กลุ่มก่อความไม่สงบลอบก่อเหตุวางเพลิงเผาเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือหลายจุด กระจายในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
กระแสแข่งขันในการเลือกตั้งใหญ่วันอาทิตย์ที่ 14 พ.ค.นี้ กำลังร้อนแรง ปรากฏว่ามีกำลังพลของกองทัพภาคที่ 4 วางตัวไม่เป็นกลางทางการเมือง ล่าสุดโดนหน่วยต้นสังกัดสั่งลงทัณฑ์แล้ว
บีอาร์เอ็น แถลงการณ์ผ่านคลิปวีดีโอใน YouTube อ้างไม่ได้ล้มโต๊ะพูดคุยเจรจาสันติภาพ-สันติสุข แต่สาเหตุที่ไม่ความคืบหน้าเพราะรัฐบาลไทยจะจัดตั้งรัฐบาลใหม่ เชื่อว่ากระบวนการสันติภาพจะได้ผลดีกว่าหลังไทยมีรัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตยและมีความจริงจังชัดเจน
ช่วงนี้ภาคใต้ชุ่มฝน ทำให้เวทีของหลายพรรคการเมืองต้องจัดกันแบบเปียกปอน
พรรคประชาธิปัตย์ประกาศดัน “เบตง” สู่เมืองเศรษฐกิจการค้าชายแดนใต้ ชูระเบียงเศรษฐกิจฮาลาลสู่ครัวโลกมุสลิม ทำได้จริงไม่ขายฝัน พร้อมหนุนวิสาหกิจชุมชนโคบาลปลายด้ามขวาน ด้าน “ลุงตู่” ลุยนราธิวาสช่วยผู้สมัคร ส.ส.หาเสียงโค้งสุดท้าย ขณะที่ “ทวี” ควง “สุรเชษฐ์” นำทัพผู้สนับสนุน 300 คน หาเสียง อ.แว้ง ช่วย “กำนันลี”
“ดาโต๊ะนิเดร์” หรือ นายนิเดร์ วาบา ผู้ก่อตั้งโรงเรียนสายบุรีอิสลามวิทยา อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ซึ่งได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในพื้นที่ และเป็นปราชญ์ที่ประชาชนให้ความเคารพศรัทธา ประกาศยืนเคียงข้างพรรคประชาชาติในการเลือกตั้งทั่วไป 14 พ.ค.66
รองแม่ทัพภาค4 เตรียมประสานผู้อำนวยความสะดวกมาเลเซีย ขอความชัดเจนหลัง “บีอาร์เอ็น” ออกแถลงการณ์ขอยุติการพูดคุยชั่วคราว อ้างรอรัฐบาลใหม่หลังเลือกตั้ง
แม่ทัพภาค 4 ใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าที่ยะลา เน้นย้ำมาตรการความปลอดภัย เตรียมส่งกำลัง รปภ.พื้นที่เสี่ยง เฮลิคอปเตอร์ขนหีบบัตรพื้นที่ห่างไกล พร้อมให้เจ้าหน้าที่รัฐวางตัวเป็นกลาง ด้าน ผอ.กกต.ยะลา เตือนห้ามใส่เสื้อพรรคการเมืองเข้าคูหา เหตุผิดกฎหมาย โทษทั้งจำทั้งปรับ ส่วนที่นราธิวาส ทหารตบเท้าเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัดคึกคัก
“โรม-ไอติม” ลุยชายแดนใต้ช่วยลูกพรรคก้าวไกลหาเสียงโค้งสุดท้าย ตั้งใจปักธงปลดล็อกกฎหมายพิเศษที่อุปสรรคต่อการพัฒนา ด้าน “นัจมุดดีน ภูมิใจไทย” เผยกระแสตอบรับดี มั่นใจล้มช้างเขต 1 นราธิวาส ส่วนพรรคเป็นธรรมโผล่ชูป้ายนโยบาย “พาทหารกลับบ้าน” หน้าค่ายอิงคยุทธฯ ปัตตานี “ทวี-วันนอร์” ปราศรัยมาราธอนขอแลนด์สไลด์
ปัจจัยที่มองข้ามไม่ได้เลยของการเลือกตั้งทั่วไปในประเทศไทย วันที่ 14 พ.ค.66 นี้ ก็คือบทบาทของต่างชาติ โดยเฉพาะชาติมหาอำนาจที่จะส่งผลทางใดทางหนึ่งต่อการเลือกตั้ง และพรรคการเมืองที่จะเข้ามาควบคุมอำนาจรัฐในระยะต่อไป