ศอ.บต.ช่วยนักศึกษาชายแดนใต้ในต่างแดนกว่า 25 ประเทศทั่วโลกที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ให้เดินทางกลับไทยแล้วกว่า 50 ราย ย้ำยังมีเข้ามาอีกต่อเนื่อง ขณะที่เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเบตงเร่งฝังศพหญิงป่วยโควิดดับรายที่ 7 ของอำเภอ ด้านสงขลาติดเชื้อใหม่ 350 ราย ป่วยสะสมใกล้แตะ 2 หมื่น
วันอาทิตย์ที่ 29 ส.ค.64 พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เปิดเผยถึงแนวทางการช่วยเหลือนักศึกษาไทยในต่างประเทศว่า จากสถานการณ์ของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนชาวไทยมุสลิมซึ่งเป็นบุตรหลานของคนในพื้นที่ที่เดินทางไปศึกษาในต่างประเทศกว่า 25 ประเทศทั่วโลก และมีบางส่วนยังคงอาศัยอยู่ในต่างประเทศ เนื่องจากประสบปัญหาความเดือดร้อน เช่น วีซ่าหรือหนังสือเดินทางใกล้หมดอายุ มีปัญหาด้านสุขภาพหรือประสบปัญหาด้านค่าใช้จ่ายในการเดินทางกลับ
ที่ผ่านมาทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือกลุ่มนักศึกษาไทยเหล่านี้ให้สามารถกลับสู่บ้านเกิดของตนเองได้
ในเบื้องต้นพบว่ากว่า 25 ประเทศทั่วโลกที่มีนักศึกษาไทยอาศัยอยู่นั้น หลักๆ คือประเทศอินโดนีเซีย มีนักศึกไทยที่ได้รับความเดือดร้อนกว่า 40 ราย นอกจากนั้นยังมีประเทศบรูไน อิสราเอล ตุรกี ซูดาน ฯลฯ ที่ผ่านมา ศอ.บต.ได้ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงการต่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูต กงสุลใหญ่ รวมถึงสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ดำเนินการขับเคลื่อน ประสานงาน เพื่อช่วยเหลือนักศึกษาไทยเหล่านี้ให้กลับเข้ามาในประเทศได้ และเข้าสู่ระบบกักโรค (Alternative Quarantine) ตามมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ที่ได้กำหนดไว้ทันที โดยมีเจ้าหน้าที่จัดเตรียมสถานที่และอำนวยความสะดวกให้ในเบื้องต้น ซึ่งตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค.64 เป็นต้นมา มีนักศึกษาทยอยเข้ามาในประเทศแล้วกว่า 50 ราย และคาดว่าจะเข้ามาอีกอย่างต่อเนื่อง
เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวทิ้งท้ายว่า ในฐานะหน่วยงานภาครัฐขอยืนยันว่า คนไทยทุกคนไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่ไหนของโลก เราทุกคนคือคนไทยและพลเมืองไทยที่จะต้องได้รับการดูแลจากภาครัฐอย่างดีที่สุด และจะไม่ทอดทิ้งให้โดดเดี่ยว
@@ เร่งฝังศพหญิงป่วยโควิดดับรายที่ 7 ของเบตง
นพ.สวรรค์ กาญจนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเบตง จ.ยะลา เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ อ.เบตง ล่าสุดมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย เป็นหญิง อายุ 49 ปี อาศัยอยู่ในพื้นที่ บ้าน กม.36 ต.อัยเยอร์เวง โดยผู้เสียชีวิตได้ไปสัมผัสกับผู้ป่วยโควิดในครอบครัวที่เดินทางกลับมาจาก จ.ปัตตานี และเข้ารับการตรวจหาเชื้อและตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 จึงเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเบตง เมื่อวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา และเสียชีวิต
โดยภายหลังการเสียชีวิต เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเบตง อสม. และทีมอาสาสมัครกู้ชีพกู้ภัยมุสลิมเบตง ได้สวมชุด PPE ป้องกันตนเอง พร้อมสวมถุงมือยางและหน้ากากอนามัย นำร่างผู้เสียชีวิตจากตึกไอซียูโควิด-19 โรงพยาบาลเบตง เพื่อประกอบพิธีละหมาดญะนาซะห์และฝังศพตามหลักศาสนาอิสลาม ที่กุโบร์อัยเยอร์เวง ต.อัยเยอร์เวง พร้อมปฏิบัติตามแนวทางและมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด จนการฝังแล้วเสร็จ นับเป็นผู้เสียชีวิตจากโควิดรายที่ 7 ของพื้นที่ อ.เบตง
ผอ.รพ.เบตง กล่าวอีกว่า เราจะมีภูมิคุ้มกันหมู่ทุกหมู่บ้าน 80% หากทุกคนร่วมกัน คนเบตงจะใช้ชีวิตตามปกติได้ วัคซีนที่ดีที่สุดคือวัคซีนที่ฉีดอยู่ขณะนี้ คือ "ฉีดเร็ว ให้ผลดี ให้ผลไว"
@@ สงขลาติดเชื้อใหม่ 350 ราย ป่วยสะสมใกล้แตะ 2 หมื่น
ด้านรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้และสงขลา ประจำวันอาทิตย์ที่ 29 ส.ค.64 มีดังนี้
จ.ปัตตานี มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 169 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 15,325 ราย รักษาหายแล้ว 11,311 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 3 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 229 ราย ผู้ป่วยแยกรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี 141 ราย, โรงพยาบาลสนามจังหวัด 201 ราย, โรงพยาบาลสนามเรือนจำ 18 ราย, โรงพยาบาลประจำอำเภอ 577 ราย, โรงพยาบาลชุมชน 479 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส 41 ราย, สิโรรส-ปาร์ควิว ฮอสพิเทล 147 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส เรนโบว์ ฮอสพิเทล 35 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์สะพานปูน 1 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์โรงยิมบานา 23 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์ เซาท์เทิร์น วิว 108 ราย และ Home Isolation จำนวน 29 ราย
จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 อยู่ระหว่างรักษารวม 2,677 ราย แยกรายอำเภอ ได้แก่ อ.เมือง 882 ราย, อ.หนองจิก 341 ราย, อ.โคกโพธิ์ 70 ราย, อ.ยะหริ่ง 250 ราย, อ.สายบุรี 208 ราย, อ.ไม้แก่น 2 ราย, อ.แม่ลาน 12 ราย, อ.ยะรัง 332 ราย, อ.ปะนาเระ 117 ราย, อ.ทุ่งยางแดง 81 ราย, อ.มายอ 243 ราย และ อ.กะพ้อ 80 ราย
จ.ยะลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 208 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 11,499 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 2,088 ราย รักษาหายแล้ว 9,299 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 2 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 112 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 233 ราย ซึ่งจำนวนผู้ป่วยแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.เมืองยะลา 4,408 ราย, อ.กรงปินัง 868 ราย, อ.เบตง 593 ราย, อ.รามัน 1,095 ราย, อ.บันนังสตา 2,142 ราย, อ.กาบัง 353 ราย, อ.ธารโต 889 ราย และอ.ยะหา 1,151 ราย
ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 2,088 ราย แยกเป็น โรงพยาบาลยะลา 170 ราย, โรงพยาบาลเบตง 64 ราย, โรงพยาบาลชุมชน (รพช.) 6 แห่ง 386 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส 89 ราย, โรงพยาบาลสนาม อ.เมือง 699 ราย, โรงพยาบาลสนามเบตง 13 ราย, โรงพยาบาลสนามรามัน 21 ราย, โรงพยาบาลสนามบันนังสตา 214 ราย, โรงพยาบาลสนามยะหา 75 ราย, โรงพยาบาลสนามธารโต 9 ราย, โรงพยาบาลสนามกรงปินัง 67 ราย, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ศอ.12 ยะลา 23 ราย, ผู้ป่วยแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) จำนวน 21 ราย, ผู้ป่วยแยกกักตัวในชุมชน (Community Isolation) 52 ราย อยู่ระหว่างดำเนินการเข้าระบบ 185 ราย
จ.นราธิวาส มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 198 ราย แยกเป็น พื้นที่ อ.เมือง 64 ราย, อ.ตากใบ 2 ราย, อ.ยี่งอ 3 ราย, อ.จะแนะ 14 ราย, อ.แว้ง 1 ราย, อ.สุคิริน 1 ราย, อ.รือเสาะ 8 ราย, อ.บาเจาะ 2 ราย, อ.ระแงะ 4 ราย, อ.ศรีสาคร 14 ราย, อ.เจาะไอร้อง 60 ราย , อ.สุไหงปาดี 8 ราย และ อ.สุไหงโก-ลก 17 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 13,063 ราย รักษาหายสะสม 10,280 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 2 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 151 ราย
ผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ได้ดังนี้ อ.เมือง 2,726 ราย, อ.ระแงะ 1,516 ราย, อ.รือเสาะ 665 ราย, อ.บาเจาะ 928 ราย, อ.จะแนะ 683 ราย, อ.ยี่งอ 816 ราย, อ.ตากใบ 1,491 ราย, อ.สุไหงโก-ลก 927 ราย, อ.สุไหงปาดี 867 ราย, อ.ศรีสาคร 489 ราย, อ.แว้ง 946 ราย, อ.สุคิริน 365 ราย และ อ.เจาะไอร้อง 644 ราย
จ.สงขลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 350 ราย แยกเป็นกลุ่มสัมผัสผู้ติดเชื้อในพื้นที่ 282 ราย, กลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงในโรงงาน 48 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 19,655 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 19,632 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 23 ราย เป็นผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 2,904 ราย รักษาหายแล้ว 16,640 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 1 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 111 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 418 ราย
จำนวนผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.หาดใหญ่ 5,328 ราย, อ.เมืองสงขลา 2,911 ราย, อ.สิงหนคร 2,221 ราย, อ.จะนะ 1,996 ราย, อ.สะเดา 1,536 ราย, อ.เทพา 1,096 ราย, อ.สะบ้าย้อย 872 ราย, อ.รัตภูมิ 564 ราย, สทิงพระ 425 ราย, อ.บางกล่ำ 365 ราย, อ.นาหม่อม 318 ราย, อ.นาทวี 282 ราย, อ.ระโนด 199 ราย, อ.คลองหอยโข่ง 123 ราย, ควนเนียง 111 ราย, อ.กระแสสินธุ์ 18 ราย, เป็นกรณีเรือนจำ รวม 1,103 ราย เป็นคนต่างจังหวัด 164 ราย และจากต่างประเทศ 23 ราย
@@ 4 จังหวัดชายแดนใต้เตียงรับผู้ป่วยโควิดยังว่าง
ด้านรายงานข้อมูลเตียงรองรับผู้ป่วยโควิด-19 จากสำนักประชาสัมพันธ์เขต 6 กรมประชาสัมพันธ์ เป็นข้อมูล ณ เวลา 15.30 น. ของวันที่ 29 ส.ค.64 มีข้อมูลดังนี้
จ.สงขลา โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 1,046 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 949 เตียง คงเหลือ 97 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 3,626 เตียง ใช้ไป 2,271 เตียง คงเหลือ 1,355 เตียง ขณะที่อัตราส่วนบุคลากรทางการแพทย์ต่อจำนวนผู้ป่วยในโรงพยาบาลสนาม 1:162
จ.ปัตตานี โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 1,403 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 956 เตียง คงเหลือ 447 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 2,970 เตียง ใช้ไป 881 เตียง คงเหลือ 2,089 เตียง ขณะที่อัตราส่วนบุคลากรทางการแพทย์ต่อจำนวนผู้ป่วยในโรงพยาบาลสนาม อยู่ที่ 1:8
จ.ยะลา โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 791 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 620 เตียง คงเหลือ 171 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 1,088 เตียง ใช้ไป 712 เตียง คงเหลือ 376 เตียง ขณะที่อัตราส่วนบุคลากรทางการแพทย์ต่อจำนวนผู้ป่วยในโรงพยาบาลสนาม 1:101
จ.นราธิวาส โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 904 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 902 เตียง คงเหลือ 2 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 2,700 เตียง ใช้ไป 1,387 เตียง คงเหลือ 1,313 เตียง ขณะที่อัตราส่วนบุคลากรทางการแพทย์ต่อจำนวนผู้ป่วยในโรงพยาบาลสนาม 1:277