มาเลเซียได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่แล้ว เป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการภายใน ในรัฐบาล "มหาธีร์" ทำให้ "อันวาร์ อิบราฮิม" พลาดหวัง ขณะที่โต๊ะพูดคุยดับไฟใต้เดินหน้าต่อ
สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งมาเลเซีย ทรงแต่งตั้ง ตันสรี มูห์ยิดดิน ยัสซิน เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของมาเลเซีย ซึ่งนับเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 8 ตั้งแต่ได้รับเอกราชจากอังกฤษ เมื่อปี พ.ศ.2500 และเป็นการหยุดภาวะสุญญากาศทางการเมืองของมาเลเซีย นับตั้งแต่ ดร.มหาธีร์ โมฮาหมัด ลาออกจากตำแหน่ง
สำนักพระราชวังแห่งมาเลเซียออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 29 ก.พ.63 ว่า สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งมาเลเซียทรงใช้พระราชอำนาจตามรัฐธรรมนูญ แต่งตั้ง ตันสรี มูห์ยิดดิน ยัสซิน ประธานพรรค PPBM เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 8 ของมาเลเซีย โดยการแต่งตั้งมีขึ้นหลังจากสมเด็จพระราชาธิบดีทรงได้รับรายชื่อผู้เข้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจากหัวหน้าพรรคการเมืองต่างๆ ซึ่งรวมถึง ส.ส.ที่ไม่สังกัดพรรค
พระองค์ทรงพิจารณาและเห็นว่า ตันสรี มูห์ยิดดิน ยัสซิน ได้รับคะแนนเสียงข้างมากจากรัฐสภา จึงทรงแต่งตั้งขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ และมีกำหนดการเข้าพิธีสาบานตนในวันที่ 1 มี.ค.63 ที่พระราชวังอิสตานาเนการา ในกรุงกัวลาลัมเปอร์
มีรายงานว่า สมเด็จพระราชาธิบดีทรงไม่ต้องการให้กระบวนการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีล่าช้า เพราะประเทศอยู่ในภาวะที่ต้องการรัฐบาลดูแลผลประโยชน์ของชาติและประชาชน และทรงหวังว่าการแก้ไขปัญหาครั้งนี้จะคลี่คลายวิกฤติทางการเมืองภายในของประเทศได้
สำหรับประวัติของ ตันสรี มูห์ยิดดิน ยัสซิน เกิดเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 1947 ปัจจุบันอายุ 72 ปี เป็น ส.ส. จากเขต Pagoh รัฐ Johor (ยะโฮร์) จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมลายา ในปี 1971
เขาเริ่มต้นเล่นการเมืองในพรรคอัมโน เป็นรองหัวหน้าพรรคและเป็นรองนายกรัฐมนตรีสมัย นายนาจิบ ราซัก เป็นนายกฯ ต่อมาโดนปลดออกจากตำแหน่ง จึงได้ลาออกจากพรรคอัมโน มาตั้งพรรคเบอร์ซาตูร่วมกับ ดร.มหาธีร์ ในรัฐบาล PH และได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการภายใน
การลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของมหาธีร์ นัยว่าเพื่อสกัดการก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของ นายอันวาร์ อิบราฮิม อดีตแกนนำฝ่ายค้านคนสำคัญในยุครัฐบาลอัมโน ซึ่งมีข้อตกลงทางการเมืองกับ ดร.มหาธีร์ หลังจับมือกันเอาชนะเลือกตั้งเมื่อวันที่ 8 พ.ค.61 ว่าจะให้ ดร.มหาธีร์ ก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีก่อนเป็นเวลาครึ่งวาระ จากนั้นจะให้ นายอันวาร์ นั่งเก้าอี้ต่อ แต่เมื่อใกล้ครบเวลาตามที่ตกลง ดร.มหาธีร์ ได้ตัดสินใจลาออก และพยายามรวบรวมเสียงข้างมากเพื่อให้ตนเองได้เป็นนายกฯต่อไปในครึ่งวาระที่เหลือ แต่ไม่สำเร็จ ตำแหน่งนายกฯตกเป็นของ ตันสรี มูห์ยิดดิน ยัสซิน ทว่าก็ทำให้ นายอันวาร์ พลาดหวังอีกครั้งในการก้าวขึ้นเป็นผู้นำประเทศ
ความไม่แน่นอนทางการเมืองของมาเลเซีย ทำให้หลายฝ่ายในประเทศไทยกังวลว่าอาจกระทบกับกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่คณะพูดคุยฝ่ายรัฐบาลไทย นำโดย พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ หัวหน้าคณะพูดคุยฯ เปิดโต๊ะพูดคุยกับแกนนำบีอาร์เอ็น นำโดย นายอนัส อับดุลเราะห์มาน หรือ อุสตาซหีพนี มะเร๊ะ โดยได้ทำความตกลงเดินหน้ากระบวนการพูดคุยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 20 ม.ค.63 และนัดพบปะหารือครั้งต่อไปในวันที่ 2-3 มี.ค.ที่จะถึงนี้
ก่อนหน้านี้มีการคาดหมายกันว่า หากนายกรัฐมนตรีมาเลเซียเปลี่ยนตัวจาก ดร.มหาธีร์ เป็นนายอันวาร์ กระบวนการพูดคุยดับไฟใต้อาจจะต้องนับหนึ่งใหม่ เพราะนายอันวาร์น่าจะเริ่มกระบวนการใหม่ทั้งหมด และตั้งผู้อำนวยความสะดวกคนใหม่แทน ตันสรี อับดุลราฮิม มูฮัมหมัด นูร์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาเลเซีย ซึ่งเคยชกหน้านายอันวาร์
แต่เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงของการเตรียมการเดินหน้าโต๊ะพูดคุยดับไฟใต้ ดร.มหาธีร์ ยังคงมีสถานะเป็นนายกฯรักษาการ ทำให้กระบวนการเตรียมการยังคงเดินหน้าต่อ และล่าสุด "ทีมข่าวอิศรา" ได้รับการยืนยันจากทีมงานคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขฯฝ่ายรัฐบาลไทยว่า ยังไม่มีการแจ้งเลื่อนนัดการเปิดโต๊ะพูดคุย
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณ : ภาพประกอบจากเฟซบุ๊ค ตันสรี มูห์ยิดดิน ยัสซิน
อ่านประกอบ :
"พล.อ.วัลลภ" นำทีมเปิดโต๊ะพุดคุยตัวแทนบีอาร์เอ็นที่มาเลย์
คณะพูดคุยฯ ออกแถลงการณ์ร่วมถก "บีอาร์เอ็น"