
การตัดสินใจยุบสภาของนายกฯอนุทิน ชาญวีรกูล ทำให้รัฐบาลที่เคยมีอำนาจเต็มมือตามกฎหมาย กลายสภาพเป็น “รัฐบาลรักษาการ”
สังคมพุ่งเป้าตั้งคำถามไปที่ผลกระทบต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่กำลังมีการรบพุ่งกันอยู่ พร้อมๆ กับที่ชาติมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกายื่นมือเข้ามาทำหน้าที่ “ผู้ไกล่เกลี่ย” อีกรอบ
การตัดสินใจใดๆ ล้วนต้องอาศัย “อาณัติ” และ “อำนาจเต็มตามกฎหมาย” ในฐานะตัวแทนปวงชนชาวไทย ฉะนั้นผลกระทบจากสถานะของรัฐบาล จึงกระเพื่อมและสะเทือนถึงการจัดการปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาไม่มากก็น้อย
แต่ชายแดนด้านตะวันออกก็ไม่ได้เป็นชายแดนด้านเดียวที่ประสบปัญหาและได้รับผลกระทบ เพราะหลายคนอาจจะลืมไปแล้วว่า ยังมีปัญหาชายแดนด้านใต้ที่เรื้อรังมานานกว่า 21 ปี ต้องการรัฐบาลอำนาจเต็มร้อยเข้าไปจัดการถอดสลักความรุนแรงเสียทีเช่นกัน
โดยเฉพาะขณะนี้กำลังมีกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้กันอยู่ จากคณะพูดคุยชุดใหม่ที่เพิ่งตั้งได้ไม่นาน ภายใต้การนำของ พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา อดีตเลขาธิการ สมช.
เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.68 ที่ผ่านมา พล.อ.สมศักดิ์ เพิ่งนำคณะไปพบปะพูดคุยเป็นการ “ประเดิม” กับฝ่าย BRN ซึ่งถือเป็นการรื้อฟื้นกระบวนการสันติภาพขึ้นมาใหม่ หลังจากหยุดชะงักไปนาน 15 เดือน
อ่านประกอบ : “บิ๊กอั๋น” นำคณะพูดคุยฯ ถก BRN ตั้งเป้ายุติรุนแรง - แก้ปมการเมือง
แต่ปรากฏว่าพูดคุยนัดประเดิมได้แค่ 4 วัน ก็มีอันต้องยุบสภา ทำให้ พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เป็นหัวหน้าพูดคุยที่ทำหน้าที่ได้สั้นที่สุดตั้งแต่เปิดโต๊ะพูดคุยครั้งแรกเมื่อปี 2556 เพราะหากนับตั้งแต่วันที่นายกฯอนุทิน มีคำสั่งตั้ง “บิ๊กอั๋น” เป็นห้วหน้าคณะพูดคุย เมื่อวันที่ 2 ต.ค.68 เขาได้ทำงานแค่ 70 วัน ก็เจอสถานการณ์ยุบสภา และรัฐบาลกลายเป็น “รักษาการ”
เมื่อคณะพูดคุยฯ แต่งตั้งโดย “ฝ่ายบริหาร” คือ “ผู้นำรัฐบาล” สถานะของคณะพูดคุยจึงหมดลงไปตามรัฐบาลด้วยนั่นเอง
“ทีมข่าวอิศรา” สำรวจความเห็นจากผู้รู้และผู้เกี่ยวข้องในกระบวนการสันติภาพชายแดนใต้ ทั้งทางตรงและทางอ้อม เกี่ยวกับสถานการณ์นี้ และอนาคตของโต๊ะพูดคุย เพราะจะว่าไป สถานะของรัฐบาลเสียงข้างน้อย และเป็นรัฐบาลชั่วคราวของพรรคภูมิใจไทย และนายอนุทิน ชาญวีรกูล ก็มีเสียงท้วงติงตั้งแต่แรกแล้วว่า “จะตั้งคณะพูดคุยไปเพื่ออะไร?”
เพราะนายกฯก็ประกาศอยู่ปาวๆ ว่าจะอยู่แค่ 4 เดือน
ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.สุรชาติ บำรุงสุข นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศชื่อดัง กล่าวว่า ไม่ต้องพูดสถานะของคณะพูดคุย แต่พูดถึงสถานะของรัฐบาลก็จะเห็นภาพชัด ปัจจุบันรัฐบาลมีสถานะ “รักษาการ” จึงทำความตกลงอะไรที่มีผลผูกพันทางกฎหมายไม่ได้ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับงานความมั่นคง
“ฉะนั้นแม้จะพูดคุยต่อไปได้ แต่ใครจะคุยกับตัวแทนรัฐบาลที่หมดอำนาจ เพราะคุยไปก็ไม่มีประโยชน์ เผลอๆ อาจใช้จังหวะนี้ก่อความรุนแรงเพื่อสร้างความได้เปรียบต่อไป”
พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการ สมช. และอดีตหัวหน้าคณะพูดคุยสันติภาพคนแรก ในยุคของการ “เปิดโต๊ะพูดคุยแบบเปิดเผย เป็นทางการ” เมื่อปี 2556 กล่าวว่า เมื่อนายกฯยุบสภา กระบวนการพูดคุยก็ขยับต่อไม่ได้ เพราะรัฐบาลรักษาการไม่ได้รับความเชื่อมั่นจากคู่เจรจา
“อีกฝ่ายจะรอรัฐบาลตัวจริง เพื่อดูนโยบายใหม่ เพราะรัฐบาลชุดนี้ไม่มีหลักประกันแล้ว”
ด้าน ดร.ซาช่า เฮลบาร์ธ นักวิจัยชาวเยอรมัน ซึ่งทำวิจัยเชิงลึกเกี่ยวกับปัญหาชายแดนใต้ และโครงสร้างของขบวนการบีอาร์เอ็น กล่าวสั้นๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “Better this way!” ซึ่งหมายความว่า “แบบนี้ดีกว่า” หรือ “แบบนี้ก็ดีแล้ว”
คำตอบของ ดร.ซาช่า มาจากมุมมองของเขาก่อนหน้านี้ที่ให้สัมภาษณ์ “ทีมข่าวอิศรา” เอาไว้ว่า กระบวนการพูดคุยรอบใหม่ที่เกิดขึ้น ไม่ได้มีสารัตถะใดๆ ในทางความคืบหน้า แต่เป็นเหมือน “ละครโรงใหญ่” ที่จะไม่เกิดผลใดๆ นอกจากพายเรือวนในอ่าง
อ่านประกอบ : ประเดิมพูดคุยรอบใหม่ ตัวจริง BRN อยู่ไหน? - แม่ทัพภาคใต้ “กระทงหลงทาง”
“ทีมข่าวอิศรา” ประสานข้ามประเทศเพื่อขอความเห็นของ นายกัสตูรี มะห์โกตา ประธานองค์การพูโล ที่เพิ่งไปแสดงบทบาทบนเวทียูเอ็น เพื่อสร้างซีนพร้อมเข้าร่วมโต๊ะพุดคุยสันติสุข
อ่านประกอบ : “พูโล” ฉวยจังหวะแชร์ภาพบนเวทียูเอ็น
นายกัสตูรี กล่าวสั้นๆ ว่า การพูดคุยสันติสุขจะต้องเดินหน้าต่อไปแน่นอน แต่การพูดคุยในรอบหน้าอาจจะต้องรอรัฐบาลใหม่
"ผมคิดว่าต้องรอรัฐบาลใหม่"
เมื่อซักว่า จะแสดงท่าทีอะไรในช่วงนี้หรือไม่ ประธานพูโล ตอบว่า “เรายังไม่ได้คุยอะไรเลย เพราะเพิ่งยุบสภาวันนี้”
อดีตแกนนำบีอาร์เอ็นซึ่งเคยเคลื่อนไหวในพื้นที่ กล่าวสอดคล้องกันว่า การเจรจาในช่วงนี้ไร้ประโยชน์
"ไม่มีรัฐบาล จะเจรจาอย่างไร คุยไปก็เสียเวลา อย่าคุยดีกว่า เชื่อว่าไม่มีใครทำกันแน่นอน เพราะมันมีแต่จะเสียเวลา"
เช่นเดียวกับแนวร่วมรุ่นใหม่รายหนึ่ง ที่ยืนยันหนักแน่นว่า ไม่เห็นด้วยถ้าจะมีการพูดคุยหรือดำเนินการใดๆ ในช่วงนี้ เพราะจะทำให้เสียเวลาฟรี และไม่ได้ส่งผลอะไรกับประชาชน
“เข้าใจดีว่า การเมืองไทยคือการเมืองแบบไม่แน่นอน ไม่มีอะไรที่ทำเพื่อชาวบ้านเลย ได้แค่อ้างชาวบ้าน ยืนยันว่าควรคุยกันอีกทีต่อเมื่อได้รัฐบาลใหม่ และขอให้มีการพูดคุยโดยเร็ว เพราะชาวบ้านหวังว่ามันจะสงบได้จริงๆ ตอนนี้ทุกฝ่ายพร้อมที่จะสงบ เพียงแต่รัฐบาลไม่พร้อม”
