ศึกนายก อบจ.ที่เปิดหน้าชนกันหนักที่สุดอีกพื้นที่หนึ่ง คือ อบจ.นราธิวาส
แชมป์เก่า 5 สมัย “นายก กูเซ็ง ยาวอหะซัน” ไม่ได้มีดีกรีแค่บริหารองค์การบริหารส่วนจังหวัดมาร่วมๆ 3 ทศวรรษเท่านั้น แต่ยังมีลูกชายเป็น สส.รวมไทยสร้างชาติ และเป็นเลขานุการ รมว.ยุติธรรม พรรคประชาชาติ อีกต่างหาก
แต่เลือกตั้งนายก อบจ.หนนี้ “นายก กูเซ็ง” ถูกลูบคม เพราะเจอคู่แข่งสำคัญอย่าง อับดุลลักษณ์ สะอิ นักธุรกิจรุ่นใหม่ซึ่งประสบความสำเร็จในนราธิวาส และยังเป็นพี่ชายของ “สส.ยา” ซาการียา สะอิ สส.นราธิวาส เขต 4 พรรคภูมิใจไทย
งานนี้จึงมี “ค่ายสีน้ำเงิน” ช่วยตอกเสาเข็มอยู่ด้วย ภายใต้การนำของขุนพลชายแดนใต้ของพรรคอย่าง นัจมุดดีน อูมา อดีต สส.นราธิวาส 3 สมัย คณะทำงานของ พิพัฒน์ รัชกิจประการ หรือ “โกเกี้ยะ” รมว.แรงงาน แม่ทัพภาคใต้ของค่ายสีน้ำเงิน
ผลงานในระดับท้องถิ่นของ “โกเกี้ยะ” ก็ไม่ธรรมดา เพิ่งจะผลักดัน “นายก น้ำ” วาริน ชิณวงศ์ ชนะบ้านใหญ่ “เดชเดโช” คว้าเก้าอี้นายก อบจ.นครศรีธรรมราช มาครองได้แบบหักปากกาเซียน
เท่านั้นยังไม่พอ อับดุลลักษณ์ สะอิ ยังได้แรงสนับสนุนจาก “สส.นราธิวาส สองพี่น้อง” จากพรรคกล้าธรรม สัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ กับ อามินทร์ มะยูโซ๊ะ รวมไปถึงนักการเมืองท้องถิ่นแทบทุกค่าย ทุกสีในพื้นที่เมืองนราฯ
“ยุทธการรุมกินโต๊ะ” เปิดฉากขึ้นแบบไม่ปิดบัง ล่าสุด 2 แกนนำจากพรรคใหญ่ร่วมรัฐบาล คือ พรรคภูมิใจไทย กับพรรคกล้าธรรม พร้อมใจกันลงพื้นที่ แถมขึ้นเวทีปราศรัยสนับสนุน อับดุลลักษณ์ หมายเลข 2 ที่สุไหงโก-ลก เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา
แกนนำที่ว่านี้ไม่ใช่ “แกนนำไก่กา” แต่เป็น “ตัวจริงเสียจริง” แถมยังเป็น “คนจริงระดับเจ้าพ่อ” หรือ “ผู้มีบารมีหลังม่านการเมือง”
หนึ่ง ชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีต รมช.มหาดไทย แกนนำพรรคภูมิใจไทย บ้านใหญ่อุทัยธานี
สอง ผู้กองธรรมนัส พรหมเผ่า อดีต รมว.เกษตรและสหกรณ์ ผู้นำตัวจริงของพรรคกล้าธรรม และเป็นหัวขบวน สส.ชายแดนใต้ของพรรค ทั้ง สัมพันธ์ และอามินทร์ มะยูโซ๊ะ
ขาดาลงพื้นที่ชายแดนใต้ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 26 ม.ค. เดินสายพบปะเครือข่ายคณะทำงาน และผู้นำในพื้นที่ โดยเจ้าตัวเป็นมุสลิมเช่นเดียวกับพี่น้องส่วนใหญ่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำให้เดินสายได้อย่างไม่เคอะเขิน
ส่วนผู้กองธรรมนัส เพิ่งลงเครื่องเมื่อวันจันทร์ที่ 27 ม.ค. ก่อนขึ้นเวทีปราศรัยในช่วงค่ำวันเดียวกัน โดยหอบเอา สส.เดินทางมาด้วยนับสิบคน
เวทีปราศรัยที่สุไหงโก-ลก มีมวลชนเนืองแน่นนับหมื่นคน สมศักดิ์ศรี 2 ผู้ยิ่งใหญ่จาก 2 พรรครัฐบาลที่ลุยลงพื้นที่ด้วยตนเอง
ชาดา ไทยเศรษฐ์ ปราศรัยชัดถ้อยชัดคำ ไม่ปิดบังตามประสา “นักเลงเก่า” โดยบอกว่า ให้ชาวนราธิวาสเลือกเบอร์ 2 แล้วจะได้พรรครัฐบาล 2 พรรคสนับสนุนการทำงาน
เช่นเดียวกับผู้กองธรรมนัส ที่เปิดเกมจัดหนัก ประกาศว่าไม่ได้มาในนามพรรค ซึ่งหมายถึงพรรคกล้าธรรม แต่มาในนาม “พรรคพวก” ที่พร้อมจะทำงานร่วมกันเพื่อคนนราธิวาสต่อไป
เป้าหมายของทั้งสองพรรค คือ เพิ่มส่วนแบ่งเก้าอี้ สส.นราธิวาส ในการเลือกตั้งครั้งถัดไป จึงต้องสร้างสมการการเมืองใหม่ในพื้นที่ เพื่อลบล้างสมการเดิม
ผลการเลือกต้้งปี 66 นราธิวาสมี สส.ได้ 5 คน ถือเป็นจังหวัดสหประชาชาติ เพราะได้ สส.จาก 4 พรรค คือ
พลังประชารัฐ 2 คน ได้แก่ สองพี่น้องมะยูโซ๊ะ ปัจจุบันเปลี่ยนสีเสื้อไปอยู่พรรคกล้าธรรม
ภูมิใจไทย 1 คน คือ สส.ยา น้องชายของ อับดุลลักษณ์ สะอิ ที่ลงนายก อบจ.หนนี้
รวมไทยสร้างชาติ 1 คน คือ วัชระ ยาวอหะซัน ลูกชายคนโตของ นายก กูเซ็ง
ประชาชาติ 1 คน คือ กมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ประธานคณะกรรมการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร
สถานการณ์ปัจจุบัน พรรครวมไทยสร้างชาติอยู่ในสภาพ “ลูกผีลูกคน” เป็นที่ทราบกันดีว่า นายก กูเซ็ง ก็ไม่ได้ร่วมหัวจมท้ายด้วยอีกต่อไปแล้ว เลือกตั้งครั้งหน้า ลูกชายคนโตจึงมีแนวโน้มหาพรรคสังกัดใหม่
ขณะที่ นายก กูเซ็ง เอง ระยะหลังเปิดตัวไปอยู่กับพรรคประชาชาติ
ฉะนั้นหากงานนี้ อับดุลลักษณ์ ล้ม นายก กูเซ็ง ได้ จากยุทธการ “รุมกินโต๊ะ” ของสองพรรคใหญ่ ก็จะส่งผลให้ในการเลือกตั้งสนามใหม่ เก้าอี้ สส.ของรวมไทยสร้างชาติที่ลูกชายของนายกกูเซ็งนั่งอยู่ และเก้าอี้ สส.ประชาชาติของ กมลศักดิ์ สั่นสะเทือน และอาจสูญเสียให้ 2 พรรครุมกินโต๊ะได้เหมือนกัน
@@ โต้เดือดวาทกรรม 25 ปี...ไม่มีผลงาน
หนึ่งใน “วาทกรรม” ที่ฝ่าย อับดุลลักษณ์ หยิบยกขึ้นมาหาเสียงโจมตีคู่แข่ง ก็คือ “25 ปี ชาวนราธิวาสได้อะไรบ้าง?” ซึ่งคำถามนี้ ส่งถึง “นายก กูเซ็ง” อย่างชัดเจน เพราะเป็นแชมป์เก่า 5 สมัย
ที่เวทีสุไหงโก-ลก ของ อับดุลลักษณ์ หมายเลข 2 ก็มีขึ้นป้ายนี้
ข้อกล่าวหา 25 ปีไม่มีผลงาน เหมือนตีแสกหน้า “นายก กูเซ็ง” ทำให้แชมป์เก่า 5 สมัยมีอารมณ์คับข้องหมองใจไม่น้อยเหมือนกัน
สังเกตจากการปราศรัยสั้นๆ ที่สนามฟุตบอล อบจ.นราธิวาส เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าตัวประกาศผ่านไมโครโฟนพูดคุยกับแฟนบอล ชวนให้มาร่วมกันฟังปราศรัยวันที่ 30 ม.ค.นี้ ประโยคหนึ่งที่ “นายก กูเซ็ง” หลุดออกมาก็คือ “บางคนบอกว่า 25 ปีไม่มีผลงาน คนพูดมันไม่รู้อะไร ไม่รู้จักสนามฟุตบอลหรือไง…”
@@ กูเซ็ง ยาวอหะซัน อดีตนายก อบจ.นราธิวาส
เพราะสนามฟุตบอล อบจ. ก็เป็นสนามที่ นายก กูเซ็ง สร้างขึ้น และเป็น “สนามเหย้า” ของ “ทีมนรา ยูไนเต็ด” ทีมฟุตบอลขวัญใจคนบางนรา นัดล่าสุดก็เพิ่งเอาชนะ ภูเก็ต อันดามัน มาได้ 2-1
วันที่ 1 ก.พ.นี้ก็จะได้รู้กันว่ายุทธการ “รุมกินโต๊ะ” จะประสบความสำเร็จ หรือ “เสือเฒ่า” อย่าง “นายก กูเซ็ง” จะยังไว้ลายเสือ