ปฏิบัติการปิดล้อม “กะดุนง” หลังยิงปะทะกลางดึก เจ้าหน้าที่เข้าเคลียร์ พบผู้ก่อเหตุเสียชีวิต 2 ราย รอพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล ด้านแม่ทัพภาค 4 ขู่เอาผิดผู้ให้ที่พักพิง-หลบซ่อน เชื่อคนร้ายเป็นกลุ่มเดิมๆ ที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่
ความคืบหน้าปฏิบัติการปิดล้อมเพื่อจับกุมกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง บริเวณป่าสาคูในพื้นที่รอยต่อระหว่างบ้านเมาะแซง ต.ปล่องหอย อ.กะพ้อ กับบ้านบืแดบาแน ต.กะดุนง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ซึ่งยืดเยื้อมาตั้งแต่วันจันทร์ที่ 5 ก.ค.64 ที่ผ่านมา
โดยช่วงที่การปิดล้อมเข้าสู่วันที่ 4 เจ้าหน้าที่ได้เปลี่ยนแผน ใช้รถแบ็คโฮเข้าเคลียร์กระชับพื้นที่ และปรับบพื้นที่ให้เตียนโล่ง ถางป่าที่รกทึกออก ทำให้เห็นร่องรอยของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงและเกิดการปะทะขึ้นอีกระลอกในวันที่ 5 ของการปิดล้อม (9 ก.ค.)
ฝ่ายเจ้าหน้าที่ได้ใช้อาวุธเข้าต่อสู้ ยิงปะทะกันนานประมาณ 4 ชั่วโมงจนเสียงปืนสงบลง แต่เนื่องจากว่า ใกล้เวลาค่ำมืด ทำให้เจ้าหน้าที่ตัดสินใจปิดล้อมพื้นที่เอาไว้ เพื่อเข้าเคลียร์ในช่วงเช้าของวันถัดไป
ล่าสุดวันนี้ (10 ก.ค.) เจ้าหน้าที่พบร่างของผู้ก่อเหตุรุนแรงเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 2 ราย แต่การเปิดพื้นที่เพื่อเข้าเคลียร์ยังไม่แล้วเสร็จทุกจุด ทำให้ในขณะนี้ยังไม่สามารถทราบได้ว่ามีผู้เสียชีวิตมากกว่า 2 รายหรือไม่
พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า วันนี้ (10 ก.ค.) นับเป็นวันที่ 6 แล้วในการปิดล้อมกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง จะเห็นว่าทางเจ้าหน้าที่พยายามจะปฏิบัติตามหลักสากล จากเบาไปหาหนัก มีการนำผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น ผู้นำทางศาสนา เข้าไปพูดคุยเกลี้ยกล่อมให้ออกมามอบตัว แต่กลุ่มผู้ก่อเหตุได้มีการต่อสู้เรื่อยมา ทำให้ยากลำบากในการปฏิบัติ
จึงตัดสินใจใช้เครื่องมือช่วยกระชับวงล้อม เพื่อให้ผู้ก่อเหตุรุนแรงได้เห็นโอกาสว่า ในการต่อสู้กับเจ้าหน้าที่นั้น เป็นไปได้ยาก ฉะนั้นก็มีทางเดียวก็คือออกมามอบตัว โดยใช้เครื่องมือทางการช่าง เพื่อให้เข้าถึงตัว จนสามารถพบฐานปฏิบัติการของผู้ก่อเหตุรุนแรง ซึ่งฐานดังกล่าวสามารถอยู่ได้จำนวนหลายคนและน่าจะอยู่กันมานานแล้ว
“ก็ขอฝากไปยังพื้นที่ว่า ถ้าหากให้การสนับสนุน ให้ที่พักพิงแก่ผู้ก่อเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการตามมาตรการ ตามกฎหมาย มาตรา 189 (ประมวลกฎหมายอาญา ผู้ที่ให้การสนับสนุนแก่คนร้าย ก็จะมีโทษด้วยตามกฎหมาย”
“ส่วนกลุ่มผู้ก่อเหตุกลุ่มนี้ เชื่อว่าเป็นกลุ่มที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ อ.สายบุรี อ.กะพ้อ และ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี เป็นกลุ่มเดิมๆ ที่ทางเจ้าหน้าที่ได้ติดตามตัวมาอย่างต่อเนื่อง กลุ่มนี้ก็เชื่อมโยงกับกลุ่มที่เคยลอบทำร้ายผู้บริสุทธิ์ตามเส้นทางสายบุรี ซึ่งตอนนี้คาดว่ามีกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงเสียชีวิตเพิ่ม แต่ต้องรอให้ทางเจ้าหน้าที่เข้าเคลียร์พื้นที่ก่อน ซึ่งคาดว่าภายในวันสองวันนี้น่าจะยุติได้” แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าว
พ.อ.เกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการปิดล้อมว่า หลังจากที่มีการพยายามปิดล้อมกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง และเจ้าหน้าที่พยายามเจรจามาตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา จนกระทั่งเมื่อคืน (คืนวันศุกร์ที่ 9 ก.ค.) เวลา 01.00 น. ก็ได้เกิดการยิงต่อสู้กันระหว่างเจ้าหน้าที่กับผู้ก่อเหตุรุนแรง ในตอนเช้าเจ้าหน้าที่ก็ได้เข้าตรวจสอบในพื้นที่ ตอนแรกพบเสียชีวิต 1 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่เพิ่งได้ดำเนินการเข้าพิสูจน์ทราบ เพิ่งเคลื่อนย้ายศพออกไป เพื่อพิสูจน์เพิ่มเติมที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสายบุรี
สรุปผลจากการปฏิบัติในพื้นที่ล่าสุดพบว่า มีผู้ก่อเหตุรุนแรงเสียชีวิตอยู่ในพื้นที่จำนวน 2 ราย อยู่ระหว่างดำเนินการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล ถ้าหากทราบผลจะรายงานให้ทราบต่อไป
สำหรับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ขอให้ประชาชนได้เชื่อมั่นและมั่นใจในเรื่องของการปฏิบัติว่า จะดำเนินการทุกขั้นตอนด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม ด้วยความโปร่งใส่ ปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัด เราใช้การเจรจาเป็นหลักทุกขั้นตอน เพื่อจะให้ผู้ก่อเหตุรุนแรงที่ยังคงหลบซ่อนอยู่ในพื้นที่ออกมามอบตัว ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบว่าพื้นที่ป่าตรงนี้ยังมีผู้ก่อเหตุรุนแรงหลบซ่อนอีกหรือไม่ เนื่องจากผืนป่าเชื่อมต่อกันตลอดหลายพื้นที่ และมีแนวค่อนข้างกว้าง ทางเจ้าหน้าที่จึงต้องทำการล้อมเอาไว้ เพื่อไม่ให้ผู้ก่อเหตุรุนแรงหลบหนีออกไปได้