เรื่องการอ่านแถลงการณ์ สัมนา ปาฐกถา และทำประชามติจำลอง เกี่ยวกับการใช้สิทธิกำหนดอนาคตตนเอง เพื่อเอกราชปาตานี เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.66 ที่ ม.อ.ปัตตานี แม้ฝ่ายผู้เกี่ยวข้องจะพากันออกมาปฏิเสธ และอ้างว่าเป็นแค่เวทีวิชาการ
ประเด็นร้อนช่วงปลายสัปดาห์ ว่าด้วยข้อเสนอของ “ขบวนการนักศึกษาแห่งชาติ” ที่ไปประกาศจุดยืนที่คณะรัฐศาสตร์ ม.อ.ปัตตานี แถมจัดกิจกรรมทดลอง “ประชามติแยกดินแดน” สามจังหวัดชายแดนภาคใต้
รุ่นใหญ่ออกโรง! “พล.ต.ปราโมทย์” ในหมวก “โฆษก กอ.รมน.ภาค 4” ออกแถลงการณ์ชี้ชัด “ประชามติแยกดินแดน” ขัดต่อกฎหมาย ทำไม่ได้ เป็นภัยต่อความมั่นคง ลุยรวบรวมหลักฐานดำเนินคดี ด้าน “กัณวีร์ สืบแสง” เลขาธิการพรรคเป็นธรรม โดดหนี อ้างไม่ต้องการไปถึงขั้นนั้น แต่สมาชิกพรรคร่วมวงเสวนา หนุนเอกราชสุดตัว
ฮือฮาพอสมควร เมื่อ นายกัณวีร์ สืบแสง ว่าที่ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคเป็นธรรม พรรค 1 เสียงที่ได้รับเชิญเข้าร่วมรัฐบาล ให้สัมภาษณ์ล่าสุดในวันประชุม 7 คณะทำงานเพื่อสนองตอบปัญหาของประชาชนนัดแรกของว่าที่รัฐบาลชุดใหม่
พูดถึงภารกิจปฏิรูปกองทัพ “งานหิน” ของว่าที่รัฐบาลใหม่ก้าวไกล แม้จะมีข่าว “ว่าที่นายกฯพิธา” เตรียมนั่งควบ รมว.กลาโหม แต่งานใหญ่และยากแบบนี้เชื่อว่าน่าจะต้องมี “รัฐมนตรีคนนอก” เข้าไปคอยประคอง
โมเดล “รัฐบาลแห่งชาติ” ถูกจุดพลุขึ้นมาอีกครั้งจาก ส.ว.จเด็จ อินสว่าง อาวุโสท่านหนึ่ง
ท่ามกลางกระแสแฉ “ส่วยรถบรรทุก - ส่วยสติ๊กเกอร์” ที่กำลังตื่นตูมตรวจสอบกันวุ่นวาย ปรากฏว่าที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีการแฉและกล่าวหาว่ามีส่วยอีกประเภทหนึ่ง อาจจะเรียกได้ว่าเป็น “ส่วยช่วยชาติ” หรือ “ส่วยร่วมพัฒนาชาติ” ก็ได้
“ดีลลับลังกาวี” เพื่อเปลี่ยนแกนนำจัดตั้งรัฐบาลจากก้าวไกล เป็นเพื่อไทย ถูกเปิดเผยแบบอ้อมๆ จากสื่ออาวุโสท่านหนึ่ง ซึ่งรายการของสื่อท่านนี้มีคอการเมืองติดตามจำนวนมาก
กลายเป็นประเด็นที่วิจารณ์กันให้แซ่ดในช่วงนี้ นั่นก็คือรายงานพิเศษของสื่อออนไลน์ เดอะรีพอร์ตเตอร์ ที่เปิดชื่อ เปิดหน้า “คีย์แมนคณะพูคคุยเพื่อสันติภาพดับไฟใต้” ชุดใหม่
ตัวอย่างของความน่าตกใจในการก่อเหตุรุนแรงที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เห็นได้ชัดจากกรณีคนร้ายดักยิง นายนาวีวัฒน์ หะยีบาสอ อายุ 53 ปี อดีตแพทย์ประจำตำบลท่ากำชำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี