เจ้าหน้าที่ยังตรึงกำลังในพื้นที่สายบุรี ปัตตานี พร้อมจัดชุดไล่ล่ากลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง หลังยิงปะทะเมื่อวานดับ 1 ศพ ขณะที่โซเชียลฯฟากหนุนกลุ่มป่วนใต้ยก “สุกรี สะอิ” ที่ถูกวิสามัญฯ เป็น “นักรบปาตานี” ชาวบ้านแห่ร่วมพิธีแน่น ด้าน “ชมรมพ่อบ้านใจกล้า” เปิดระดมทุนช่วยเหลือครอบครัว
ความคืบหน้าเหตุเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงนำกำลังเข้าปิดล้อมและได้เกิดการยิงปะทะกับผู้ก่อเหตุรุนแรง จนเป็นเหตุมีผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ นายสุกรี สะอิ อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาคดีความมั่นคง 2 หมายจับ ในพื้นที่หมู่ 4 ต.ตะบิ้ง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เมื่อวันจันทร์ที่ 30 ส.ค.64 ที่ผ่านมา
ล่าสุด วันอังคารที่ 31 ส.ค. เจ้าหน้าที่ยังคงตรึงกำลังอยู่ในพื้นที่ และเฝ้าสังเกตการณ์โดยรอบจุดเกิดเหตุ ตลอดจนพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม รวมทั้งเฝ้าระวังกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่อาจยังหลงเหลืออยู่ และมีการจัดชุดไล่ล่าผู้ก่อเหตุรุนแรงที่คาดว่าหลบหนีไปได้
ด้านญาติและครอบครัวของ นายสุกรี สะอิ ได้เข้ารับศพไปทำพิธีฝังที่กุโบร์ในพื้นที่บ้านกะลาพอตก หมู่ 8 ต.เตราะบอน อ.สายบุรี ซึ่งเป็นบ้านแม่ของนายสุกรี โดยพิธีจัดขึ้นช่วงค่ำของวันที่มีการปะทะ
บรรยากาศภายในงานพิธีฝังศพ มีการเดินแห่ศพ กล่าวสรรเสริญ มีชาวบ้านในพื้นที่เข้าร่วมประมาณ 500 คน พร้อมมีการสวมหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันและเฝ้าระวังการแพร่เชื้อโควิด-19
ในการประกอบพิธีศพนายสุกรี ไม่มีการอาบน้ำศพ เมื่อละหมาดเสร็จได้ทำพิธีฝังเสร็จเมื่อเวลา 20.10 น. จากนั้นผู้ร่วมพิธีได้ทยอยเดินทางกลับออกจากพื้นที่
มีความเคลื่อนไหวในสื่อสังคมออนไลน์ฟากฝั่งที่สนับสนุนผู้ก่อความรุนแรง มีการโพสต์และแชร์คลิปที่ชาวบ้านแห่ศพไปทำพิธีฝัง ทั้งยังมีมีข้อความในเชิงชื่นชมว่า นายสุกรี สะอิ ได้เป็นนักรบปาตานีที่เสียสละกับคำมั่นเพื่อปลดปล่อยจากอาณานิคมสยาม รวมทั้งประกาศจะยืนหยัดต่ออุดมการณ์ปาตานีเอกราชต่อไป
ด้านเพจเฟซบุ๊กชมรมพ่อบ้านใจกล้า Butler's Club ได้มีความเคลื่อนไหวเปิดระดมทุน ครั้งที่ 7 เพื่อช่วยเหลือครอบครัวของ นายสุกรี สะอิ โดยเปิดให้บริจาคเข้าบัญชีเลขที่ 020368880397 ชื่อบัญชี ชมรมพ่อบ้านใจกล้า ธนาคารออมสิน สาขาถนนหนองจิก ปัตตานี
ที่ผ่านมา “ชมรมพ่อบ้านใจกล้า Butler's Club” ได้เปิดรับบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากการถูกวิสามัญฆาตกรรม ซึ่งต้องสูญเสียคนในครอบครัวไปแล้ว 6 ครั้ง ครั้งล่าสุดก่อนครั้งนี้คือการเปิดรับบริจาคให้ครอบครัว นายรอซาลี หลำโสะ ที่ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญฯ ได้เงินบริจาคทั้งหมด 132,716 บาท และได้นำไปมอบให้ครอบครัวของนายรอซาลี เมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา