 166 ราย ซึ่งจำนวนผู้ป่วยแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.เมืองยะลา 4,470 ราย, อ.กรงปินัง 903 ราย, อ.เบตง 606 ราย, อ.รามัน 1,119 ราย, อ.บันนังสตา 2,238 ราย, อ.กาบัง 355 ราย, อ.ธารโต 915 ราย และ อ.ยะหา 1,181 ราย
ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 2,102 ราย แยกเป็น โรงพยาบาลยะลา 178 ราย, โรงพยาบาลเบตง 58 ราย, โรงพยาบาลชุมชน (รพช.) 6 แห่ง 393 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส 93 ราย, โรงพยาบาลสนาม อ.เมือง 680 ราย, โรงพยาบาลสนามเบตง 19 ราย, โรงพยาบาลสนามรามัน 41 ราย, โรงพยาบาลสนามบันนังสตา 182 ราย, โรงพยาบาลสนามยะหา 72 ราย, โรงพยาบาลสนามธารโต 14 ราย, โรงพยาบาลสนามกรงปินัง 99 ราย, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ศอ.12 ยะลา 25 ราย, ผู้ป่วยแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) จำนวน 58 ราย, ผู้ป่วยแยกกักตัวในชุมชน (Community Isolation) 8 ราย อยู่ระหว่างดำเนินการเข้าระบบ 181 ราย
จ.นราธิวาส มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 229 ราย แยกเป็น พื้นที่ อ.เมือง 37 ราย, อ.ตากใบ 1 ราย, อ.จะแนะ 20 ราย, อ.สุคิริน 1 ราย, อ.รือเสาะ 2 ราย, อ.บาเจาะ 10 ราย, อ.ระแงะ 95 ราย, อ.ศรีสาคร 41 ราย, อ.เจาะไอร้อง 11 ราย , อ.สุไหงปาดี 10 ราย และ อ.สุไหงโก-ลก 1 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 13,500 ราย รักษาหายสะสม 10,796 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 7 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 158 ราย
ผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ได้ดังนี้ อ.เมือง 2,806 ราย, อ.ระแงะ 1,612 ราย, อ.รือเสาะ 667 ราย, อ.บาเจาะ 956 ราย, อ.จะแนะ 717 ราย, อ.ยี่งอ 829 ราย, อ.ตากใบ 1,493 ราย, อ.สุไหงโก-ลก 929 ราย, อ.สุไหงปาดี 902 ราย, อ.ศรีสาคร 554 ราย, อ.แว้ง 986 ราย, อ.สุคิริน 392 ราย และ อ.เจาะไอร้อง 657 ราย
จ.สงขลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 273 ราย แยกเป็นกลุ่มสัมผัสผู้ติดเชื้อในพื้นที่ 249 ราย, กลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงในโรงงาน 24 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 20,258 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 20,235 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 23 ราย เป็นผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 3,163 ราย รักษาหายแล้ว 16,982 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 113 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 505 ราย
จำนวนผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.หาดใหญ่ 5,407 ราย, อ.เมืองสงขลา 2,969 ราย, อ.สิงหนคร 2,451 ราย, อ.จะนะ 2,054 ราย, อ.สะเดา 1,601 ราย, อ.เทพา 1,124 ราย, อ.สะบ้าย้อย 905 ราย, อ.รัตภูมิ 572 ราย, สทิงพระ 425 ราย, อ.บางกล่ำ 375 ราย, อ.นาหม่อม 318 ราย, อ.นาทวี 289 ราย, อ.ระโนด 216 ราย, อ.คลองหอยโข่ง 123 ราย, ควนเนียง 117 ราย, อ.กระแสสินธุ์ 18 ราย, เป็นกรณีเรือนจำ รวม 1,103 ราย เป็นคนต่างจังหวัด 168 ราย และจากต่างประเทศ 23 ราย
@@โรงพยาบาลชายแดนใต้ เตียงยังว่างรับผู้ป่วยโควิด
ด้านรายงานข้อมูลเตียงรองรับผู้ป่วยโควิด-19 จากสำนักประชาสัมพันธ์เขต 6 กรมประชาสัมพันธ์ เป็นข้อมูล ณ เวลา 15.30 น. ของวันที่ 31 ส.ค.64 มีข้อมูลดังนี้
จ.สงขลา โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 1,036 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 936 เตียง คงเหลือ 100 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 3,800 เตียง ใช้ไป 2,459 เตียง คงเหลือ 1,341 เตียง ขณะที่อัตราส่วนบุคลากรทางการแพทย์ต่อจำนวนผู้ป่วยในโรงพยาบาลสนาม 1:175
จ.ปัตตานี โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 1,545 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 951 เตียง คงเหลือ 594 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 2,970 เตียง ใช้ไป 820 เตียง คงเหลือ 2,150 เตียง ขณะที่อัตราส่วนบุคลากรทางการแพทย์ต่อจำนวนผู้ป่วยในโรงพยาบาลสนาม อยู่ที่ 1:7
จ.ยะลา โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 791 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 629 เตียง คงเหลือ 162 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 1,088 เตียง ใช้ไป 699 เตียง คงเหลือ 389 เตียง ขณะที่อัตราส่วนบุคลากรทางการแพทย์ต่อจำนวนผู้ป่วยในโรงพยาบาลสนาม 1:99
จ.นราธิวาส โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 918 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 846 เตียง คงเหลือ 72 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 2,700 เตียง ใช้ไป 1,379 เตียง คงเหลือ 1,321 เตียง ขณะที่อัตราส่วนบุคลากรทางการแพทย์ต่อจำนวนผู้ป่วยในโรงพยาบาลสนาม 1:276