
รัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล ซึ่งเป็น “รัฐบาลเสียงข้างน้อย” และประกาศต่อสาธารณะว่าจะทำหน้าที่แค่ 4 เดือนแต่กลับสร้างเซอร์ไพรส์ให้คนที่ติดดตามปัญหาชายแดนใต้...
ด้วยการตั้งหัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุขคนใหม่ และสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ก็รับลูก สร้างกระแสด้วยการจัดเวทีเสวนาใหญ่ เชิญอดีตหัวหน้าคณะพูดคุย เกือบครบทุกคน และบุคคลที่มีบทบาทในคณะพูดคุย มาร่วมถอดบทเรียนครั้งประวัติศาสตร์
อ่านประกอบ : 2 ทศวรรษ “คุยสันติสุข-สันติภาพ” จากยุค “ปิดลับ” ถึง “เปิดบนโต๊ะ”
ทั้งหมดนี้สะท้อนเจตจำนงและความจริงจังของการขับเคลื่อนนโยบายใช้สันติวิธีเพื่อแก้ไขปัญหาความไม่สงบและความขัดแย้งในจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ระดับหนึ่ง ทั้งในมิติของรัฐบาลที่เป็นฝ่ายการเมือง และมิติของหน่วยงานความมั่นคง ซึ่งเป็นส่วนราชการ ในฐานะ “ฝ่ายประจำ”
ทั้งๆ ที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยชุดก่อนหน้า ภายใต้การนำของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ที่มีอายุเกือบ 1 ปี ไม่ได้ขยับอะไร
แม้ว่า “กมธ.สันติภาพชายแดนใต้” ซึ่งมี สส.คนสำคัญของพรรคเพื่อไทย มีชื่อเป็นแคนดิเดตหัวหน้าพรรค และได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวาง อย่าง นายจาตุรนต์ ฉายแสง ทำหน้าที่ประธานคณะกรรมาธิการชุดนี้ และสรุปรายงานซึ่งมีสาระสำคัญเป็น “แนวทางดับไฟใต้” ว่า ต้องเร่งตั้งคณะพูดคุยสันติสุข/สันติภาพ โดยเร็วที่สุด

ย้อนกลับไป เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2568 ซึ่งตรงกับ “วันสันติภาพสากล” สำนักงานขับเคลื่อนการพูดคุยสันติสุขระดับพื้นที่ กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า (คพท.) ได้จัดกิจกรรมปาฐกถาพิเศษ “มุมมอง กมธ.สันติภาพต่อ กระบวนการสันติสุข จชต.” ที่โรงแรมซี.เอส.ปัตตานี อำเภอเมือง จ.ปัตตานี เพื่อเผยแพร่ข้อสรุปและข้อค้นพบจากการศึกษาของ คณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษาและเสนอแนวทางการส่งเสริมกระบวนการสร้างสันติภาพเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กมธ.สันติภาพชายแดนใต้) ตลอดระยะเวลากว่า 2 ปีที่ได้ทำงานมา
นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธาน กมธ.สันติภาพชายแดนใต้ เปิดเผยรายงานฉบับสมบูรณ์กว่า 200 หน้า ซึ่งเกิดจากการรับฟังความคิดเห็นจากคนหลากหลายภาคส่วน โดยมีข้อสรุปสำคัญ 9 ประเด็นหลัก รวม 34 ข้อเสนอ เน้นการปฏิรูปเชิงโครงสร้างและการเมืองเพื่อยุติความขัดแย้งที่ยืดเยื้อกว่า 20 ปี
นายจาตุรนต์ กล่าวผ่านรายงานสันติภาพชายแดนใต้ ว่า ข้อเสนอที่สำคัญที่สุดของรายงานฉบับนี้ ครอบคลุมประเด็นต่างๆ รวม 8 ประเด็น
1. เสนอให้นายกรัฐมนตรีแสดงเจตจำนงทางการเมืองที่ชัดเจน โดยออกคำสั่งจัดทำ “ยุทธศาสตร์การสร้างสันติภาพ” เป็นหลักในการแก้ปัญหา
ตั้ง “ศูนย์บูรณาการการสร้างสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้” และตั้ง “คณะกรรมการกำกับทิศทางกระบวนการสันติภาพ” ที่มีรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน รับรองอัตลักษณ์วัฒนธรรมที่หลากหลาย และเปิดพื้นที่ให้ประชาชนใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น
2. เร่งพัฒนาขีดความสามารถในการดูแลความปลอดภัยโดยยึดหลักสิทธิมนุษยชน โปร่งใส และตรวจสอบได้
เร่งเจรจากับทุกฝ่ายเพื่อ ยุติเหตุรุนแรง และสร้างพื้นที่ปลอดภัย, ปรับเปลี่ยนการใช้กฎหมายจากกฎหมายความมั่นคงไปสู่กฎหมายปกติ พร้อมถ่ายโอนกำลังจากกองทัพไปสู่ตำรวจและพลเรือน
ยุติการดำเนินคดีเชิงยุทธศาสตร์เพื่อต่อต้านการมีส่วนร่วมสาธารณะ และมาตรการปฏิบัติการข่าวสารที่สร้างความเกลียดชัง

3. ตั้ง “คณะกรรมการอิสระค้นหาข้อเท็จจริงของเหตุการณ์รุนแรง” ที่มีองค์ประกอบจากภาคประชาชน จัดระบบการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบให้ครอบคลุมทุกมิติ โดยไม่เลือกปฏิบัติ
4. เปิดพื้นที่ให้ประวัติศาสตร์ที่แตกต่าง และร่วมออกแบบหลักสูตรท้องถิ่น พร้อมสนับสนุนการจัดตั้ง “สถาบันอนุรักษ์มรดกทางภาษาและวัฒนธรรม”
5. เสนอให้ตั้ง “คณะกรรมการศึกษาแนวทางการกระจายอำนาจและรูปแบบการเมืองการปกครองที่สอดคล้องกับอัตลักษณ์ของพื้นที่” ตามหลักแห่งการปกครองตนเองภายใต้รัฐธรรมนูญ
6. ส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายและแผนพัฒนาเศรษฐกิจ, เพิ่มความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการพัฒนาเศรษฐกิจ, ส่งเสริมการศึกษาแบบ ทวิภาษาบนฐานของภาษาแม่ (มลายูปาตานี) และบรรจุ “วิชาภาษามลายู” ในหลักสูตร
7. เสนอให้รัฐบาลตั้ง หัวหน้าคณะพูดคุยเจรจาเพื่อสันติภาพที่เป็นพลเรือน ให้ สมช. จัดโครงสร้างของกระบวนการสันติภาพใหม่ รวมถึงการจัดให้มี คณะผู้สังเกตการณ์ และ กลไกจัดการปรึกษาหารือสาธารณะ
8. เสนอให้สภาตั้ง “คณะกรรมาธิการสามัญการสร้างสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้” ขึ้นมาอีกคณะ

พญ.เพชรดาว โต๊ะมีนา ลูกสาวของ “เด่น โต๊ะมีนา” อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย อดีตสมาชิกวุฒิสภา ในฐานะหนึ่งในผู้นำการเมืองมุสลิมคนสำคัญจากชายแดนใต้ โดย พญ.เพชรดาว เป็นหนึ่งใน กมธ.สันติภาพชายแดนใต้ และปัจจุบันเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย
เธอกล่าวแสดงความหวังว่า ข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาชายแดนใต้ได้ถูกบรรจุอยู่ในคำแถลงนโยบายของรัฐบาล ซึ่งมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี
“รายงาน กมธ.สันติภาพชายแดนใต้ฉบับนี้ ต้องบอกว่าเป็นรายงานที่สมบูรณ์ที่สุด... ในฐานะสมาชิกพรรคภูมิใจไทย เรื่องชายแดนใต้ต้องบรรจุในนโยบายที่จะแถลงต่อรัฐสภาด้วย” พญ.เพชรดาว กล่าวเอาไว้ในครั้งนั้น
พระครูโฆสิตสุตาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดบูรพาราม กล่าวว่า การสร้างสันติสุข ต้องเริ่มจากเด็กๆ เพราะพวกเขายังมีใจที่บริสุทธิ์ ไม่แบ่งแยกศาสนา การทำกิจกรรม “เพื่อนรักต่างศาสนา” ถือเป็นกิจกรรมที่สำคัญ
วันนี้รัฐบาลภูมิใจไทยเดินหน้ามากว่า 1 ใน 4 ของกรอบเวลาที่เป็นอายุรัฐบาล ตามที่ประกาศไว้ต่อสาธารณะแล้ว และได้ตั้งหัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุข ซึ่งสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับหลายฝ่าย แม้หัวหน้าคณะพูดคุยจะยังเป็น “อดีตทหาร” แทนที่จะเป็น “พลเรือน” ตามที่หลายฝ่ายเรียกร้อง
อย่างไรก็ดี รายงานของ กมธ.สันติภาพชายแดนใต้ ยังมีข้อเสนอเชิงนโยบายถึง 8 ข้อ รอฝ่ายการเมืองสานต่อ ซึ่งต้องรอลุ้นว่าจะเกิดขึ้นในรัฐบาลภูมิใจไทยชุดนี้ หรือรัฐบาลชุดใหม่หลังเลือกตั้ง...
หรือถูกเก็บยัดใส่ลิ้นชักไว้... เหมือนเคย!
