เจ้าของร้านทุกอย่าง 20 บาทที่มูโนะสุดทน ทั้งน้ำท่วม 2 ครั้ง โกดังพลุระเบิดซ้ำ ประกาศขายบ้านที่ดินทิ้ง หวังอพยพไปตั้งตัวที่อื่น ด้านคนพื้นที่สงสัยเจ้าของโกดังพลุใหญ่มาก แต่ถูกตั้งข้อหาเบาหวิว แฉส่วยมูโนะรายเล็กจ่าย 3-5 พัน แต่มีโกดัง “คนการเมือง” อีกแห่งใหญ่เท่าที่เกิดระเบิด ไม่รู้ด้านในเก็บอะไร
วันพฤหัสบดีที่ 24 ส.ค.66 มีความคืบหน้ากรณีโกดังเก็บดอกไม้ไฟระเบิดในพื้นที่บ้านมูโนะ หมู่ 1 ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา นับถึงวันนี้เป็นเวลา 27 วันแล้ว มีบ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหาย 554 หลัง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ซ่อมแซมแล้วเสร็จ 313 หลัง เหลืออีก 241 หลังที่อยู่ระหว่างดำเนินการ
โดยบ้านหลังหนึ่งที่ยังซ่อมสร้างใหม่ไม่เสร็จ คือ บ้าน 2 ห้อง กว้าง 10 เมตร ยาว 20 เมตร ที่ปลูกสร้างอยู่ในโซนไข่แดง ใกล้โกดังเก็บดอกไม้ไฟที่เกิดระเบิด มี นายสิทธิโชติ ดือราแม เป็นเจ้าของทั้งบ้านและที่ดิน ปรากฏว่าล่าสุดได้ประกาศขายในเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อ “นูรคาน สปอร์ต” ซึ่งเป็นร้านชื่อดีจัง ขายของราคาถูกทุกอย่าง 20 บาท
ผู้สื่อข่าวได้เห็นประกาศขายบ้านและที่ดิน จึงติดต่อทางโทรศัพท์มือถือเพื่อขอสัมภาษณ์ นายสิทธิโชติ เจ้าตัวยอมรับว่า ได้มีการลงประกาศขายบ้านและที่ดินในเฟซบุ๊กจริง เนื่องจากตลอด 2 ปีที่ผ่านมาต้องเผชิญกับเหตุการณ์น้ำท่วม 2 ปีซ้อน เหมือนสถานการณ์จะกลับคืนสู่สภาวะปกติ จึงลงทุนซื้อสินค้าเข้าไปวางขายในร้านกว่า 1 ล้านบาท พร้อมลงทุนซ่อมแซมร้านใหม่หลังเผชิญน้ำท่วม
“แต่ปัญหากลับไม่จบ เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด คราวนี้เป็นครั้งที่ 3 ต้องมาพบกับเหตุการณ์โกดังเก็บดอกไม้ไฟระเบิด ทำให้บ้านเสียหายหมดทั้งหลังอีกครั้ง ทำให้รู้สึกท้อแท้ จึงได้มีการประกาศขายทางเฟซบุ๊ก”
นายสิทธิโชติ บอกอีกว่า ถ้าไม่ขายบ้านและที่ดินก็ต้องใช้เงินซ่อมแซมบ้าน แล้วต้องซื้อสินค้าเข้าร้านอีกประมาณ 2– 3 ล้านบาท ตนไม่ไหวแล้ว จึงตัดสินใจขายบ้านและที่ดินเพื่ออพยพไปเริ่มตั้งตัวใหม่ เนื่องจากในช่วงฤดูน้ำหลากที่ใกล้จะถึงนี้ ไม่รู้ว่าน้ำจะท่วมตลาดมูโนะอีกหรือไม่ ทั้งที่ตอนนี้บ้านเสียหายจากโกดังพลุระเบิดก็ยังสร้างไม่เสร็จอยู่
@@ โกดังพลุระเบิดใหญ่มาก ชาวบ้านสงสัยแจ้งข้อหาเบา
อีกด้านหนึ่ง มีการจับกลุุ่มวิจารณ์ของชาวบ้านมูโน๊ะที่สูญเสียบ้าน บางคนสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก แต่กระบวนการทางกฎหมายกลับมีการแจ้งข้อหาเบากับเจ้าของโกดัง หนำซ้ำในส่วนของเจ้าหน้าที่รัฐ ก็โดนดำเนินคดีเฉพาะนายก อบต.มูโนะ ปลัด อบต. และเจ้าหน้าที่รวม 4 คน ส่วนข้าราชการหน่วยงานอื่นที่ต้องร่วมรับผิดชอบอีก 5 หน่วยงาน กลับรอด สบายตัวทัึ้งหมด
คนมูโนะรายหนึ่ง กล่าวว่า สิ่งที่ชาวบ้านต้องการ คือให้เจ้าของโกดังมารับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะสิ่งที่เขาทำกับชาวบ้านมาตลอด เหมือนเป็นการทำร้ายชาวบ้าน แต่คดีที่แจ้งข้อหากลับเล็กน้อยมาก ส่วนการเยียวยาทราบว่าจะจ่ายให้ชาวบ้านแค่รายละ 1 แสนบาท ก็ถือว่าไม่เป็นธรรม
“ตอนนี้ทุกคนไม่รู้เลยว่า 2 คนนั้นอยู่ในคุกหรืออยู่นอกคุก คดีไปถึงไหน ทำไม่ไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาพยายามฆ่ากับเขา ทำไม่ไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาก่อการร้ายกับเขา (ตามประกาศ กอ.รนม.ภาค 4 ส่วนหน้า ผู้ครอบครองพลุ ประทัด ดอกไม้เพลิง เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ให้ถือเป็นผู้สร้างสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ) ทั้งหมดนี้ถ้าเขาไม่ใหญ่พอ เขาคงอยู่ไม่มีความสุขถึงทุกวันนี้แน่นอน”
@@ จ่ายส่วยทุกสี “คน อบต.” ก็มีโกดัง
ชาวบ้านมูโนะรายเดิม กล่าวอีกว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา พื้นที่นี้มีผู้มีอิทธิพล มีการจ่ายส่วยให้เจ้าหน้าที่ทุกสี อยากให้มีการตรวจสอบว่าใครเกี่ยวข้องบ้าง เพราะทำให้เกิดโศกนาฏกรรมร้ายแรงจริงๆ
“ทราบว่ามีโกดังที่เล็กลงมาหน่อยก็จ่ายส่วยกับนักการเมือง มีคนของ อบต.เป็นเจ้าของ ทุกคนที่นี่รู้ดีว่าโกดังแห่งนั้นของ อบต. วันเกิดเหตุเขาสามารถเอาของหนีไปได้ หลายๆ อย่างมันเห็นชัด คนที่เป็นข่าวก็แค่จัดฉากให้ดูดี คนที่ควรรับโทษเรื่องนี้ต้องมีนักการเมืองระดับท้องถิ่น ระดับชาติ และเจ้าหน้าที่ทีมีอำนาจ เพราะเจ้าหน้าที่ระดับล่างตัวเล็กๆ ก็เก็บส่วยให้นายเขาอีกที” ชาวบ้านมูโนะ กล่าว
@@ รายเล็กจ่ายส่วย 3-5 พันบาท รายใหญ่จ่ายเท่าไหร่?
ด้านผู้ค้าที่เคยจ่ายส่วยมูโนะ เพื่ออำนวยคาวมสะดวกในการขนส่งสินค้าโดยไม่ต้องถูกตรวจตรา หรือถูกกักที่ด่าน ให้ข้อมูลว่า “ผมจ่ายส่วยน้ำมัน ให้เฉพาะตำรวจเดือนละ 5,000 บาท บางคน 3,000 บาท ไม่ถึงเดือนจ่าก็โทรมาแล้ว การจ่ายให้ตำรวจไม่มีการโอนเงินไป แต่จ่าจะทำหน้าที่โทรหาคนที่จ่ายส่วย แล้วให้เอาเงินไปวางไว้ที่ร้านในตลาด แล้วโทรบอกเขา เขาก็จะไปเอา”
“รายเล็กๆ อย่างเรา รายละ 3,000-5,000 บาทต่อเดือน แล้วถ้าเป็นรายใหญ่ต้องจ่ายมากเท่าไหร่ ผู้ค้าที่มีอิทธิพลในมูโนะบางคน ไม่ได้ขนสินค้าได้สะดวกเฉพาะที่มูโนะ แต่ปลดล็อกด่านได้ทั้งนราธิวาส แบบนี้ต้องจ่ายเท่าไหร่ หรือเป็นคนของใครถึงทำได้”
@@ แฉโกดังพลุคนการเมือง ไม่เห็นมีใครเข้าไปตรวจ
ผู้ค้าพลุ ประทัด และดอกไม้ไฟ ยังมีรายเล็กๆ ในพื้นที่มูโนะ ซึ่งต้องจ่ายส่วยเช่นกัน หากยังต้องการทำการค้าต่อไป และไม่ถูกกวนจากผู้บังคับใช้กฎหมาย
ผู้ค้ารายหนึ่งซึ่งอยู่ในวงการดอกไม้ไฟ เล่าว่า นอกจากโกดังที่เกิดระเบิด ซึ่งเป็นของพ่อค้าที่ถูกจับแล้ว ยังมีโกดังของ “คนการเมืองในพื้นที่” ซึ่งมีขนาดใหญ่พอๆ กับโกดังพลุที่เกิดระเบิด ส่วนโกดังของ “คน อบต.” ก็ไม่ใช่เล็กๆ มีการจ่ายแบบที่ทุกคนก็รู้ ไม่ใช่แค่จ่ายเจ้าหน้าที่ แต่จ่าย “คนการเมือง” ด้วย ยังไม่เห็นมีใครคิดจะเอาผิดคนเหล่านี้ เรื่องก็ทำท่าจะเงียบไปเรื่อยๆ
“วันนี้ จ่า ฟ.ฟัน อยู่ที่ไหน ไม่มีใครรู้เลย เงียบหายไปเลย ชาวบ้านแค่ร้องไห้เสียใจกับความสูญเสีย มันก็แทบไม่มีเวลาไปคิดเรื่องอื่นแล้ว ก็ชัดเจนจนถึงทุกวันนี้ เจ้าหน้าที่ยังปกป้องคนผิดเหมือนเดิม คนผิดจริงอีกจำนวนมาก ยังไม่ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ทำ แต่คนที่ต้องรับผลกระทบเป็นชาวบ้านที่สูญเสียทุกอย่าง บางคนไม่มีแม้แต่ครอบครัว แต่คนพวกนั้นยังอยู่ดีมีความสุข”