แม้บอร์ดองค์การสวนสัตว์จะพยายามอธิบายว่าปัญหาภายในสวนสัตว์สงขลาที่นำมาสู่การใช้ปืนตัดสินนั้น เป็นเพียงเรื่องของอารมณ์ชั่ววูบ โดยไม่มีเรื่องการทุจริตหรือขบวนการค้าสัตว์ป่าเข้ามาเกี่ยวข้องก็ตาม
แต่จากการตรวจสอบพบของ "ทีมข่าวอิศรา" พบว่าภายในสวนสัตว์สงขลามีปัญหาความขัดแย้งภายใน และมีข้อกล่าวหาเรื่องทุจริตเกิดขึ้นจริง โดยมีการร้องเรียนไปถึงสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. เขต 9 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างด้วย
เรื่องร้องเรียนนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2561 สำนักงาน ป.ป.ท.เขต 9 ได้รับเรื่องกล่าวหาคณะผู้บริหารสวนสัตว์สงขลากระทำการทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที โดยมีพฤติการณ์ที่สำคัญ 3 เรื่องคือ
1. ทุจริตโครงการปรับปรุงแหล่งน้ำภายในสวนสัตว์สงขลา ปีงบประมาณ 2559 วงเงิน 48,900,000 บาท
2. นำทรัพย์สินของสวนสัตว์สงขลาไปขาย แล้วนำเงินมาใช้ประโยชน์ส่วนตัว
และ 3. มีการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว เอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้อง มีส่วนได้ส่วนเสียกับบุคคลภายนอก
หลังรับเรื่องมาแล้ว ทางสำนักงาน ป.ป.ท.เขต 9 ตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นพบว่ามีมูล จึงส่งเรื่องต่อไปยังสำนักงาน ป.ป.ช. หรือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จากนั้นสำนักงาน ป.ป.ช.ส่วนกลาง ได้ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.จังหวัดสงขลา ไต่สวนต่อ
ผลการไต่สวนเบื้องต้นประกอบข้อกล่าวหา พบว่า การดำเนินโครงการปรับปรุงแหล่งน้ำภายในสวนสัตว์สงขลา ผู้รับเหมาไม่ได้ดำเนินการตามรายละเอียดที่ระบุไว้ในสัญญา เช่น ไม่มีการบดอัดดินบริเวณคันสระน้ำ ทำให้เกิดการทรุดตัวของดินที่ถม, งานปูผ้ายาง ก็มีการปูผ้ายางเพียงครึ่งเดียวของคันสระน้ำ คือครึ่งด้านบน ไม่มีการปูผ้ายางบริเวณท้องสระ หรือครึ่งสระด้านล่าง ทำให้ไม่สามารถกักเก็บน้ำได้ 100% และไม่สามารถเก็บกักน้ำได้ตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
นอกจากนั้นยังมีการสั่งซื้อครุภัณฑ์ที่ใช้กับอ่างเก็บน้ำ เช่น เรือจักรยานน้ำ ตามแบบที่ระบุในสัญญาเป็นสแตนเลส แต่ส่งมอบครุภัณฑ์จริงกลายเป็นไฟเบอร์ เหล่านี้เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดถือว่าเข้าข่ายผิดสัญญา แต่ผู้บริหารสวนสัตว์สงขลากลับเบิกจ่ายงบประมาณให้กับผู้รับเหมาไปหมดแล้ว
จากการตรวจสอบของ ป.ป.ช.สงขลา ยังพบว่า โครงการนี้มีปัญหามาตั้งแต่ช่วงการประมูลงาน เพราะมีเรื่องร้องเรียนจากผู้เข้าประมูลบางรายว่าถูกทางสวนสัตว์สงขลาตัดสิทธิ์ไม่ให้เข้าร่วมประมูล
"ทีมข่าวอิศรา" ยังได้ขอสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับผู้บริหารสำนักงาน ป.ป.ช.เขต 9 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง และ จ.สงขลา ได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในเรื่องการทุจริตโครงการปรับปรุงแหล่งน้ำภายในสวนสัตว์สงขลา วงเงิน 48,900,000 บาท ทาง ป.ป.ช.ได้ไต๋ส่วนไปเยอะแล้ว โดยในชั้นตรวจสอบถือว่ามีมูล จากนั้นก็ให้ชี้แจงข้อกล่าวหา และรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม
"หลังจากมีข่าวก็ได้สอบถามเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นทราบว่าอยู่ระหว่างเร่งรัดการดำเนินการ ถือว่าได้ไต๋ส่วนข้อเท็จจริงไปเยอะพอสมควร คิดว่าไม่นานนี้น่าจะเร่งรัดให้เสร็จได้ น่าจะไม่เกิน 6 เดือน" แหล่งข่าวซึ่งเป็นระดับผู้บริหารของสำนักงาน ป.ป.ช.เขต 9 ระบุ
ส่วนข้อกล่าวหาที่ 2 เรื่องการนำทรัพย์สินของสวนสัตว์สงขลาไปขาย แล้วนำเงินมาใช้ประโยชน์ส่วนตัวนั้น แหล่งข่าว ให้ข้อมูลว่า เป็นสายไฟและเครื่องปั่นไฟ ขณะนี้อยู่ในชั้นการตรวจสอบข้อเท็จจริง มีการไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และร้องเรียนเข้ามาว่าสายไฟและเครื่องปั่นไฟเหลืออยู่ไม่ครบถ้วน เรื่องนี้ถือว่าอยู่ระหว่างการตรวจสอบ โดยมีข้อมูลที่ไต่สวนเบื้องต้นโดย ป.ป.ท.เขต 9 ว่า มีการไปตั้งงบซื้อเครื่องปั่นไฟใหม่ทดแทน แต่เป็นเครื่องมือสอง จึงนำมาสู่การร้องเรียน
สำหรับข้อกล่าวหาที่ 3 มีการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว เอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้อง และมีส่วนได้ส่วนเสียกับบุคคลภายนอกนั้น แหล่งข่าวบอกว่า เป็นเรื่องร้องเรียนการไปตัดสิทธิ์บริษัทที่ยื่นประมูลโครงการปรับปรุงแหล่งน้ำภายในสวนสัตว์ ซึ่งในชั้นตรวจสอบยังมีข้อมูลไม่มากพอ ขณะที่การร้องเรียนเรื่องสัตว์หาย ช่วงที่ผ่านมายังไม่มี เพิ่งจะมีกรณีลูกเก้งเผือกพันธุ์พระราชทาน
มีรายงานเพิ่มเติมว่า ช่วงที่เกิดปัญหาร้องเรียนในประเด็นเหล่านี้ เป็นช่วงที่ นายเฉลิมวุฒิ เกษตรสมบูรณ์ เป็นผู้อำนวยการสวนสัตว์สงขลา ซึ่งนายเฉลิมวุฒิก็ทำหน้าที่ต่อเนื่องมาจนถึงปี 2563 กระทั่งถูกสั่งย้ายจากกรณีลูกเก้งเผือกสายพันธุ์พระราชทานสูญหายถึง 2 ตัวในระยะเวลาเพียง 7-8 เดือน
ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่าง นายสัตวแพทย์ภูวดล สุวรรณะ หัวหน้าฝ่ายอนุรักษ์วิจัยและสุขภาพสัตว์ ที่ก่อเหตุยิง นายสุริยา แสงพงค์ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ จนเสียชีวิต และยิงตัวเองตายตามนั้น จากการตรวจสอบพบว่าทั้งสองเป็นรุ่นพี่น้องกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมใน จ.สงขลา และรู้จักกันมาก่อน
จากการสอบถามศิษย์เก่าโรงเรียนเดียวกันซึ่งรู้จักกับทั้งสองคน ได้รับคำยืนยันว่า การก่อเหตุของ นายสัตวแพทย์ภูวดล น่าจะเกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ เพราะเครียดที่ต้องถูกย้าย และต้นเหตุมาจากเรื่องลูกเก้งเผือกสายพันธุ์พระราชทานสูญหาย ทำให้กลัวว่าเรื่องราวจะบานปลาย จึงลงมือก่อเหตุ โดยไม่ได้มีความขัดแย้งกับนายสุริยามาก่อน
แต่ข้อมูลนี้สวนทางกับคำบอกเล่าของคนใกล้ชิดนายสัตวแพทย์ภูวดล ที่ระบุทำนองว่า นายสัตวแพทย์ภูวดลเครียดสะสมจากการทำงาน เพราะถูกนายสุริยาตำหนิมาตลอดตั้งแต่สมัยเป็นรองผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ ขณะที่การถูกสั่งย้ายในครั้งนี้ ยิ่งทำให้รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากตัวนายสัตวแพทย์ภูวดล ไม่ได้มีชื่อถูกตั้งกรรมการสอบสวนกรณีลูกเก้งเผือกสูญหาย แต่กลับถูกสั่งย้าย และถูกผู้บังคับบัญชาตำหนิเหมือนเช่นทุกครั้ง จนนายสัตวแพทย์ภูวดล คิดจะลาออก แต่สุดท้ายกลับเลือกวิธีการยิงนายสุริยา และยิงตัวเองตายตาม